ไอศกรีมแข่งดุเบเกอรี่เบียด โคล สโตนฯดิ้นปรับกลยุทธ์ทำตลาดเชิงรุกแบบครบวงจร

28 พ.ค. 2559 | 04:30 น.
ตลาดไอศกรีมแข่งดุหลังผู้ประกอบการเบเกอร์รี่ปรับเมนูชูไอศกรีมเจาะผู้บริโภค “โคล สโตน”ปรับกลยุทธ์ หั่นราคา เพิ่มรสชาติ พร้อมสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางต่างๆครบวงจร หวังเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย คาดสิ้นปียอดโต 40% ตั้งเป้า 5 ปี ก้าวขึ้นเป็น Top of mind ของไอศกรีมซูเปอร์พรีเมียม

นางวชิราภรณ์ วานิชชัย ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ โคล สโตน ครีมเมอรี่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันตลาดไอศกรีมเมืองไทยมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เพราะนอกจากตลาดไอศกรีมกลุ่มแมส พรีเมียม ซูเปอร์พรีเมียมที่เป็นผู้เล่นหลักอยู่ในตลาดแล้ว กลุ่มธุรกิจเบเกอรี่ ต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับการแตกไลน์เมนูใหม่ๆ ที่มีการนำเอาไอศกรีมไปเป็นส่วนประกอบสำคัญ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกสำหรับของหวานมากขึ้น ดังนั้นเพื่อรองรับการแข่งขันดังกล่าวจึงปรับกลยุทธ์ทางการตลาดและแคมเปญให้หลากหลาย พยายามเน้นพัฒนารสชาติของไอศกรีม และกลุ่มสินค้าใหม่ๆที่เข้ากับแบรนด์ และลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบริษัท เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกเบื่อและรู้สึกอินเทรนด์สดใหม่ตลอดเวลาที่ได้เข้าร้าน

สำหรับปีนี้ได้วางงบประมาณด้านการตลาดไว้มากกว่า 15 % ของยอดขาย โดยให้ความสำคัญกับการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น ทั้ง Above the line และ Below the line เน้นทำตลาดทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์จะเน้นสร้างความหลากหลายในรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และยูทูบ มีการจัดแคมเปญโปรโมชันราคาพิเศษ และจัดกิจกรรมการตลาดต่างๆ

“บริษัทจะมีการลอนช์สินค้าใหม่ทุกๆ 2 เดือน และก็มีการปรับราคาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยเน้นโปรโมตเป็นไอศกรีมโคนในราคาเริ่มต้นเพียง 89 บาทเท่านั้น และเน้นการทำการตลาด Delivery and Catering ซึ่งปัจจุบันได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีจากหน่วยงานเอกชน และบุคคลทั่วไป ส่วนช่วงปลายไตรมาสที่ 2 จะเปิดตัวไลน์สินค้าใหม่ของแบรนด์อีก 8 รายการ”

ล่าสุดบริษัทได้จัดแคมเปญ “Cold Stone Free Ice-Cream Day 2016” ที่ทุกๆปีทางสหรัฐอเมริกาจะถือว่าเดือนกรกฎาคม เป็น National Ice Cream Month และกำหนดว่าทุกวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม เป็น National Ice Cream Day ด้วย เพราะคนอเมริกันมากกว่า 90% มีความชื่นชอบ และนิยมทานไอศกรีมเป็นประจำมากกว่าชาติอื่นใดในโลก ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริม National Ice Cream Month จึงจัดแคมเปญดังกล่าวและปีนี้เป็นปีที่ 2 จึงเพิ่มความพิเศษมากขึ้น โดยขยายช่วงเวลาการจัดกิจกรรมเป็นเวลา 2 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน- กรกฎาคมนี้ และได้เพิ่มจำนวนการแจกเป็น 355 โคนต่อสาขา นอกจากนี้ยังจัดโปรโมชันส่วนลดสุดพิเศษทุกสินค้า 20% ตลอดเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม ควบคู่กับการเพิ่มช่องทางการโปรโมต Cold Stone Free Ice Cream Day ปีที่ 2 นี้ ในรูปแบบกิจกรรมออนไลน์มีเพลงใหม่ที่แต่งขึ้นเพื่องานในปีนี้โดยเฉพาะชื่อเพลง “วันว่าง (Free Day)” ได้ศิลปินเน็ตไอดอลชื่อดัง “Kanomroo” มาสร้างสีสัน

ส่วนของแผนการขยายสาขาตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 4 - 5 สาขา จากปัจจุบันมีทั้งหมด 19 สาขา คือกรุงเทพฯ 17 สาขา และต่างจังหวัด 2 สาขา และจะเปิดสาขาอื่นๆเพิ่มในทำเลที่มีศักยภาพและตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยตั้งเป้าภายในสิ้นปีจะขยายให้ได้อย่างน้อย 23 สาขา

อย่างไรก็ตามภาพรวมของตลาด Ice cream Chain Store มีมูลค่ารวมโดยประมาณอยู่ที่ 6.8 พันล้านบาท คาดว่าปีนี้ตลาดจะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 9% (การคาดการณ์จาก CRG) สะท้อนจากตัวเลขของยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ระบุว่า ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาตลาดไอศกรีมไทยเติบโตไม่น้อยกว่าปีละ 6% ขณะที่ภาพรวมของบริษัทครึ่งปีแรกเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่า 40% ส่วนหนึ่งมาจากภาครัฐกระตุ้นกระแสการจับจ่ายในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จึงมั่นใจว่าในปีนี้โคล สโตน จะสามารถเติบโตได้มากกว่า 40% อย่างแน่นอน ซึ่งหากภาพรวมเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ได้คาดการณ์ตัวเลขยอดขายในอีก 5 ปีข้างหน้า ว่าจะมีมากกว่า 500 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็น Top of mind ของไอศกรีมระดับซูเปอร์พรีเมียม ซึ่งปัจจุบันบริษัทเป็นที่ 1 สำหรับกลุ่มตลาดไอศกรีมมิกซ์-อิน ระดับซูเปอร์พรีเมียมอยู่แล้ว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,160 วันที่ 26 - 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559