“นํ้าท่วม น้องว่าดีกว่าฝนแล้ง พี่ว่านํ้าแห้งให้ฝนแล้งเสียยังดีกว่า...” แว่วเสียง ศรคีรี ศรีประจวบ อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังร้องว่าอย่างนั้น แต่นํ้าท่วมอีสานปีนี้ กลับเป็น “ดราม่า” หรือศึกการเมืองถล่มใส่รัฐบาล “ประยุทธ์ 2” ซะไม่มีชิ้นดี!!!!
กระทั่งรัฐบาลต้องจัดงาน “ร่วมใจพี่น้องไทย ช่วยภัยนํ้าท่วม” ทาง TV ช่อง 9 เมื่อคํ่าวันที่ 17 กันยายน และอีก 2 วันถัดมา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องรีบแจ้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมนํ้าท่วมที่จ.อุบลฯ อย่างเร่งด่วน...
หลังจากอดีตพระเอกคนดัง “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ได้ประกาศขอรับเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยนํ้าท่วม จนเกิดปรากฏการณ์ “โอนเงิน” เข้าบัญชีดาราคนดังจำนวนหลายร้อยล้านบาทในชั่วพริบตา
ทั้งที่ตอนเกิดเหตุฯ นํ้าท่วม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพี่น้องคนไทยที่ประสบภัยตั้งแต่วันแรกๆ จากนั้นยังมีคำสั่งให้หน่วยงานเกี่ยวข้องต่างๆ โดยเฉพาะกรมชลประทาน ให้นำเครื่องจักรกลเข้าพื้นที่ (อุบลฯ) เพื่อช่วยระบายนํ้าอย่างเร่งด่วนไปแล้ว
ว่ากันตามจริง นํ้าท่วมภาคอีสานครั้งนี้ ต้องเข้าใจภูมิศาสตร์อีสานก่อน ว่ามีพื้นที่ไม่เหมือนภาคใต้หรือภาคกลาง เพราะมีพื้นที่ลาดเทจากฝั่งซ้ายไปฝั่งขวาและไม่ติดทะเล ฉะนั้น เมื่อนํ้าท่วมก็ย่อมจะมีนํ้าขังในพื้นที่นานกว่าพื้นที่อื่น?แน่นอน
ยกตัวอย่างจ.อุบลฯ ที่มีทางระบายนํ้าออกจากพื้นที่ได้ทางเดียว คือแม่นํ้าโขง ซึ่งไม่ได้อยู่ติดทะเล แต่ยังไหลผ่านหลายประเทศ เช่น ประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม
เมื่อทางระบายนํ้าจำกัด แถมแม่นํ้าสายเล็กสายใหญ่ (คือ ชี มูล) ที่เป็นทางระบายนํ้าปกติก็ยังเทลงมารวมกันที่อุบลฯ ด้วย เมื่อบวกเข้ากับพายุโซนร้อนอีก 2 ลูกซัดซํ้าเข้ามา อุบลฯ กับแม่นํ้าโขงก็เลยมีสภาพท่วมขังอย่างที่เห็น...พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เมื่อนํ้าเยอะ แต่ระบายออกได้น้อยนํ้าก็เลยท่วมขังหลายวันอย่างนี้แหละ
เว้นแต่จะมีใคร?สามารถเสกคาถาปัดเป่าให้นํ้าหายไปทันทีทันควัน เพื่อพี่น้องคนไทยจะได้ไม่เดือดร้อนเท่านั้น แต่เมื่อมีมวลนํ้าเอ่อรอระบายจำนวนมากอย่างนี้มันก็ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ซึ่งจากข่าวสารที่รายงานจากพื้นที่หน่วยงานต่างๆ ก็ดำเนินการตามแนวทางนี้...
โดยตอนนี้ สิ่งที่รัฐทำได้ก็คือ ดูแลให้พี่น้องคนไทยที่ประสบภัยให้สามารถอยู่กับนํ้าให้ได้ก่อน (จนกว่าจะระบายนํ้าที่ ท่วมขังลงแม่นํ้าโขงทั้งหมด) แล้วจากนั้นจึงค่อยเข้าไปฟื้นฟูสภาพต่างๆ ให้กลับมาเหมือนเดิม...
ขณะที่เรื่องใคร? ช่วยหรือไม่ช่วยพี่น้องคนไทยที่ประสบภัยนํ้าท่วมบ้าง ซึ่งว่าไปแล้ว ทุกคนต่างก็อยากให้กรมชลฯ หรือหน่วยงานต่างๆ รีบๆ ระบายนํ้าออกจากพื้นที่ไปเร็วที่สุดอยู่แล้ว แต่เมื่อนํ้าเยอะ มันก็ต้องใช้เวลาและอาจจะมีคนในพื้นที่ (บางคน) เกิดความอึดอัดใจ ซึ่งเป็นธรรมชาติของคนทั่วไป ก่อนจะมีการผสมโรง จนกระทั่งเป็นประเด็น “ดราม่า” วิพากษ์วิจารณ์โจมตี “บิ๊กตู่” และรัฐบาลในเวลาต่อมา
เริ่มตั้งแต่บอกว่า รัฐบาลไม่ช่วยบ้างล่ะ? รัฐบาลไม่อินังขังขอบอะไร?กับชาวบ้านที่เดือดร้อนบ้างล่ะ ต่อเนื่องไปจนถึงกรณี “โป๊ะแตก”!! ที่มีคนกลุ่มหนึ่งไปถ่ายทอดสดสัมภาษณ์ป้าคนหนึ่งที่บอกว่า นํ้าท่วมทำให้อด (กิน) ข้าว ไปขอนํ้าจากเทศบาลก็ไม่ได้...ก่อนมีการ “ตีปี๊บ” กันใหญ่ แต่พอตรวจสอบ “ข้อมูล” เรื่องกลับโอละพ่อ (เพราะนางคือเจ้าของร้านอาหารใหญ่โต)
เช่นเดียวกับปรากฏการณ์...รับบริจาคเงินเข้าบัญชีดาราคนดังที่มีผู้บริจาคเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาทในชั่วพริบตา ทันทีที่ดาราคนนี้ประกาศจะนำเงินไปช่วยชาวบ้านคนละ 5,000 บาท พร้อมโชว์ภาพการมอบเงินสดๆ ให้ชาวบ้านด้วยตัวเอง โดยมีเพียงคำยืนยันสั้นๆ ว่า “เงินทุกบาททุกสตางค์จะโปร่งใส 100 %” เท่านั้น
...ที่นำเรื่องนี้มาพูดในวันนี้ ไม่ใช่อะไร? แต่เพราะดูข่าวที่โพสต์และแชร์ในโซเชียลตอนนี้ มีอคติและเพียงด้านเดียว เช่น เปรียบเทียบจำนวนเงินบริจาคของ “บิ๊กตู่ VS บิณฑ์” ทั้งที่เป็นคนละเรื่องเดียวกัน แต่มีเป้าหมาย คือเสี้ยมและปลุกปั่น “กระแส” เกลียดชัง “บิ๊กตู่” และรัฐบาลเท่านั้นเอง
เหรียญมี 2 ด้าน ถ้าพื้นที่ตรงไหน? ที่รัฐเข้าไปไม่ถึงก็เสนอแนะมาสิ หรือถ้าสมมติว่าคิดว่ารัฐบาลไม่ให้ความสนใจพื้นที่ไหน? ก็แจ้งจิตอาสา บอกหน่วยกู้ภัยหรือมูลนิธิ โน่นนี่นั่น รับรองว่าความช่วยเหลือไปถึงพี่น้องที่ประสบภัยแน่ๆ
รวมทั้งพวกนักการเมือง (ฝ่ายแค้น) ที่เข้ามาฉกฉวยโอกาสบ่มเพาะสุมไฟความเกลียดชังเข้าใส่ “บิ๊กตู่” กับรัฐบาล นอกนั้นก็ยังมี “ติ่ง” แนวร่วมกลุ่มต่างๆ ที่นั่งกดแป้นคีย์บอร์ดปลุก “ปั่น” กระแสความเกลียดชังอย่างเมามันอยู่ด้วย
หยุดเถอะ หยุดจับพี่น้องคนไทยที่ประสบภัยนํ้าท่วมซึ่งต่างก็กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสอยู่ในพื้นที่ตอนนี้ เป็น “ตัวประกัน” มันนํ้าเน่า และเลอะเทอะมากๆ แต่มารักและปรบมือดังๆ ให้คนที่เข้าพื้นที่ รวมทั้งได้ลงแรงช่วยเหลือพี่น้องคนไทยที่ประสบภัยนํ้าท่วม (ทุกคน) ดีกว่าครับ
คอลัมน์ อยู่กับปัจจุบัน โดย พงษ์ศักดิ์ ศรีสด
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3507 วันที่ 22-25 กันยายน 2562