พปชร. นำทีมลุยชัยนาท มั่นใจต่อยอดนโยบาย "ประยุทธ์" ถูกใจประชาชน-ทำได้จริง ด้าน 'อนุชา' เชื่อกวาดเสียงชัยนาทยกจังหวัด
21 ก.พ. 2562 - เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ จ.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐเปิดเวทีปราศรัยนโยบายข้าว
"ข้าวได้ราคา ชาวนาได้เงินเพิ่ม" นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลางและผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท เขต 1 นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท เขต 2 โดยมีตัวแทนกลุ่มชาวนาร่วมรับฟังและเสนอปัญหาหลายร้อยคน
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า นโยบายข้าว คือ หัวใจสำคัญของนโยบายเกษตรยั่งยืน เพื่อให้ฐานเกษตรกรรมเข้มแข็ง พรรคเน้นให้ชาวนาสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง และรัฐบาลต้องมีนโยบายช่วยเหลือชาวนาขณะกำลังปรับตัว ตนเชื่อว่า นโยบายเหล่านี้จะทำได้ทันที ทั้งนี้ ค่าเก็บเกี่ยวจาก 1,500 บาทต่อไร่ เป็น 2,000 บาทต่อไร่ เพราะมีการทำนโยบายนี้อยู่แล้ว ซึ่งนโยบายเหล่านี้เป็นการช่วยเหลือตรง ไม่ผ่านคนกลาง และยั่งยืน ไม่เป็นภาระงบประมาณและภาระของประเทศ พร้อมยืนยันว่า ไม่ขายฝันให้กับประชาชน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวเสริมว่า นโยบายที่พรรคทำ คือ สิ่งที่ทำแล้ว และฟังชาวนาเพื่อเอามาเดินหน้าต่อ พรรคไม่ต้องการแทรกแซงตลาด แต่ใช้การพัฒนาระบบ เช่น ค่าเก็บ การพัฒนาคุณภาพข้าว ฯลฯ จึงเชื่อว่า ทำได้จริง
ส่วนกรณีที่หลายคนมองว่า พรรคพลังประชารัฐไม่เป็นประชาธิปไตย ตนมองว่า เป็นเพียงวาทกรรมทางการเมือง เพราะพรรคทำตามกฎหมายและตามรัฐธรรมนูญเหมือนพรรคอื่นทุกประการ แต่เป็นเพียงความพยายามในการจะแยกเท่านั้น ไม่มีการใช้กลไกของรัฐในการแทรกแซง หรือ กลั่นแกล้งพรรคอื่น เพราะพรรคเองก็ยังถูกฟ้องยุบพรรคเช่นกัน โดย นายอุตตม กล่าวต่ออีกว่า พรรคไม่มีพลังวิเศษ และทุกวันนี้อยู่ในสายตาประชาชน ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้องประชาชนก็จะบอกเองว่า ไม่ใช่ ยืนยัน ไม่มีแต้มต่อ
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ยืนยันว่า การหาเสียงที่ผ่านมามีการตอบรับจากประชาชนที่ดีและจะได้คะแนนเสียงจริงหลังจากที่พบปะประชาชน อีกทั้งนโยบายของพรรคที่ทำได้จริงและทำต่อเนื่องจากนโยบายที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันจะทำให้ถูกใจประชาชน
ส่วนการขุดข้อมูลมาโจมตีหน่วยงานราชการ นายสมศักดิ์ มองว่า เกิดจากที่พรรคอื่น ๆ ไม่สามารถสู้กันทางนโยบายกับพรรคพลังประชารัฐได้ จึงต้องสร้างวาทกรรม หรือ วิวาทะ มาถูกเถียง โจมตี และเอาคะแนน เช่น ตรงนั้นตุง ตรงนี้ตุง หรือ การตัดงบในรัฐสภา หากใครหลงกลไปโต้เถียง พวกเขาก็จะประสบความสำเร็จ แต่ทั้งนี้ ตนไม่เชื่อว่า การโต้แย้งเหล่านี้จะไม่ส่งผลทำให้ไม่มีการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ พรรคยังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยกับ กกต. เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มามีบทบาทในการหาเสียงเต็มตัว แต่ทั้งนี้แล้วแต่ กกต. จะอนุญาต แต่อย่างไรก็ตาม พรรคเชื่อมั่นในนโยบายและตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่แล้ว และหลังจากนี้จะมีการหารือกับ พล.อ. ประยุทธ์ เพิ่มเติมว่าจะทำอะไรได้บ้างในอนาคต
ด้าน นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลางและผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จ.ชัยนาท กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่เบื่อการเมืองแบบเก่าที่มีการโจมตีใส่กัน แต่ต้องการหาพรรคการเมืองที่ยกคุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นได้ มั่นใจว่า จ.ชัยนาท จะได้ ส.ส. ยกจังหวัด ไม่กังวลว่า ใครจะกล่าวหาว่า พรรคได้รับการสนับสนุนจาก อบจ. หรือ การปกครองส่วนท้องถิ่น แต่การปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการสนับสนุนจากตนมากกว่า