ลดความเร็ว ลดความเสี่ยง สงกรานต์ปลอดภัย 2559

12 เม.ย. 2559 | 00:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

“หากรถวิ่งในความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีความผิดตามกฎหมาย ม.67 ต้องโทษปรับตั้งแต่ 200- 500 บาท อัตราตามข้อกำหนดปรับไม่เกิน 1,000 บาท”

คุณพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครื่อข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์ปี 2559 เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน โดยทาง สคอ. ได้รณรงค์และสร้างกระแสการรับรู้ เพื่อตระหนักถึงความปลอดภัยทางท้องถนนแก่ประชาชนในเรื่อง “ลดความเร็ว ลดความเสี่ยง สงกรานต์ปลอดภัย 2559” เนื่องด้วยจากสถิติพบว่ากว่าร้อยละ 76 ของอุบัติเหตุบนทางหลวงเกิดจากการขับขี่ที่เร็วเกินกำหนด และที่สำคัญ 2 ใน 3 เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุทั้งหมด

ผู้อำนวยการสำนักงานเครื่อข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เปิดเผยต่ออีกว่า “เขตเมือง 60 นอกเมือง 90” สำหรับแผนการรณรงค์ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนขับขี่ยานพาหนะด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด โดยในเขตเมืองควรใช้ความเร็วที่ 60 กม./ชม. และนอกเขตเมืองควรใช้ความเร็วที่ 90 กม./ชม. ซึ่งการขับขี่ด้วยความเร็วดังกล่าวหากเกิดอุบัตติเหตุจะสามารถช่วยลดการบาดเจ็บ ตาย และพิการได้ และที่สำคัญเมื่อนำผลต่างของการใช้ความเร็วในการขับขี่นอกเขตเมืองมาเปรียบเทียบกันระหว่าง ความเร็วที่ 90 กม./ชม. และ ความเร็วที่ 120 กม./ชม. ในระยะทาง 30 ก.ม.เท่ากัน จะถึงที่หมายต่างกันเพียง 5 นาทีเท่านั้น แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นคืออัตราการรอดชีวิตจะสูงขึ้น 3-4 เท่าของการเกิดอุบัติเหตุ

[caption id="attachment_43761" align="aligncenter" width="500"] ลดความเร็ว ลดความเสี่ยง สงกรานต์ปลอดภัย 2559 ลดความเร็ว ลดความเสี่ยง สงกรานต์ปลอดภัย 2559[/caption]

นอกจากนี้การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการช่วยเหลือและร่วมกันลดการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน ยกตัวอย่างเช่น การจัดตั้ง “ด่านชุมชน” เพื่อคอยตรวจสอบ สกัดกลุ่มเสี่ยง และลดพฤติกรรมการเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ ป้องปราม ควบคุมการดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ระหว่างขับขี่ และการขับขี่ที่มีความเร็วเกินตามกฎหมายกำหนด เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีด้านความปลอดภัย รวมไปถึงยกระดับการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทยต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,147 วันที่ 10 - 13 เมษายน พ.ศ. 2559