"แจส" ส่งหนังสือชี้แจงรายละเอียดกับสำนักงาน ก.ล.ต. อีกรอบ กรณีไม่จ่ายค่าคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ชี้เหตุผลนักลงทุนจากประเทศจีนสนใจร่วมลงทุน แต่ติดขัดด้านข้อจำกัดของระยะเวลา คาดว่าแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนเมษายน 2559 ซึ่งไม่ทันกำหนดระยะเวลา 90 วันตามที่ระบุในประกาศ กสทช. ย้ำอีกรอบริบเงินประกัน 644 ล้านบาทไม่มีผลอย่างเป็นนัยสำคัญ กรณีซื้อหุ้นคืนกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้น 29 เม.ย.นี้
นายพิชญ์ โพธารามิก กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ("สำนักงาน ก.ล.ต.") ถึงเหตุผลที่ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ไม่สามารถนำเงินค้ำประกันจากสถาบันการเงินจำนวน 7.2 หมื่นล้านบาท มาชำระได้ทันตามกำหนดเวลาที่สำนักงาน กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ในวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา
เนื่องจากว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศจีน (ซึ่งสนใจร่วมลงทุนในบริษัท แจสโมบายฯ และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งใหญ่ของประเทศจีน) ติดข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลาในการขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องของประเทศจีนซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนเมษายน 2559 ซึ่งไม่ทันกำหนดระยะเวลา 90 วันตามที่ระบุในประกาศ กสทช.และ สำนักงาน กสทช. ก็ไม่สามารถผ่อนปรน หรือผ่อนผันเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาใดๆ ตามที่ระบุไว้ในประกาศ กสทช.
ดังกล่าวให้แก่บริษัท แจสโมบายฯได้ ทำให้บริษัท แจสโมบายฯ ไม่สามารถนำหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินจำนวนประมาณ 7.2หมื่นล้านบาท มามอบให้แก่สำนักงาน กสทช. ได้ตามกำหนดเวลา
อย่างไรก็ตามในส่วนของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ บริษัท แจสโมบายฯ มิได้ไปขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ในครั้งนี้นั้นที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทได้ให้ความเห็นว่า บริษัท แจสโมบายฯ ต้องถูกริบเงินประกันการประมูลจำนวน 644 ล้านบาท บริษัท แจสโมบายฯ และ กลุ่มบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดในค่าเสียหายใดๆ เพิ่มเติม
เนื่องจากประกาศ กสทช. ไม่ได้ระบุให้ผู้ชนะการประมูลต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ เพิ่มเติม นอกเหนือจากเงินประกันการประมูลจำนวน 644 ล้านบาท โดยข้อ 6 วรรคท้ายของประกาศ กสทช. และ ข้อ 5 วรรค 2 ของแบบ "หนังสือยินยอมของผู้ขอรับใบอนุญาต" แนบท้ายของประกาศ กสทช. ระบุไว้แต่เพียงว่า "ในกรณีที่ผู้ชนะการประมูลไม่ดำเนินการตามเงื่อนไขก่อนรับใบอนุญาตให้ถูกต้อง และครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าผู้ชนะการประมูลนั้นสละสิทธิที่จะได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ตามประกาศ กสทช. และคณะกรรมการสงวนสิทธิที่จะริบหลักประกันการประมูล"
เหตุดังกล่าวนี้ ก็ไม่ได้เป็นเหตุเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมอื่นๆ ที่กลุ่มบริษัท ได้รับจากสำนักงาน กสทช. และใช้ประกอบกิจการอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทยังสามารถดำเนินการได้โดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น อนึ่งจำนวนเงินประกันการประมูลดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางการเงิน เนื่องจากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมของบริษัทแล้ว คิดเป็นเพียงร้อยละ 1.27 เท่านั้น และเงินประกันการประมูลดังกล่าวมาจากทุนชำระแล้วของบริษัท แจสโมบายฯ และเงินที่บริษัทให้กู้ยืม ซึ่งมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทในปี 2559 รวมจำนวน 644 ล้านบาท
สำหรับตามหนังสือที่อ้างถึง ข้อ 5 บริษัทขอเรียนว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 25มกราคม 2559 อนุมัติให้การจ่ายเงินปันผลประจำปี 2558 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 2,140.059 ล้านบาท และบริษัทได้นำเรียน ตลท. ตามหนังสือของบริษัทที่ RC 007/59 ลงวันที่ 25 มกราคม 2559 สำหรับตามหนังสือที่อ้างถึง ข้อ 6 เป็นการซื้อหุ้นคืนของบริษัทโดยคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติ
ขณะที่โครงการซื้อหุ้นคืน เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2559 และบริษัทได้นำเรียน ตลท. ตามหนังสือของบริษัท ที่ RC 010/59 ลงวันที่ 7 มีนาคม 2559 เนื่องจากการซื้อหุ้นคืนคิดเป็นร้อยละ 16.82 ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท ซึ่งเกินกว่าร้อยละ 10 จะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งได้กำหนดวันไว้แล้ว คือวันที่ 29 เมษายน 2559
อนึ่งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา บมจ.จัสมินฯ ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อกรรมการและ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งมติที่ประชุมของบริษัทเรื่องการประมูล 4G ของ JASMBB (บริษัท แจสโมบาย บรอดแบนด์ จำกัด)
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,151 วันที่ 24 - 27 เมษายน พ.ศ. 2559