ศาลรธน.รับวินิจฉัยปมคุณสมบัติ “สิระ” แต่ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

ศาลรธน.รับวินิจฉัยปมคุณสมบัติ “สิระ” เหตุถูกร้องใช้สถานะตำแหน่งส.ส.ก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของขรก. แต่ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ให้ชี้แจงกลับมาภายใน 15 วัน พร้อมรับวินิจฉัยฝ่ายค้านร้องออกพ.ร.ก.ชะลอบังคับใช้พ.ร.บ.คุ้มครองสถาบันครอบครัวไม่ชอบ

 วันที่ 18 ก.ย.2562  ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของส.ส.  57 คนขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกสภาพความเป็นส.ส.ของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (7) ประกอบมาตรา 185(1) หรือไม่เนื่องจากใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นส.ส.กระทำการก้าวก่าย แทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองในการปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้นายสิระยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากลับมายังศาลภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับสำเนาคำร้อง โดยไม่ได้สั่งให้นายสิระหยุดปฎิบัติหน้าที่เนื่องจากเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้อง ไม่ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งดังกล่าว ประกอบกับศาลพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่ปรากฎว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่านายสิระมีกรณีตามที่ถูกร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุที่นายสิระถูกร้องดังกล่าวน่าจะมาจากเมื่อกลางเดือนส.ค. นายสิระ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย โครงการ “The Peaks Residence” ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่นายสิระอ้างว่าได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและผู้ประกอบการบริเวณหาดกะตะน้อย จ.ภูเก็ต ว่า ไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย ทั้งเรื่องของการออกใบอนุญาตก่อสร้างและเรื่องของการออกโฉนดที่ดิน โดยศาลปกครองนครศรีธรรมราช มีคำพิพากษาเพิกถอนหนังสือรับรองประโยชน์ (น.ส.3ก.) และขณะนี้ลงพื้นที่ได้เกิดมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะรน เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ และตกเป็นวิพากษ์วิจารณ์ว่าแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม 

นอกจากนี้ที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติรับคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของส.ส.พรรคฝ่ายค้าน จำนวน 142 คน ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 173 ว่า การตราพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัวพ.ศ. 2562 พ.ศ. 2562 เพื่อชะลอการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 วรรคหนึ่งหรือไม่ ไว้พิจารณาวินิจฉัยหลังประธานสภาผู้แทนราษฎรได้มีการดำเนินการส่งเอกสารประกอบคำร้องเพิ่มเติมครบถ้วน และได้แจ้งให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรทราบ