"ธนาธร" ดิ้น
ปลุกม็อบ
สู้ยุบพรรค
ออกอาการ “อยู่ไม่เป็น(สุข)” เมื่อมีข่าวออกมาว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติและได้ส่งคำร้องยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่ ถึงมือ “ศาลรัฐธรรมนูญ” กรณีกู้ยืมเงิน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 191.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่ศาลรัฐธรรมนูญอาจพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 วรรค 1 (3) ประกอบมาตรา 93 ของกฎหมายเดียวกันได้
คำร้องดังกล่าวถูกจับจ้องว่า อาจถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วันพุธสัปดาห์หน้าว่าจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่
ในความเห็นของ “กกต.” นั้น ถือว่าข้อเท็จจริงยุติแล้ว เหลือเพียงปัญหาการตีความข้อกฎหมายว่า พรรคกู้ยืมเงินมาใช้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้หรือไม่ และเงินกู้ดังกล่าวถือเป็นการบริจาคเงินเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่เท่านั้น
มาตรา 62 พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 เขียนต่างจากปี 2550 ที่กำหนดรายได้อื่นไว้ ทำให้พรรคการเมืองในขณะนั้นมีการกู้ยืมเงินจากหัวหน้าพรรค โดยจะเป็นประเภทของเงินทดรองจ่ายไปก่อน และเมื่อกฎหมายกำหนดให้นิติบุคคลบริจาคเงินได้ไม่เกินรายละ 10 ล้านบาท เงินกู้ที่เกินวงเงินดังกล่าวจะถือว่า เป็นการบริจาคเกินที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เรื่องนี้จึงจำเป็นต้องให้ศาลพิจารณาเพื่อเป็นบรรทัดฐาน
ก่อนจะถึงเส้นตาย ธนาธร และ พรรคอนาคตใหม่ จึงต้องดิ้นสู้เพื่อรักษา “พรรค” ฐานที่มั่นสุดท้ายเอาไว้ ประกาศท้ารบ ใช้ยุทธวิธีเดิมๆ “ปลุกแฟลชม็อบ” ผ่านโซเชียลมีเดีย นัดชุมนุมวันที่ 14 ธันวาคม แถมพ่วงกิจกรรมออกกำลังกาย “วิ่งไล่ลุง” ในวันที่ 12 มกราคม ปีหน้า
ด้าน “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบสั้นๆว่า “...ไม่ใช่คนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่ขอพูด เป็นเรื่องของศาล ไม่เกี่ยวกับผม” แต่ถามกลับดังๆว่า “นัดระดมพลรอบนี้อ้างทวงคืนความยุติธรรม หรือเป็นปัญหาส่วนตัวของใครกันแน่”...
เชื่อมั่นว่า “คำตอบ” ของ “คำถาม” นี้ ทุกคนมีอยู่ในใจอยู่แล้ว...