20 ปี ‘GIC’ โกยกําไรอื้อ ตัดขาย LH เกลี้ยงพอร์ต
กองทุนสิงคโปร์ GIC โกยกำไรหุ้น LH หลังถือยาว 20 ปีจากราคาหุ้นปรับมากกว่า 8 เท่า ปันผลตอบแทนเฉลี่ย 7% ต่อปี ล่าสุดตัดขายเกลี้ยงพอร์ต 837 ล้านหุ้น กำเงิน 9.1 พันล้านบาท โบรกฯ แนะช้อนซื้อหลังราคาปรับตัวลง
หุ้นบริษัทแลนด์ แอนด์เฮาส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH มีการซื้อขายหุ้นข้ามคืนหรือ OVERNIGHT เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพบว่ากองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ (Government of Singapore Investment Corporation ) หรือ GIC ได้ขายบิ๊กล็อตหุ้น LH ผ่านบริษัทหลักทรัพย์เครดิต สวิสฯ แยกเป็นกระดานต่างประเทศ(LH-F) จำนวน 534,327,054 หุ้น และกระดานในประเทศ (LH) จำนวน 302,553,600 หุ้นรวม 836,880,654 หุ้น เป็นสัดส่วน 7% ของทุนจดทะเบียน เป็นเงินรวม 9,066 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่หุ้นละ 10.83 บาท
ราคาขายบิ๊กล็อตที่ตํ่ากว่าราคาในตลาด (เฉลี่ยที่ 11.30 บาท) ส่งผลให้ราคาหุ้น LH รูดลง ปิดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน อยู่ที่ 10.90 บาท ลดลง 0.40% หรือเปลี่ยนแปลง -3.54%
ทั้งนี้การที่ GIC ขายหุ้น LH บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ซึ่งมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 130,252 ล้านบาท หมดพอร์ต ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะก่อนหน้า(5 ก.พ.61) GIC ได้ขายหุ้น LH มากถึง 976.8 ล้านหุ้น เป็นสัดส่วน 8.2% ของทุนจดทะเบียน ที่ราคาหุ้นละ 10.9 บาท เป็นเงินรวม 10,647 ล้านบาท และยังขายหุ้นที่ถือใน บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ หรือ QH ทั้งหมด 1,154.42 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10.77% เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560
GIC เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทแลนด์ฯ ภายหลังที่ LH ประสบปัญหาทางการเงินในช่วงปี 2541-2542 จากผลของวิกฤติเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเป็นลอยตัว ทำให้บริษัทต้องแบกภาระหนี้สินครั้งนั้นสูงถึง 1.74 หมื่นล้านบาท และภาระดอกเบี้ยเฉลี่ยถึงปีละ 1,200 ล้านบาท จนต้องเข้าสู่แผนปรับโครงสร้างหนี้ โดยการขายหุ้นเฉพาะเจาะจงให้ GIC เมื่อเดือนกันยายน 2542 จำนวน 94,286 ล้านหุ้น ที่หุ้นละ 14 บาท (พาร์หุ้นละ 10 บาท) เป็นเงิน 1,320 ล้านบาท คิดเป็น 21.17% ของทุนชำระแล้ว เพื่อมาคํ้าจุนธุรกิจของบริษัท
2 ทศวรรษ GIC ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่มนายอนันต์ อัศวโภคิน (ตารางประกอบ) ได้ทำกำไรจากผลประกอบการของบริษัทแลนด์ฯ ที่ฟื้นตัวหลังปี 2543 และเติบโตอย่างรวดเร็ว สร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำ จึงไม่แปลกที่ GIC จะทยอยขายทำกำไร เพราะเทียบราคาพาร์ 10.00 บาทที่ GIC ลงทุนหุ้นละ 14 บาท มาเป็นพาร์ 1.00 บาท ในราคาหุ้นเฉลี่ย 11.30 บาท (เปลี่ยนแปลงพาร์จาก 10 บาทเป็น 1 บาทเมื่อมกราคม 2546) ราคาหุ้น LH ปรับขึ้นมามากกว่า 8 เท่าตัว รวมถึงผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยปีละ 6-7% ต่อปี ที่หุ้นละ 0.65-0.75 บาท โดยในช่วง 3 ปีหลัง GIC รับเงินปันผลตอบแทนปี 2560 ราว 1,256 ล้านบาท (จากสัดส่วนหุ้นที่ถือ 16.2%) , ปี 2561 ประมาณ 718 ล้านบาท (ถือ 8.20%) และปี 2562 ก่อนจะขายหุ้นเกลี้ยงพอร์ต ได้รับเงินปันผลทั้งสิ้น 628 ล้านบาท ตามสัดส่วนที่ถือ 7%
นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าการที่ GIC ขายหุ้น LH หมดพอร์ต เป็นเรื่องปกติของกองทุนระดับโลก (global Investor) ที่จะหาโอกาสทางเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่า และก่อนหน้านี้ GIC ก็เคยขายหุ้น LH เพื่อทำกำไรไปแล้วรอบหนึ่ง
“หุ้น LH เป็นหุ้นที่ดีสุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีรายได้และปันผลที่แน่นอน เนื่องจากธุรกิจหลักส่วนใหญ่เป็นแนวราบ แม้จะมีความผันผวนสูงแต่สร้างรายได้ได้มากและเร็ว และมีธุรกิจที่สร้างรายได้แน่นอน (recurring income) ในกลุ่มโรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ในต่างประเทศ ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 จึงเป็นจังหวะช่วงนี้แนะซื้อเมื่อราคาปรับลง”
นอกจากนี้การที่่ LH สามารถจ่ายผลตอบแทนได้สมํ่าเสมอ 6-7% ต่อปี เนื่องจากมีทรัพย์สินที่จะขายโดยบริษัทแลนด์ ฯมีแผนที่จะทยอยขายอพาร์ตเมนต์ LH USA ในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2563-2566 ปีละ 1 โครงการ โดยปลายปีนี้บริษัทฯจะนำโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยท์ ทองหล่อ ขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่า อสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) เฉพาะส่วนของ LHHOTELคาดจะสร้างรายได้มากกว่าพันล้านบาท
ผลประกอบการไตรมาส 2/2562 คาดจะทำกำไรดีกว่าไตรมาส 1/2562 ( QoQ )จากโครงการเปิดใหม่ในเดือนมีนาคม และจาก "โครงการคอนโดหลุดจอง" ซึ่งประสบความสำเร็จสร้างรายได้กว่าพันล้านบาท แต่ยังเติบโตน้อยกว่าเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ( YoY ) เนื่องจากในปีที่แล้วบริษัทมีรายได้จากการอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐ
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3480 วันที่ 20-22 มิถุนายน 2562
