‘ออกานิก้า’ สยายปีกสู่โกลบัลแบรนด์
“ศรีริต้า เจนเซ่น” เดินหน้าปั้นแบรนด์ “ออกานิก้า” หวังสยายปีกสู่ตลาดโลก เผยปักหมุดแฟล็ก ชิพสโตร์-คาเฟ่สุดหรู “ออกานิก้า ริวิเยร์” ที่ไอคอนสยามและบ้านสีลม บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมเปิดมาร์เก็ตเพลส เสริมแกร่งตลาดอี-คอมเมิร์ซ
นางสาวศรีริต้า เจนเซ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออกานิก้า เฮ้าส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปา อโรมาเธอราพีออร์แกนิก และสปาคาเฟ่ ภายใต้แบรนด์ “ออกานิก้า” เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทเปิดให้บริการร้านสปาคาเฟ่ในชื่อ ออกานิก้า เฮ้าส์ ไปเมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเปิดให้บริการสาขาแรกที่โครงการพิมาน 49 (สุขุมวิท 49) พร้อมกับมีจุดจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ สยามพารากอน 2 แห่ง, ดิ เอ็มโพเรียม และคิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดจนวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสปาของโรงแรมแมริออท ไต้หวัน เพื่อเป็นการปูพรมในการขยายตลาดพร้อมทั้งสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสปาอย่างเต็มตัว ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี
ล่าสุดได้ใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาทเปิดให้บริการสาขารูปแบบแฟล็กชิพสโตร์แห่งใหม่ “ออกานิก้า ริวิเยร์” (ORGANIKA RIVIERE) คาเฟ่สุดหรูและแฟล็กชิพสโตร์แห่งที่ 2 ณ ศูนย์การค้าสยาม ทาคาชิมายะ ภายในโครงการไอคอนสยาม บนพื้นที่ 77 ตร.ม. ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Water of Scents” โดยแบ่งสัดส่วนการให้บริการออกเป็นโซนคาเฟ่ 70% และส่วนจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพี 30% ก่อนมีแผนใช้งบประมาณการลงทุน 50 ล้านบาทในการขยายสาขาแฟล็กชิพสโตร์แห่งต่อไปในโครงการบ้านสีลม บนพื้นที่ 700 ตร.ม. ในรูปแบบรีเทล,คาเฟ่ แอนด์ เรสตอรองค์, สปา และโยคะ เพื่อรองรับกลุ่มชาวไทยและลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 3 หรือ 4 ของปีนี้
“ภาพรวมตลาดสปาและอโรมาเธอราพีเมืองไทยในปัจจุบันมีมูลค่า 7,000 ล้านบาท มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บริษัทเล็งเห็นโอกาสทางการเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยแผนงานนับจากนี้บริษัทจะทุ่มงบประมาณการลงทุนไปที่การเปิดสาขา”
ทั้งนี้บริษัทมีแผนพัฒนา Market Place ของบริษัทขึ้นมาเอง เพื่อให้ง่ายต่อการขยายตลาดไปยังต่างประเทศและในระดับโลกต่อไปในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งจะทำให้อี-คอมเมิร์ซของบริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังเป็นพาร์ตเนอร์กับ @cosme Store ในการนำสินค้าไปวางจำหน่ายภายในร้านซึ่งเป็นแบรนด์ไทยรายแรก โดยนำร่อง 2 สาขา ได้แก่ สยามเซ็นเตอร์ และสยามสแควร์ ก่อนจะจับมือกันขยายทั่วประเทศในอนาคต
ด้านตลาดต่างประเทศบริษัทได้เตรียมขยายตลาดในปีนี้เพิ่มเติมทั้งสิ้น 3 ประเทศได้แก่ ฮ่องกง ,ไต้หวัน และอีก 1 ประเทศในแถบยุโรป ก่อนที่จะมีการขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆเพิ่มเติมในอนาคตเบื้องต้นปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอไลเซนส์การส่งออก
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายระยะยาวช่วง 3-5 ปีนับจากนี้ด้วยการขยายสินค้าไปยังตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกับมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ในปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะสามารถปิดรายได้ที่ 175 ล้านบาท หรือมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 50 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากในประเทศ 96% และต่างประเทศ 4% โดยแนวโน้มในอีก 3-5 ปีข้างหน้าวางเป้าหมายรายได้ที่มาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็น 50:50
หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,446 วันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2562
นางสาวศรีริต้า เจนเซ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออกานิก้า เฮ้าส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปา อโรมาเธอราพีออร์แกนิก และสปาคาเฟ่ ภายใต้แบรนด์ “ออกานิก้า” เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทเปิดให้บริการร้านสปาคาเฟ่ในชื่อ ออกานิก้า เฮ้าส์ ไปเมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเปิดให้บริการสาขาแรกที่โครงการพิมาน 49 (สุขุมวิท 49) พร้อมกับมีจุดจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ สยามพารากอน 2 แห่ง, ดิ เอ็มโพเรียม และคิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดจนวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสปาของโรงแรมแมริออท ไต้หวัน เพื่อเป็นการปูพรมในการขยายตลาดพร้อมทั้งสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสปาอย่างเต็มตัว ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี
ล่าสุดได้ใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาทเปิดให้บริการสาขารูปแบบแฟล็กชิพสโตร์แห่งใหม่ “ออกานิก้า ริวิเยร์” (ORGANIKA RIVIERE) คาเฟ่สุดหรูและแฟล็กชิพสโตร์แห่งที่ 2 ณ ศูนย์การค้าสยาม ทาคาชิมายะ ภายในโครงการไอคอนสยาม บนพื้นที่ 77 ตร.ม. ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Water of Scents” โดยแบ่งสัดส่วนการให้บริการออกเป็นโซนคาเฟ่ 70% และส่วนจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพี 30% ก่อนมีแผนใช้งบประมาณการลงทุน 50 ล้านบาทในการขยายสาขาแฟล็กชิพสโตร์แห่งต่อไปในโครงการบ้านสีลม บนพื้นที่ 700 ตร.ม. ในรูปแบบรีเทล,คาเฟ่ แอนด์ เรสตอรองค์, สปา และโยคะ เพื่อรองรับกลุ่มชาวไทยและลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 3 หรือ 4 ของปีนี้
“ภาพรวมตลาดสปาและอโรมาเธอราพีเมืองไทยในปัจจุบันมีมูลค่า 7,000 ล้านบาท มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บริษัทเล็งเห็นโอกาสทางการเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยแผนงานนับจากนี้บริษัทจะทุ่มงบประมาณการลงทุนไปที่การเปิดสาขา”
ทั้งนี้บริษัทมีแผนพัฒนา Market Place ของบริษัทขึ้นมาเอง เพื่อให้ง่ายต่อการขยายตลาดไปยังต่างประเทศและในระดับโลกต่อไปในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งจะทำให้อี-คอมเมิร์ซของบริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังเป็นพาร์ตเนอร์กับ @cosme Store ในการนำสินค้าไปวางจำหน่ายภายในร้านซึ่งเป็นแบรนด์ไทยรายแรก โดยนำร่อง 2 สาขา ได้แก่ สยามเซ็นเตอร์ และสยามสแควร์ ก่อนจะจับมือกันขยายทั่วประเทศในอนาคต
ด้านตลาดต่างประเทศบริษัทได้เตรียมขยายตลาดในปีนี้เพิ่มเติมทั้งสิ้น 3 ประเทศได้แก่ ฮ่องกง ,ไต้หวัน และอีก 1 ประเทศในแถบยุโรป ก่อนที่จะมีการขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆเพิ่มเติมในอนาคตเบื้องต้นปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอไลเซนส์การส่งออก
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายระยะยาวช่วง 3-5 ปีนับจากนี้ด้วยการขยายสินค้าไปยังตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกับมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ในปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะสามารถปิดรายได้ที่ 175 ล้านบาท หรือมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 50 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากในประเทศ 96% และต่างประเทศ 4% โดยแนวโน้มในอีก 3-5 ปีข้างหน้าวางเป้าหมายรายได้ที่มาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็น 50:50
หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,446 วันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2562
