พาณิชย์ เตรียมประสานก.พลังงานปรับลดปริมาณการใช้น้ำมันปาล์ม

พาณิชย์ เตรียมประสานกระทรวงพลังงานปรับลดปริมาณการใช้น้ำมันปาล์ม ไปผลิตไบโอดีเซล จาก บี 7 เหลือ บี 5 บริหารจัดการ

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะอนุกรรมการด้านการตลาดปาล์มน้ำมัน ว่า กระทรวงพาณิชย์ เตรียมประสานกระทรวงพลังงาน ปรับลดปริมาณการใช้น้ำมันปาล์ม เพื่อนำไปผลิตเป็นไบโอดีเซล จากบี7 ลดลงเหลือ บี 5 ตั้งแต่เดือนกค. นี้ ตามมาตรการบริหารจัดการน้ำมันปาล์มในประเทศเพื่อให้มีความสมดุลกับปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันประเทศในปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้งทำให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันลดลงไปร้อยละ 20 โดยผลผลิตปาล์มน้ำมันที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดการณ์ไว้ อยู่ที่ 10.94 ล้านตันในปีนี้

สำหรับความต้องการใช้ ไบโอดีเซล เพื่อผลิตบี 7ปกติจะอยู่ประมาณเดือนละ 80,000 ตัน แต่ เมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ ความต้องการใช้ไบโอดีเซล เพิ่มเป็น 88,000 -90,000 ตันต่อเดือน ทางกะรทรวงพาณิชย์เห็นว่าควรจะใช้การปรับสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซลลง เพื่อ ไม่ให้กระทบกับน้ำมันเพื่อการบริโภค

มาตรการนี้จะช่วยสร้างความสมดุลในการบริหารสต็อกน้ำมันปาล์มในประเทศไม่ให้ขาดแคลน และไม่ให้กระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันขวดที่ กรมการค้าภายในกำหนดเพดานราคาควบคุมไว้ที่ 42 บาทต่อลิตร โดยปัจจุบัน safety stock ของน้ำมันปาล์มดิบ อยู่ที่ 220,000 ตัน ในขณะที่ มีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคที่ 80,000 ตันต่อเดือน

ทั้งนี้ ความกังวลเรื่องผลผลิตปาล์มที่ลดน้อยลงจากภัยแล้ง ขณะนี้ เริ่มลดน้อยลง หลังจากเริ่มมีฝนตก ซึ่ง แม้ผลผลิตจะน้อย แต่ คาดว่าจะทำให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ สถานการณ์
ไม่น่าเป็นห่วงและสามารถบริหารจัดการได้ ราคาผลปาล์มสดขณะนี้อยู่ที่ 5.50 -5.60 บาทต่อกก. ที่เปอร์เซ็นต์ น้ำมัน 17 %

นางอภิรดี กล่าวเพิ่มเติมว่ารัฐบาลยังมีมาตรการเสริม ในการดูแลราคาปาล์มให้มีเสถียรภาพ โดยหากราคาปาล์มไม่ต่ำกว่า 4.20 บาทต่อกก. ( น้ำมัน 17 % ) ก็จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด แต่หากราคาตกต่ำกว่า 4.20 บาทก็จะมีมาตรการให้องค์การคลังสินค้าเข้ามาแทรกแซง