รอบด้านตลาดหุ้น by  Bualuang Securities  

21 ก.ค. 2559 | 03:45 น.
ขึ้นสลับย่อ

เมื่อวานดัชนีแรลรี่ทะลุแนวต้าน 1,500 จุด คาดมาจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ค้างมา 2 วันทำการ โดยหุ้นที่ขึ้นดันดัชนีฯจากแรงซื้อฝรั่ง ได้แก่ กลุ่มปิโตรฯ สื่อสาร (PTTGC IVL SCC TRUE ADVANC)

วันนี้คาด แกว่งในกรอบ 1,490-1,515 จุด หุ้นที่ขึ้นแรงเมื่อวานคาดพักตัวส่งผลดัชนีฯบวกต่อจำกัด ส่วนหุ้นที่ Laggard เมื่อวาน (และ Laggard รอบนี้) คาดว่าจะถูกสลับขึ้นมาเล่นแทน เช่น กลุ่มนิคมฯ และหุ้น Laggard ในกลุ่ม รับเหมาฯ, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, Utilities, อาหาร, ค้าปลีก คาดจะมี Gap ให้เล่นรอบ (หุ้นในกลุ่มดังกล่าว เราพบว่ายัง Underperform ตลาด เทียบตั้งแต่ช่วงเดือนก่อนและช่วง BREXIT ได้แก่ AMATA WHA NNCL ROJNA DELTA BH RATCH TACC SF)

สัปดาห์นี้คาดดัชนีฯ ผันผวน แนวรับ 1,480/1,470 จุด แนวต้าน 1,500 จุด (ขยับกรอบขึ้นเป็น 1,490-1,520 จุด) ข่าวบวก ยังคงเป็นแรงซื้อคืนจากคาดเฟดเลื่อนขึ้นดอกเบี้ยปลายเดือนนี้ (+ตลาดหุ้น และ หน่วยลงทุนปันผลสูง), กองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์หนุนเศรษฐกิจไทย (+แบงก์ รับเหมา วัสดุก่อสร้าง) ข่าวลบคือการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลง IMF ลดคาดการณ์ GDP โลกปี 2016-17 ลงเหลือ 3.1-3.4% จาก 3.2-3.5% ส่วน EU ลดปีนี้เหลือ 1.3-1.5% จาก 1.7% ส่วนการประชุม ECB วันนี้ คาดไม่เพิ่มมาตรการกระตุ้น (อาจสร้างความผิดหวังให้ตลาดในบ่ายวันนี้)

สำหรับแนวโน้มรายเดือน ครึ่งแรกของเดือน กค.ขึ้นตามคาด รับกระแส แนวโน้มเฟดเลื่อนขึ้นดอกเบี้ย, ออกกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ หนุนเศรษฐกิจไทย ช่วงครึ่งเดือนหลังคาดผันผวน มีแนวโน้มจะพักฐานลงเพื่อรอดู Earning preview ผลการดำเนินงาน บจ. 2Q16, การรอดูผลประชามติร่าง รธน.ไทย 7 สค. คาดส่งผลให้แรงซื้อต่างชาติชะลอลง คาดกรอบ 1,440-1,480 จุด (กรอบรายเดือนขยับขึ้น 1,480-1,520 จุด)

หุ้นแนะนำวันนี้ TACC แนวรับ 6.15 บ. แนวต้าน 6.5/7 บ. ประเด็นเรื่องตั้ง Distributors ในจีน (เหมือนที่ TKN SAPPE และให้ Subsidiary ของ อาลีบาบา ขายสินค้าออนไลน์ คาดเป็น Upside ต่อคาดการณ์กำไรของ Consensus ปัจจุบันยังเทรดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีกที่ 32 เท่า, WHA AMATA ROJNA NNCL (กลุ่มนิคมฯ laggard สุดรอบนี้)

รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้

(0/-) TMB รายงานกำไร 2.2 พันล้านบาท ลดลง 5%YoY แต่เพิ่มขึ้น 3%QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด อย่างไรก็ดีการตั้งสำรองในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% YoY และ 6% QoQ ส่งผลให้เราปรับกำไรปีนี้ลง 7% เป็น 10,500 ล้านบาท และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 2.91 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ

(+) SCB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/59 ออกมาที่ 12.8 พันล้านบาท ลดลง 3% YoY แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.5% QoQ กำไรที่ออกมาต่ำกว่าที่เราประมาณการ 4% อย่างไรก็ตามมุมมองในไตรมาส 3/59 เรามองว่า กำไรน่าจะปรับตัวได้ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จากอัตราการเติบโตของสินเชื่อ  อีกทั้งเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ SCB ในปี 2016 และ 2017 จาก 1) การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของกำไร ประกอบกับการเร่งลงทุนในโครงการภาครัฐและภาคเอกชนใน 2H16, 2) การบริหารจัดการคุณภาพสินเชื่อที่ดี และ 3) ROE อยู่ในระดับสูงที่ 15% สำหรับปีนี้ และ 16% สำหรับปีหน้า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

(+/-) KTC รายงานกำไร 2Q16 ที่ 580 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% YoY แต่ลดลง 9% QoQ กำไรมากกว่าที่เราคาด 5% และมากกว่าตลาดคาด 12% จากส่วนต่างดอกเบี้ยที่ดีกว่าคาด เพราะหลังจากที่ TRIS มีการปรับ credit rating ของบริษัทขึ้น บริษัทมีต้นทุนการเงินที่ต่ำลง เราคาดกำไร 3Q16 จะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากการบริหารสินทรัพย์ได้ดีและส่วนต่างดอกเบี้ยที่ยังคงสูง อย่างไรก็ดีด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาจนอยู่ในระดับ P/E 14 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยนอดีตที่ 12.9 เท่า เราจึงปรับคำแนะนำลงเป็น ขาย

(-) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมเดือน มิ.ย. ปรับตัวลง 6% YoY ในขณะที่สื่อทีวีลดลงเช่นเดียวกันที่ 10% YoY สำหรับภาพรวม 1H16 เม็ดเงินโฆษณาโดยรวมลดลงไป 8% YoY และสื่อทีวีลดลง 11% YoY (ทีวีแอนาล๊อกลดลง 11%, ทีวีดาวเทียมลดลง 17% และ ดิจิตอลทีวีลดลง 9% YoY) ในด้านของเรตติ้ง BEC ปรับตัวขึ้นยกกลุ่มทั้ง 3HD (+3% MoM), 3SD (+45% MoM) และ 3 Family (+103% MoM) จากการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2016 ขณะที่ช่องวาไรตี้อื่นๆ MONO ปรับตัวดีที่สุดในเดือน มิ.ย. (+10% MoM) ในขณะที่ WORK ปรับตัวลงเยอะที่สุด (-19% MoM) จากไม่มีการถ่ายทอดรายการกีฬา โดยรวมแล้วเราคาดว่า อันดับเรตติ้งคงยังเกาะกลุ่มผู้นำ ซึ่งนำโดย WORK, MONO, RS และ GMM ONE ตามลำดับ เรายังคงชื่นชอบ WORK ที่สุดในกลุ่ม จากตัวเรตติ้งและกำไรที่ค่อนข้างรักษาระดับได้อย่างแข็งแกร่ง

หุ้นมีประเด็น

(+) TACC แจ้งตลาดเรื่องได้ลิขสิทธิ์ขายสินค้าภายใต้ แบรนด์ Sanrio (คิตตี้ แบดแบดมารุ ฯลฯ) ใน 7/11 ทั่วประเทศ (ที่มา ตลท.)

(+) TVD แจ้งตลาด บริษัทฯ Tri Stage จากญี่ปุ่นเข้าถือหุ้น 15% จับมือเป็นพันธมิตรธุรกิจ สัปดาห์หน้าบริษัทฯจะปรับเป้ายอดขายใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิม 3.2 พันล้านบาท โดยภายใน 12 เดือน จะเร่งให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่น เพื่อทำตลาดร่วมกัน เชื่อเทคโนโลยีจาก ญี่ปุ่น และ การทำการตลาดร่วมจะลดต้นทุน และ ผลักดันกำไรในระยะยาว (ที่มา ตลท.)

(+) ILINK ITD วันนี้ชิงดำประมูล E Auction กฟน. นำสายไฟฟ้าลงดิน โครงการนนทรี มูลค่า 2.5 พันล้านบาท ระยะทาง 8.3 กม. (ที่มา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

(0/+) วันนี้ประชุมธนาคารกลางยุโรป คาดคงดอกเบี้ย และไม่มีมาตรการใดๆเพิ่มเติม ส่วนโครงการซื้อสินทรัพย์ APP purchase คาดคงไว้ที่ 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ไปถึงเดือน มีค.ปีหน้า และตลาดคาดยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะขยายเวลาหรือวงเงินในการประชุมครั้งนี้ (เราคาด 1-2 วันนี้ตลาดหุ้นโลกยังมีแรงซื้อคืนหรือไม่ขายเพิ่ม เพราะไม่แน่ใจ ECB จะสร้าง Positive surprise หรือไม่)

(+) ที่ประชุม รมว.คลัง G20 จะมีออกแถลงการณ์ กระชับความร่วมมือ ในสัปดาห์นี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดและเศรษฐกิจหลังมีความเสี่ยงต่อภาพรวมเศรษฐกิจเพิ่ม

(0) วันนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย คาดคงดอกเบี้ย 6.50% ในการประชุมวัน

(+) วันศุกร์ EU PMI คาดดัชนีรวมลดลงเหลือ 52.5 จาก 53.1

ที่มา:บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง