คาดหวังเจรจาการค้าสหรัฐฯ–จีนบรรลุข้อตกลง หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 117.51 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) จากการที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่า สหรัฐฯ และจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันได้ และแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปในระยะนี้ หลังจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค. ทรงตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,543.27 จุด เพิ่มขึ้น 117.51 จุด หรือเพิ่ม 0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,753.03 จุด เพิ่มขึ้น 8.30 จุด หรือเพิ่ม 0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,420.38 จุด เพิ่มขึ้น 5.76 จุด หรือเพิ่ม 0.08%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งในปลายสัปดาห์นี้ โดย นายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ จะเข้าร่วมเจรจากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน รวมถึง นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ในวันที่ 14–15 ก.พ. นี้ และขานรับรายงานที่ว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มีกำหนดพบปะกับคณะเจรจาการค้าของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ โดยจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงอาหารให้แก่คณะผู้แทนสหรัฐที่ภัตตาคารจีนในกรุงปักกิ่ง ถือเป็นสัญญาณบวกแสดงให้เห็นว่า ทั้ง 2 ฝ่าย พยายามที่จะเจรจาเพื่อให้ข้อตกลงทางการค้าเกิดขึ้นได้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปในระยะนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบรายเดือนทรงตัวเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%