เผยผลศึกษาธุรกิจรับ ... ผลประโยชน์ปฏิรูปสู่ดิจิทัล

01 มี.ค. 2562 | 09:21 น.

"ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" เผยผลประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิรูปสู่ดิจิทัลทั่วโลก ประจำปี 2019 พบบทพิสูจน์ล้วนมาจากประโยชน์ทางธุรกิจในหลายรูปแบบ ทั้งในเชิงลึก เชิงปริมาณ จาก 230 โครงการของลูกค้า ที่ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" ได้ให้บริการเสร็จสิ้นสมบูรณ์ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา จาก 41 ประเทศ ซึ่งล้วนแล้วแต่ใช้ EcoStruxure ซึ่งเป็นทั้งแพลตฟอร์มและสถาปัตยกรรมของ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค"


เผยผลศึกษาธุรกิจรับ ... ผลประโยชน์ปฏิรูปสู่ดิจิทัล


เป้าหมายของรายงานดังกล่าว คือ การนำเสนอการเปรียบเทียบศักยภาพของการปฏิรูปดิจิตอลในการบริหารจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชันบนฐานของความเป็นจริงที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่าน โดยหัวใจสำคัญของรายงานดังกล่าว คือ ประโยชน์หลักที่ธุรกิจจะได้รับจากการปฏิรูปสู่ดิจิตอลใน 12 เรื่อง ซึ่งแยกออกเป็น 3 ประเภท แต่ละประเภทล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องค่าใช้จ่ายในการลงทุน (CapEx) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OpEx) รวมถึงประเด็นความยั่งยืน ความเร็ว และประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การรายงานมุ่งเน้นที่ 4 กลุ่มหลักที่มีผลต่อเศรษฐกิจ ได้แก่ อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งหมดอยู่ระหว่างการปฏิรูป ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นฐาน ทั้งเรื่องวิถีการใช้ชีวิตของผู้คน รวมถึงการทำงานและการพักผ่อน


เผยผลศึกษาธุรกิจรับ ... ผลประโยชน์ปฏิรูปสู่ดิจิทัล

บทพิสูจน์ที่ได้จากรายงาน นับเป็นการจบข้อกังขาและความกังวลในตลาด ที่ว่า การปฏิรูปสู่ดิจิทัลเป็นการลงทุนที่แพง เพราะต้องใช้ระบบใหม่และการทำงานร่วมกับกระบวนการเดิม ซึ่งจากที่รายงานได้ศึกษาโครงการของลูกค้า ชี้ให้เห็นถึงบทพิสูจน์ที่ได้ผลตรงกันข้าม โดยการศึกษาดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนกระบวนการต่าง ๆ ทางวิศวกรรมไปสู่ระบบดิจิทัล สามารถช่วยธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนและใช้เวลาได้อย่างเหมาะสมได้ถึง 35% โดยเฉลี่ย นอกจากนี้ ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้สินทรัพย์และระบบงานใหม่ เฉลี่ยถึง 29%

การศึกษายังเผยให้เห็นว่า การเปลี่ยนกระบวนการทำงานสู่ระบบดิจิทัล เพื่อควบคุมการใช้ IoT ให้ผลลัพธ์ในการประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้มาก นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้น ทั้งเรื่องประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และความยั่งยืน โดยทั้งองค์กรและภาคธุรกิจต่างรายงานถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของการใช้พลังงานได้ถึง 24% ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการปรับปรุงกระบวนการทำงานสู่ระบบดิจิทัล

ในการประยุกต์ใช้งานในภาคอุตสาหกรรม การปฏิรูปสู่ดิจิทัล ช่วยให้องค์กรธุรกิจใช้ทรัพยากรน้อยลง แต่ได้ผลลัพธ์มากขึ้น เช่น เพิ่มผลผลิตมากขึ้น แต่ใช้พลังงานน้อยลง ใช้วัตถุดิบน้อยลง ใช้แรงงานต่อชั่วโมงน้อยลง โดยสามารถเพิ่มผลผลิตได้มากถึง 50% เหล่านี้เป็นผลที่ได้จากประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพลังงานและระบบออโตเมชันผ่านห่วงโซ่แห่งคุณค่า (Value Chain) ไม่ว่าจะเป็น ความสามารถในการติดตาม IoT ตลอดจนการช่วยให้สายการผลิตดำเนินงานได้โดยอัตโนมัติ

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เริ่มเดินทางสู่การปฏิรูปดิจิทัลหลายปีมาแล้ว โดยในปี 2009 ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เปิดตัว EcoStruxure ซึ่งเป็นทั้งสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์ม ที่ให้ศักยภาพด้าน IoT ติดตั้งง่ายแบบ Plug and Play อีกทั้งยังเป็นระบบเปิด สามารถทำงานร่วมกันกับระบบอื่น ๆ ได้

ปัจจุบันนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เพิ่มบริการด้านคลาวด์และดิจิทัล เพื่อให้ EcoStruxure สามารถนำเสนอประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ทั้งความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และความสามารถในการเชื่อมต่อ โดย EcoStruxure ได้นำความล้ำหน้าด้าน IoT โมบิลิตี้ ระบบเซ็นเซอร์ คลาวด์ การวิเคราะห์ และไซเบอร์ซิเคียวริตี้ มาช่วยในการนำเสนอนวัตกรรมในทุกระดับ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่มีเชื่อมต่อ ระบบควบคุมการใช้อุปกรณ์ปลายทาง (Edge Control) และแอพพลิเคชัน รวมถึงการวิเคราะห์และบริการต่าง ๆ โดยที่ผ่านมา EcoStruxure ได้มีการติดตั้งใช้งานมากกว่า 480,000 ไซต์งาน โดยมีผู้วางระบบและผู้พัฒนากว่า 20,000 ราย ให้การสนับสนุน และมีการเชื่อมต่อการทำงานร่วมกับอุปกรณ์มากกว่า 1.6 ล้านรายการ โดยมีการบริหารจัดการผ่านบริการด้านดิจิทัลมากกว่า 40 บริการ ซึ่งจำนวน 45% ของยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในปี 2017 ทั้งหมด เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ IoT ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม EcoStruxure

เรื่องราวที่น่าสนใจมากขึ้นที่ปรากฏในผลรายงานเกี่ยวกับพลังแห่งดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชัน ก็คือ เมื่อธุรกิจก้าวเข้าสู่ดิจิทัล ทั้งการบริหารจัดการพลังงานและระบบออโตเมชัน ทั้ง 2 ส่วน ทำงานผสานกัน เพื่อขับเคลื่อนสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นคุณค่าที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

"การปฏิรูปสู่ดิจิทัล เป็นหนทางเดียวที่จะสร้างเสถียรภาพและประสิทธิภาพให้กับทั้งบริษัท ด้วยเทคโนโลยี เช่น อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือ IoT รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data ทำให้หลายบริษัทสามารถสร้างประสิทธิภาพและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน" มร.ฌอง ปาสคาลตริคัวร์ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว

"รายงานของเราชี้ให้เห็นว่า ธุรกิจและองค์กรมากมาย ล้วนต้องการอำนาจที่เชื่อมั่นได้ในการบริหารจัดการความซับซ้อน เพื่อปลดล็อกประสิทธิภาพการปฏิรูปสู่ดิจิตอลได้อย่างเต็มพิกัด ซึ่งเทคโนโลยีของเราสร้างบน EcoStruxure ช่วยควบคุมพลังแห่งดิจิทัล ช่วยให้ลูกค้าของเราได้รับประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น มีความน่าเชื่อถือ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ทั้งหมด ให้ความยั่งยืน นับว่าเป็นผู้นำในเศรษฐกิจดิจิทัลใหม่นี้อย่างแท้จริง"

เผยผลศึกษาธุรกิจรับ ... ผลประโยชน์ปฏิรูปสู่ดิจิทัล