กฟผ. ประกาศผู้ชนะนำเข้า "แอลเอ็นจี" 1.5 ล้านตัน ปลาย เม.ย. นี้
นายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยความคืบหน้าการคัดเลือกผู้ผลิต หรือ ผู้ค้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) 1.5 ล้านตันต่อปี
ล่าสุด ได้คัดเลือกผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น (Pre-Qualification) จำนวน 34 ราย จากที่มีผู้ที่ยื่นแสดงความสนใจทั้งสิ้น 43 ราย คาดว่าจะสามารถประกาศผลผู้ชนะประมูลได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย. นี้ เพื่อเตรียมนำเข้าแอลเอ็นจีในเดือน ก.ย. นี้
⇲ ธวัชชัย จักรไพศาล
โดยในวันที่ 18 เม.ย. นี้ กฟผ. จะเปิดให้เขายื่นข้อเสนอด้านราคาและประกาศผู้ชนะปลายเดือน เม.ย. นี้ จากนั้นก็จะนำเข้าเสนอบอร์ดให้อนุมัติและช่วงเดือน พ.ค. นี้ จะเข้าขั้นตอนขออนุมัติจากรัฐบาล ถ้าไม่ติดขัดอะไร ประมาณเดือน มิ.ย. ก็น่าจะลงนามกับทางผู้ชนะ และเริ่มส่งมอบประมาณเดือน ก.ย. นี้
สำหรับแผนนำเข้าแอลเอ็นจีในปีนี้ เหลือเพียง 3 เดือน น่าจะนำเข้าได้เพียง 2.8 แสนคัน แต่ในปี 2563 จะนำเข้าเต็มปีที่ 1.5 ล้านตัน โดยราคาแอลเอ็นจีที่ กฟผ. จัดหา ต้องไม่สูงกว่าราคาแอลเอ็นจีต่ำสุดตามสัญญาจัดหาระยะยาวของประเทศไทยที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2560 และได้มอบหมายให้ กฟผ. ทำหน้าที่เป็นผู้นำเข้าแอลเอ็นจีรายใหม่ของประเทศ แต่หากราคาที่ประมูลในครั้งนี้มีราคาสูงกว่าราคาแอลเอ็นจีต่ำสุดตามสัญญาในปัจจุบัน กฟผ. ก็จะยกเลิกแล้วเปิดประมูลใหม่
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการสถานีเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวเป็นก๊าซแบบลอยน้ำ (Floating Storage and Regasification : FSRU) บริเวณพื้นที่อ่าวไทยตอนบน ขนาด 5 ล้านตัน ยังอยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า
