เคาะสัดส่วนหุ้น ‘แบงก์ใหม่’ มิ.ย.นี้ TMB ชงผู้ถือหุ้นขอเพิ่มทุนQ3
ซีอีโอ TMB เผยธนาคารเตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นไตรมาส 3 ขอเพิ่มทุน กระทรวงคลังยังถือหุ้นหลักควงคู่ TCAP และ ING “อภิศักดิ์” ยันเคาะสัดส่วนผู้ถือหุ้นชัดหลังทำดิวดิลิเจนซ์เสร็จ คาดมิถุนายนนี้ ด้านโบรกฯวิเคราะห์หากกำหนดราคาขายที่หุ้นละ 1.8 บาท จะทำให้เกิดไดลูต-เทขาย
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าแผนควบรวมกิจการระหว่าง ธนาคารทหารไทย (TMB) และธนาคารธนชาต(TBANK) ว่าหลังตรวจสอบสินทรัพย์ (Due Diligence) คาดจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนหรือไม่เกินเดือนมิถุนายนนี้หลังจากนั้นภายในไตรมาส 3 ธนาคารจะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเรื่องขอเพิ่มทุน โดยหลังควบรวม TMB -TBANK กระทรวงการคลังยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลัก
ขณะที่นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการ TMB กล่าวว่าจากการหารือในเบื้องต้นผู้ถือหุ้นเดิมของ TMB จะได้สิทธิ์ซื้อหุ้นในอัตรา 15 หุ้นเดิมต่อ1 หุ้นใหม่ ในราคาส่วนลด (discount) 20% ของราคากลางหลังทำดิวดิลิเจนซ์ ซึ่งราคาจะตํ่ากว่าผู้ถือหุ้นใหม่ โดยเป็นการตกลงร่วมกัน เนื่องจาก TMB มีสินทรัพย์มากกว่าเมื่อควบรวมกับ TBANK ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ของธนาคารแห่งใหม่สูงขึ้นและมีศักยภาพมากขึ้น ดังนั้นผู้ถือหุ้นเดิมของ TMB จึงควรได้แต้มต่อในราคาส่วนลด
อย่างไรก็ตาม TMB ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประ เทศไทย (ตลท.) ว่ายังอยู่ในขั้นตอนการทำดิวดิลิเจนซ์กับคู่สัญญาคาดว่าจะใช้เวลาไม่ตํ่ากว่า 2 เดือน ขณะนี้จึงยังไม่มีข้อสรุปอันเป็นข้อยุติใดๆ เกี่ยวกับการเพิ่มทุน รวมถึงราคาหุ้นเพิ่มทุน
ทั้งนี้ภายหลังการควบรวม TMB และ TBANK มูลค่า 1.3 -1.4 แสนล้านบาท จะใช้เงินจากการเพิ่มทุน 70% และเงินกู้/สภาพคล่องอีก 30% โดย TMB จะเพิ่มทุน 2 รอบ รอบแรกขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมเพื่อระดมเงินประมาณ 4.0-4.5 หมื่นล้านบาท และรอบ 2 ขายเฉพาะเจาะจง(private placement:PP) ให้กับ บจก.ทุนธนชาต (TCAP) และธนาคารโนวาสโกเทีย (BNS) เพื่อระดมเงิน 5.0-5.5 หมื่นล้านบาท โดยจะจัดสรรขายให้กับ TCAP มากกว่า
โครงสร้างผู้ถือหุ้นในธนาคารแห่งใหม่ จะประกอบด้วย TCAP และ ING จะถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 20% (ปัจจุบัน TCAP ถือใน TBANK 51% , ส่วน ING ถือใน TMB 30%) ขณะที่กระทรวงการคลังยังเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลัก (ก.คลังถือในTMB ปัจจุบัน 25.92%) ส่วน BNS คาดจะถือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตอนนี้ต้องรอให้ทำดิวดิลิเจนซ์เสร็จก่อนถึงจะรู้ว่ากระทรวงการคลังต้องใส่เงินเพิ่มทุนตามสัดส่วนเท่าไร แม้การลงทุนในธนาคารแห่งใหม่ จะไม่อยู่ในยุทธศาสตร์ของคลัง แต่หากคลังไม่เทกแอกชัน หุ้นก็จะถูกไดลูต โดยแหล่งเงินเพิ่มทุนจะมาจากกองทุนวายุภักษ์และอื่นๆ
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย)ฯ ระบุในบทวิเคราะห์ว่าการเพิ่มทุนรอบแรก คาดจะเกิดขึ้นประมาณกลางปีนี้ และรอบ 2 จะตาม หลังจากนั้น 1-2 เดือน โดยธนาคารแห่งใหม่น่าจะเกิดขึ้นเร็วสุดภายในสิ้นปีนี้
บล.เคจีไอฯ ยังได้ประเมินการขายหุ้นเพิ่มทุน TMB ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ใน 2 กรณีคือ กรณีที่มีส่วนลดจากราคาตลาด 20% หรือกำหนดราคาขายหุ้นที่ 1.8 บาท สัดส่วนการขายหุ้น RO จะอยู่ที่ 2.0:1 และมูลค่าหุ้นทางบัญชีใหม่ของ TMB จะอยู่ที่ประมาณ 2.1 บาทต่อหุ้น (ลดลงจากปัจจุบันที่ 2.26 บาท) โดยการกำหนดราคาขายที่มีส่วนลดมากขนาดนี้จะทำให้เกิดไดลูชัน (Dilution) มากกว่าที่คาดไว้และทำให้เกิดแรงเทขาย short sell ขึ้น
ส่วนกรณีการขายหุ้นเพิ่มทุน RO กำหนดราคาที่ 2.17 บาท จะทำให้สัดส่วนการเพิ่มทุน RO อยู่ที่ 2.1-2.4 : 1 กรณีนี้จะทำให้ไดรูชันน้อยลง และทำให้ราคา การเพิ่มทุนรอบ 2 ให้กับ TCAP เป็น 2.46 บาทต่อหุ้น มูลค่าหุ้นทางบัญชีใหม่ TMB จะเป็น 2.3 บาท (เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 2.26 บาท)
ราคาหุ้น TMB วันที่ 14 มีนาคม 2562 ปิดที่ 2.16 บาท ลดลงจากสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ (28 ก.พ. 62) ซึ่งอยู่ที่ 2.28 บาท จำนวน 0.12 บาทหรือลดลง 5.26%
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,453 วันที่ 17-20 มีนาคม 2562
