เศรษฐกิจสหรัฐซบเซาฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 103.81 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) 103.81 จุด หรือลบ 0.40% ปิดที่ 25,850.63 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 9.82 จุด หรือลบ 0.35% ปิดที่ 2,774.88 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 29.36 จุด หรือลบ 0.39% ปิดที่ 7,459.71 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงกว่า 100 จุด หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่าดัชนีการผลิตเดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ -4.1 ลดลงจากระดับ 17.0 ในเดือนม.ค. โดยติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2559 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 14.0
ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานยอดขายบ้านมือสองในเดือนม.ค. 62 อยู่ระดับ 4.94 ล้านยูนิต ร่วงลง 1.2% และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2558 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านจะอยู่ที่ 5 ล้านยูนิตในเดือนม.ค.

โดยหุ้นในกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลง หุ้นยูไนเต็ดเฮล์ธ กรุ๊ป ร่วงลง 1.1% หุ้นแอลเลอร์แกน ดิ่งลง 2.6% หุ้นโมลินา เฮลธ์แคร์ ลดลง 0.8% และหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ลดลง 0.7%

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน จากรายงานข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนได้เริ่มร่างบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อคลี่คลายประเด็นที่ยุ่งยากที่สุดของข้อพิพาทการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย ถือเป็นความคืบหน้าที่สำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การยุติสงครามการค้าที่ยื้ดเยื้อมาเป็นเวลานานถึง 7 เดือน