“คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงไม่ทำการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง” นี่คือที่มาของการที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” นัดลงมติและฟังคำวินิจฉัย ในวันที่ 7 มีนาคมนี้ เวลา 15.00 น. กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) จากการเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นบุคคลเพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นนายกฯ อันเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว “ว.เชิงดอย” ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าอย่างไรเสีย “ไทยรักษาชาติ” ก็คงไม่รอดพ้นจากการถูกศาลรัฐธรรมนูญลงมติสั่ง “ยุบพรรค” แน่นอน ด้วยเหตุผลอย่างที่เคยเรียนมาแล้ว ซึ่งนอกจากจะทำให้ 13-14 กรรมการบริหารพรรค ที่อาจจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี หรือไม่ก็ “ตัดสิทธิตลอดชีวิต” แล้ว ยังทำให้ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมนี้ ผู้สมัครส.ส.ระบบเขต 176 ชีวิต และผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่ออีก 108 ชีวิต รวมเป็น 284 ชีวิต ต้องถูกตัดสิทธิ “เขี่ยออก” จากการแข่งขันครั้งนี้ไปโดยปริยาย “ชีชํ้ากะหลํ่าปลี” มั้ยล่ะ ทั้งหมดทั้งปวงเกิดจาก “ความห้าว” ของ “นายใหญ่” ที่อยู่แดนไกลแท้ๆ
สำหรับ 13-14 กรรมการบริหารพรรค ทษช. ที่เป็นจำเลยในฐานะผู้รับผิดชอบมติพรรคที่ออกมา ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ ลูกๆ หลานๆ หรือคนใกล้ชิดนักการเมือง พรรคเพื่อไทย ตามยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พัน” ออกมาตั้งพรรคใหม่ จนถูกขนานนามว่า “ทายาทอสูร” ไล่เลียงไปตั้งแต่ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค อดีต ส.ส.ขอนแก่น บุตรชาย เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรมช.มหาดไทย กับ ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช อดีต ส.ว.ขอนแก่น รองหัวหน้าพรรค 4 คน คือ 1. ฤภพ ชินวัตร บุตรชาย พายัพ ชินวัตร น้องชาย ทักษิณ ชินวัตร 2.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย 3.พฤฒิชัย วิริยะโรจน์ และ 4.นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล มิตติ ติยะไพรัช ลูกชาย ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา เป็นเลขาธิการ
รองเลขาธิการ 3 คน 1.ต้น ณ ระนอง บุตรชาย กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตรองนายกฯ สมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2.วิม รุ่งวัฒนจินดา ทีมงานอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และ 3.คณาพจน์ โจมฤทธิ์ เพื่อนสนิทของ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร จุลพงศ์ โนนศรีชัย รุ่งเรือง พิทยศิริ (อ้างว่าลาออก) พงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค ทษช. วรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค ภรรยา ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรคบุตรสาว เยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว ทักษิณ ชินวัตร ... 7 มีนาคมนี้ จึงถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่ง ที่จะเป็น “จุดเปลี่ยน” ทางการเมืองอันสำคัญสำหรับ “นายใหญ่” ของพรรค “ตระกูลเพื่อ” ทั้งหลาย...
ใกล้ “คุก” เข้าไปทุกขณะ สำหรับ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ วัย 77 ปี อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง สั่งจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีทุจริตที่ดินอัลไพน์ โดยศาลเห็นว่าการที่จำเลยมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนามสนามกอล์ฟอัลไพน์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นธรณีสงฆ์ จากการที่ นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ที่ถึงแก่ความตายแล้วได้ทำพินัยกรรมยกที่ดิน 2 แปลง ให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหารนั้น จำเลยออกคำสั่งโดยมิชอบ และใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ... ยังต้องรอลุ้นในชั้นฎีกาต่อไป อีกไม่นานเกินรอ คงได้รู้กันว่า “จุดจบ” จะเป็นเช่นคนอื่นๆ ที่รับใช้ ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่
| คอลัมน์ : ฐานโซไซตี
| โดย : ว.เชิงดอย
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3449 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 3-6 มี.ค.2562