ทางออกนอกตำรา : เมืองใดไม่มีทหาร เมืองนั้นไม่นานเป็นขี้ข้า

23 ก.พ. 2562 | 13:27 น.
ทหาร-0001 สถานการณ์ทางการเมืองของไทยในขณะนี้ ต้องบอกว่าอยู่ในภาวะฝุ่นตลบอบอวล “วาทกรรมสร้างกระแส” เกิดขึ้นอย่างสนุกสนาน “ความเห็น” เต็มไปทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ความจริงถูกบิดพลิ้วไปแทบหมด

ปรากฏการณ์ติดแฮชแท็ก # ฟ้ารักพ่อ ฮอตฮิตอื้ออึงไปในโลกโซเชียลมีเดีย มีการรีทวีตของคนรุ่นใหม่กว่า 1.5 ล้านทวิต เชียร์ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

แต่แล้วจู่ๆ เหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อมีการลงประวัติที่เป็นตัวสะท้อนคุณสมบัติการผ่านงานระดับชาติให้สมกับฐานานุรูป ยกให้ ธนาธร ขึ้นเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 2 สมัยแค่นั้นเอง...

ปรากฏการณ์ความนิยมก็พลิกกลับ บรรดาคนรุ่นใหม่ติดแฮชแท็ฏ #พ่อหลอกฟ้า ถาโถมใส่ ธนาธร ยังกะระเบิดนาปาล์ม ขนาดประวัติที่บอกประสบการณ์ของ ธนาธร ผู้อาสามาเป็นนักการเมืองยังหลอกลวงคน แล้วเรื่องอื่นๆ ละมิหลอกให้เดินตามก้นหลงผิดกันดอกหรือ !?....
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ3    แม้ ธนาธร จะออกมาแก้ตัว แก้เกี้ยวว่า “เจ้าหน้าที่ลงประวัติผิด” ไม่มีอะไรครับ....แต่ยอดทวีตตอบโต้ของผู้คนในโลกโซเชียลมีเดียกระหนนํ่าด่ายับผ่านการติดแฮชแท็ก #พ่อหลอกฟ้า ยอดสูงลิ่วถึง 1.7 ล้านทวีต เกินกว่าชื่นชมไป 2 แสนทวิต....สลบสิขรั่บ แก้เกมกันต่อไป

ต่อมาเมื่อมีการสร้างวาทกรรมทางนโยบาย “ตัดงบทหาร-ลดบทบาท ปฏิรูปทหาร” ของการเมืองและเกิดการตอบโต้ จนนำมาซึ่งเพลง “หนักแผ่นดิน” โลกโซเชียล มีเดียมีการติดแฮชแท็ก #หนักแผ่นดิน ถล่มทลายด่ากันกระเจิงถึง 2.8 ล้านทวีต ในจำนวนนั้นเป็นการแสดงความคิดเห็นตอบโต้ทหารสูงลิ่วถึง 70%

แน่นอนเมื่อมีการจุดไฟในนาครติด “คมหอกปลายดาบ” จึงพุ่งลงไปใส่ทหาร-คสช.ที่เป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายการเมือง จากปากนักการเมืองจึงสนั่นไปทั่วปฐพี แถมมีการระบุว่า คสช.จัดงบประมาณให้ทหารสูงลิ่วเหนือหน่วยงานอื่น จึงเกิดกระแส “ตัดงบ-เลิกเกณฑ์ทหาร-บ้าอำนาจ-เผด็จการ-หนักไปจนถึงขนาดว่า ประเทศนี้ไม่ต้องมีทหาร” สนั่นทุ่ง..สติ ปัญญา ดูจะห่างหายไปจากคนไทย ตามกระแสทางการเมืองที่ถูกปลุกปั่นสร้างคะแนนเสียงอีกแล้ว..ครับท่าน

ผมไม่อยากว่าเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของประเทศในอนาคต แต่ผมอยากดึงสติคนรุ่นหนึ่งที่เคยรํ่าเรียนหนังสือแบบเรียนภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อให้เราได้คิดเรื่อง “หัวใจเมือง” ซึ่งผมไม่อยากจะเถียงว่าใครประพันธ์ระหว่าง ในหลวงล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 หรือนายถนอม อัครเศรณี ใช้นามปากกาว่า “อัครรักษ์” หัวใจเมืองเขาว่าอย่างไร...เขาเตือนสติผู้คนให้ตระหนักว่า...
“...เมืองใดไม่มีทหารหาญ เมืองนั้นไม่นานเป็นข้า               

 เมืองใดไร้จอมพารา เมืองนั้นไม่ช้าอับจน

เมืองใดไม่มีพาณิชย์เลิศ เมืองนั้นย่อมเกิดขัดสน      

เมืองใดไร้ศิลป์โสภณ เมืองนั้นไม่พ้นเสื่อมทราม

เมืองใดไม่มีกวีแก้ว เมืองนั้นไม่แคล้วคนหยาม

 เมืองใดไม่มีนารีงาม เมืองนั้นหมดความภูมิใจ

เมืองใดไม่มีดนตรีเลิศ เมืองนั้นไม่เพริศพิสมัย

 เมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน”

ตั้งสติก่อนพี่น้องไทย การเมืองคือเรื่องของการหาทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ประชาชนคนไทยต้องตระหนัก และต้องรู้เท่าทันกับสิ่งที่เกิดขึ้น...

ในขณะที่ประเทศไทย นักการเมืองที่ขันอาสาเข้ามาสร้างประชาธิปไตยให้กินได้ แม้บ้านเมืองจะแตกแยกแบบไหน ประกาศลั่นจะตัดงบทหาร ประกาศชัดจะลดบทบาทของทหาร จนเสียงปรบมือเสียงเชียร์สนั่น

[caption id="attachment_393385" align="aligncenter" width="500"] ทางออกนอกตำรา : เมืองใดไม่มีทหาร  เมืองนั้นไม่นานเป็นขี้ข้า เพิ่มเพื่อน [/caption]

ผมพาไปดูเหตุการณ์ใน 2 ประเทศ เพื่อจะได้รู้ว่าโลกนั้นเป็นอย่างไร...ตามที่ “คนแดนไกล” บอกมาว่า เราต้องรู้โลก

18 กุมภาพันธ์ 2562 ประเทศสิงคโปร์ ประกาศแผนงบประมาณประจำปี 2562 ด้วยการอัดงบประมาณด้านความมั่นคงเพิ่มเป็นเกือบ 30% ของงบประมาณทั้งหมด เพื่อรับมือสถานการณ์โลกที่ตึงเครียดมากขึ้น

เฮง สวี เกียต รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสิงคโปร์ บอกว่า จะนำเสนอร่างแผนงบประมาณประจำปีนี้ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันจันทร์ (18 ก.พ. 2562) โดยเน้นยํ้าว่า รัฐบาลจะเพิ่มการลงทุนในทุกด้านที่จำเป็น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและปกป้องอธิปไตยของประเทศ

เฮง สวี เกียต บอกว่าเหตุผลที่ต้องตั้งงบประมาณด้านทหารเพิ่ม เพราะภูมิศาสตร์การเมืองทั่วโลกที่เปลี่ยน แปลงอย่างรวดเร็วและมีความตึงเครียดมากขึ้น สิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศขนาดเล็กจำเป็นต้องมีความพร้อมในการรับมือความเสี่ยงดังกล่าว จึงมีการตั้งงบทหารมากขึ้น

“สัดส่วนของงบประมาณทั้งหมดในด้านความมั่นคงประจำปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2.27 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ คิดเป็น 28.3% ของงบฯ ทั้งหมด ซึ่งอยู่ที่ 8.03 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์จากงบปีที่แล้ว” เฮง สวี เกียต ขุนคลังสิงคโปร์ อธิบาย

พอไปตรวจสอบก็พบว่า งบประมาณของกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ จะเพิ่มขึ้นจาก 1.48 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 1.55 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือเพิ่มขึ้น 4.8%

ขณะที่งบประมาณด้านสาธารณสุข นายเฮงเสนอให้จัดตั้งกองทุนมูลค่า 6,100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับพลเมือง 500,000 คน ซึ่งมีอายุ 60-69 ปี งบประมาณจำนวนดังกล่าวยังรวมถึงการก่อสร้างศูนย์กีฬาเพิ่มเติม และเป็นหลักประกันให้กับระบบสาธารณสุขสำหรับประชาชนในทุกช่วงวัย

และได้จัดงบประมาณแค่ 3,100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกช่วงวัยซึ่งเผชิญกับภาวะทุพพลภาพ
plate05 กลับไปดูฝรั่งแดนศิวิไลซ์บ้าง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งประธานาธิบดี ฌัก ชีรัก ได้ตัดงบทหารเหี้ยนเตียนและล้มเลิกระบบเกณฑ์ทหารไปในสมัยของเขาที่บริหารประเทศมา 14-15 ปี ตอนนี้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ประกาศชัดว่าจะเพิ่มงบด้านการทหาร และนำแนวคิดที่จะเอาการเกณฑ์ทหารกลับมาใช้แม้ว่าจะระยะเวลาในการเข้ามาฝึกวินัยทหารจะสั้น 1-3 เดือนก็ตาม มาครง เชื่อว่าวิธีการนี้จะทำให้เยาวชนได้มีประสบการณ์ตรง ได้รู้ถึงการทำงานและความจำเป็นของกองทัพ ส่งเสริมความรักชาติและ “ความปรองดอง” ในสังคม เขาต้องการปลุกสำนึกค่านิยมของประเทศขึ้นมาครับ

ทำไม มาครง ต้องทำ เพราะเขาอยากจะมาปลุกความรักชาติและความปรองดองขึ้นมา หลังจากฝรั่งเศสกำลังเจอกับภาวะความแตกแยกทางสังคมหนักหน่วง เรื่องการก่อการร้าย เกิดขึ้นเป็นระลอก ซึ่งทำให้เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างคนต่างวัฒนธรรมที่เข้ามา

ฝรั่งเศสสำรวจความเห็นคนในชาติเขา ประชาชนหวาดผวาความรุนแรง การก่อการร้ายอย่างมาก หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ “ชาร์ลี เอบโด” ในกรุงปารีส ประชาชนจึงเห็นด้วยกับการเอาระบบบังคับรับใช้ชาติมาใช้มากถึง 80%

คนไทยละครับ ...เราจะปล่อยให้นักการเมืองมาปั่นหัวแค่ไหน...มารวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย จึงจะเป็นประชารัฐ...กันเถอะครับ

| คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา
|  โดย : บากบั่น บุญเลิศ
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับ 3447 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 24-27 ก.พ.2562
595959859