จี้บังคับใช้มาตรฐานนํ้ามันยูโร5

19 เม.ย. 2562 | 04:50 น.

 

“บอร์ดสิ่งแวดล้อม” เร่งหารือโรงกลั่นนํ้ามัน  จ่อเคาะประกาศใช้นํ้ามันมาตรฐานยูโร 5 ให้เร็วขึ้นจากเดิม 1 ปี หวังลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 “ไทยออยล์” ยันสนองนโยบายรัฐ เร่งปรับ ปรุงโรงกลั่นให้ผลิตเร็วขึ้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กรมธุรกิจพลังงาน อยู่ระหว่างติดตามนโยบายที่ชัดเจนในการจัดทำมาตรฐานนํ้ามันยูโร 5 ซึ่งเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562  ทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้หารือกับโรงกลั่นนํ้ามันทุกแห่ง เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติตามมาตรฐานยูโร 5 ให้เร็วขึ้น จากที่กำหนดจะเริ่มผลิตนํ้ามันเบนซินและดีเซลมาตรฐานยูโร 5 ในวันที่ 1 มกราคม 2567 เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมธุรกิจพลังงาน ได้หารือกับ 6 โรงกลั่นนํ้ามัน ประกอบด้วย ไทยออยล์ บางจาก พีทีทีจีซี เอสโซ่ ไออาร์พีซี และเอสพีอาร์ซี ให้เร่งดำเนินการจัดทำแผนปรับปรุงคุณภาพนํ้ามันสู่มาตรฐานยูโร 5 เร็วขึ้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนในขั้นตอนดำเนินการไปแล้ว

สำหรับการปรับปรุงคุณภาพนํ้ามัน ตามมาตรฐานยูโร 5 มีวัตถุประสงค์ต้องการให้ลดการปล่อยค่ากำมะถันลงอีกจาก 100 PPM ในมาตรฐานยูโร 4 เป็นให้เหลือ 10 PPM ในนํ้ามันเบนซินและดีเซล และในส่วนของดีเซล ยังจะต้องลดการปล่อยค่าสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดร คาร์บอนจาก 11% ในมาตรฐานยูโร 4 เป็นให้เหลือ 8%

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ต้นทุนในการปรับปรุงคุณภาพนํ้ามัน ตามมาตรฐานยูโร 5 คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุน 3.5 หมื่นล้านบาท สำหรับการปรับปรุงคุณภาพนํ้ามันของ 6 โรงกลั่น ซึ่งไม่รวมกับกรณีที่โรงกลั่นบางแห่งที่ได้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานนํ้ามันในบางโครงการไปแล้ว เช่น โรงกลั่นบางจาก ที่ลงทุนผลิตนํ้ามันอี 20 ตามมาตรฐานยูโร 5 และโรงกลั่นไทยออยล์ ที่ปรับปรุงคุณภาพนํ้ามันตามโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project :CFP)

จี้บังคับใช้มาตรฐานนํ้ามันยูโร5

                                                                                       นายอธิคม เติบศิริ

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าว่า โครงการ CFP ของไทยออยล์จะแล้วเสร็จภายในปี 2565-ต้นปี 2566 กำลังการผลิตนํ้ามันมาตรฐานยูโร 5 จะอยู่ที่ 300 ล้านบาร์เรลต่อเดือน แต่ในระหว่างนี้จนถึงปี 2566 ไทยออยล์จะปรับปรุงโรงกลั่นเก่า ใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะแล้วเสร็จในปี 2565 ทำให้ผลิตยูโร 5 ได้อีก 500 ล้านบาร์เรลต่อเดือน ดังนั้นกำลังการผลิตนํ้ามันมาตรฐานยูโร 5 จะทำให้ไทยออยล์มีกำลังการผลิตรวม 800 ล้านบาร์เรลต่อเดือน เทียบกับความต้องการใช้นํ้ามันในประเทศรวมอยู่ที่ 1.8-1.9 พันล้านบาร์เรลต่อเดือน

“หากภาครัฐต้องการเร่งรัดนํ้ามันมาตรฐานยูโร 5 ไทยออยล์สามารถผลิตจากโรงกลั่นปัจจุบันได้ก่อน 1 ปี เพราะตามแผนจะเสร็จปี 2565 กำลังการผลิต 500 ล้านบาร์เรลต่อเดือน ส่วนโครงการ CFP เริ่มก่อสร้างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ แล้วเสร็จในปี 2566 ที่จะเพิ่มกำลังกลั่นนํ้ามันจาก 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน” 

 

หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,462 วันที่ 18-20 เมษายน 2562

จี้บังคับใช้มาตรฐานนํ้ามันยูโร5