กรุงเทพประกันขีวิตไตรมาส 1 เบี้ยประกันรับปีแรกโต15%

15 พ.ค. 2559 | 13:08 น.
Breaking-News ในไตรมาสที่ 1/2559 กรุงเทพประกันชีวิตมีเบี้ยประกั นรับปีแรกจำนวน 2,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 โดยมีการเติบโตของเบี้ยประกันรั บปีแรกในช่องทางธนาคาร ช่องทางตัวแทน และช่องทางอื่นๆ ที่ร้อยละ 10 ร้อยละ 16 และร้อยละ 72 ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจ (ข้อมูลธุรกิจ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559) บริษัทมีการเติบโตของเบี้ยประกั นรับปีแรกร้อยละ 13 สูงกว่าอัตราเติบโตของธุรกิ จประกันชีวิตที่เติบโตร้อยละ 4

สำหรับเบี้ยประกันรับปีต่ อไปในปี 2559 เนื่องจากมีแบบประกันที่ ครบกำหนดชำระเบี้ยในปี 2558 ทำให้บริษัทมีการชะลอตั วลงของเบี้ยปีต่อในไตรมาส 1/2559 ที่ร้อยละ 21 และเป็นสาเหตุของเบี้ยประกันภั ยรับสุทธิที่ลดลง ร้อยละ 18 โดยบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับสุ ทธิจำนวน 12,856 ล้านบาทในไตรมาส 1/2559

บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 จำนวน 266,319 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2558 ร้อยละ 7 โดยรายการสำคัญที่มีอัตราการเติ บโตสูงคือ รายการสินทรัพย์ลงทุนที่มี การเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากการเติบโตของเงินสำรองที่เพิ ่มขึ้นร้อยละ 9 จาก 207,308  ณ สิ้นปี 2558 เป็น 225,157 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2559

จากสภาวการณ์การลดลงของดอกเบี้ยในตลาด ระหว่างไตรมาสที่ 1/2559 ส่งผลกระทบทั้งด้านสินทรัพย์ และหนี้สิน โดยในด้านสินทรัพย์ จะมีมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ ลงทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี ้ระยะยาว เพิ่มสูงขึ้นถึง 12,171 ล้านบาท แต่เนื่องจากระบบมาตรฐานบัญชีที ่ใช้ในปัจจุบัน เป็นการบันทึกด้วยราคาทุนตั ดจำหน่าย ทำให้มูลค่ายุติธรรมของสินทรั พย์ลงทุนที่เพิ่มขึ้นนั้น ไม่ได้ถูกสะท้อนในงบกำไรขาดทุน ส่วนในด้านหนี้สิน ซึ่งคือเงินสำรองประกันชีวิต ได้รับผลกระทบโดยตรงเช่นกัน ซึ่งบริษัทต้องตั้งเงินสำรองพิ เศษ ( LAT Reserve ) เพิ่มขึ้น 10,380 ล้านบาท และต้องสะท้อนค่าใช้จ่ายที่เพิ่ มขึ้นนี้ในงบกำไรขาดทุนด้วย จึงเป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลให้ ผลประกอบการของบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 6,888 ล้านบาท

กรณีที่มีการปรับปรุงมูลค่ายุติ ธรรมของสินทรัพย์ลงทุ นและสำรองประกันชีวิตตามแนวปฎิ บัติเรื่อง “การกำหนดให้เครื่องมื อทางการเงินเป็นเครื่องมื อทางการเงินที่แสดงมูลค่ายุติ ธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุ นตราสารหนี้ในงบกำไรขาดทุน” บริษัทจะมีกำไรจากการดำเนิ นงานสำหรับไตรมาส 1/2559 จำนวน 2,735 ล้านบาท

บริษัทมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio – CAR)  ณ สิ้นไตรมาส 1/2559 ที่ระดับ 329% เพิ่มขึ้นจาก 309% เมื่อสิ้นปี 2558 โดยสูงกว่าระดับที่ กฎหมายกำหนดที่ 140% อยู่มากกว่า 2 เท่า จึงแสดงถึงความมั่ นคงในฐานะทางการเงินของบริษัท

ในไตรมาส 1/2559 บริษัทได้แนะนำแบบประกันใหม่ ได้แก่ บีแอลเอ รักษ์สุขภาพ และ บีแอลเอ เบาหวานเทคแคร์ แบบประกันใหม่ทั้ง 2 แบบเป็นแผนคุ้มครองสุขภาพในช่ องทางตัวแทน รวมทั้งการทำตลาดของบีแอลเอ พร้อมเกษียณ ซึ่งได้รับการยอมรั บจากประชาชนที่ต้องการวางแผนเพื ่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเกษี ยณอายุในอนาคต  แบบประกันที่พัฒนาขึ้นเหล่านี้ สามารถช่วยเพิ่มการเติบโตของเบี ้ยประกันรับปีแรกในไตรมาส 1/2559

บริษัทยังพัฒนาศักยภาพของช่ องทางจำหน่ายต่างๆ ในช่องทางตัวแทน บริษัทสามารถสร้างตัวแทนประกั นชีวิตและพัฒนาที่ปรึกษาการเงิ นอย่างต่อเนื่ องตามแผนงานในไตรมาส 1/2559  นอกจากนี้บริษัทยังร่วมมือกับพั นธมิตร 3 องค์กร ร่วมพัฒนาทีมที่ปรึกษาการเงินมื ออาชีพ smart 3B ซึ่งได้มีการเปิดตัวตั้งแต่ ปลายไตรมาสที่ 1 เป็นต้นมา