ตั้ง‘ชุดปราบโกง’ระยะที่3 ขีดเส้นถึงครม.กันยายนนี้

11 เม.ย. 2559 | 04:00 น.
เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้จัดสัมมนารับฟังผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน เพื่อร่วมสอบทานสถานการณ์ ปัญหา และอุปสรรคของการดำเนินการยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 2 ที่ผ่านมา เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปประกอบวิสัยทัศน์ พันธกิจ และนำไปสู่การปฏิบัติ แก้ไขการทุจริตคอร์รัปชัน ก่อนนำมายกร่างเป็นยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2561 - 2565) เป็นกรอบการทำงาน และกลไกขับเคลื่อนงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต หวังยกระดับความโปร่งใสให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. นำโดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งมี ดร. อุทิศ ขาวเธียร เป็นประธาน มีผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำหน้าที่ศึกษาสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต วิเคราะห์สภาพแวดล้อม เพื่อยกร่างยุทธศาสตร์ชาติฯดังกล่าว มีสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ ทั้งยังตั้ง ที่ปรึกษาคณะทำงาน 3 ราย ประกอบด้วย พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รศ.มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ และนายประหยัด พวงจำปา เลขาธิการ ป.ป.ช.

โดยที่ผ่านมาคณะทำงานมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ชาติฯ ระยะที่ 3 ให้แล้วเสร็จตามกำหนด โดยได้ดำเนินการไปแล้วหลายขั้นตอน อาทิ การสังเคราะห์รายงานศึกษาและวิจัย รวบรวมข้อมูลสถานการณ์ทุจริตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กฎหมาย ระเบียบและนโยบายที่เกี่ยวข้อง การจัดเก็บข้อมูลจากแบบสอบถาม และจัดให้มีการประชุมระดมความเห็นผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด (ป.ป.จ.) รวมถึงการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ล่าสุด ป.ป.ช.ได้แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2561 - 2565) ซึ่งมี ศ.ภักดี โพธิศิริ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ และคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ เพื่อจัดทำร่างยุทธศาสตร์ฉบับดังกล่าวขึ้นด้วย ซึ่งในการประชุมมอบนโยบายกับคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2559 ที่ผ่านมานั้น พล.ต.อ.วัชรพล ประธาน ป.ป.ช. กล่าวกำชับว่า จะต้องจัดทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปจัดทำคำของบประมาณประจำปี 2561 ในเดือนตุลาคม 2559 ได้เพียงพอต่อการดำเนินการโครงการต่างๆ

"หากไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จ ส่วนราชการต่างๆจะไม่สามารถตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์เพราะสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต คือ การที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญและจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานภาครัฐต่างๆให้เพียงพอ และควรเป็นงบประมาณที่มีสัดส่วนจากงบประมาณภาพรวมที่ชัดเจน เพราะงานป้องกันและการปลูกฝังค่านิยม การรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องมีงบประมาณดำเนินการอย่างเพียงพอจึงจะสำเร็จ" พล.ต.อ.วัชรพล ประธาน ป.ป.ช.ระบุย้ำ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,146 วันที่ 7 - 9 เมษายน พ.ศ. 2559