"อายุน้อย 100 ล้าน" คนแรกของไทย แนะ 'เอสเอ็มอี' ต้องเปลี่ยน

11 ก.พ. 2562 | 02:46 น.
ในปี 2540 เศรษฐกิจไทยประสบปัญหาอย่างหนัก จนถึงขั้นที่เรียกได้ว่า ธุรกิจหลายธุรกิจวินาศสันตะโร จากการประกาศลอยตัวค่าเงินบาทของรัฐบาล ซึ่งมีผลทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจาก 25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ไปอยู่ที่ 50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เจ้าของธุรกิจเสมือนถูกปืนยิง และถือว่าเป็นสภาวะเศรษฐกิจที่ถือว่าย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเป็นที่มาของวิกฤติต้มยำกุ้ง

ในช่วงเวลาดังกล่าว แทบจะไม่มีผู้ใดเลยที่หาญกล้าเข้ามาทำธุรกิจ แต่มีเด็กหนุ่มอยู่ 1 คน ซึ่งในเวลานั้นมีอายุ 26 ปี กลับเริ่มต้นทำธุรกิจของตนเองภายใต้เงินลงทุน 3 แสนบาท ที่หยิบยืมมาจากพ่อของภรรยา เพื่อลงทุนนำเข้าเก้าอี้นวดไฟฟ้าแบบหยอดเหรียญ ที่คุ้นเคยกันดีในห้างสรรพสินค้ามาจำหน่าย ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของผู้ใดเลย

เวลาผ่านไป 3 ปี ชายหนุ่มที่มีชื่อว่า "ดำรงค์ พิณคุณ" กลับสร้างรายได้ให้กับตนเองได้ปีละ 120 ล้านบาท ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยเป็นคำถามที่ใครหลายคนต่างสงสัยว่า ทำได้อย่างไร


A3D9FD64-A878-49DB-95BE-BDFE5442A636

แม้กระทั่งเจ้าตัวเองที่ทำได้ นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้สนใจไปค้นคว้าศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทั้งการศึกษาจากในประเทศและต่างประเทศ จนในที่สุดก็สามารถหาคำตอบได้ว่า มนุษย์ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยกระบวนการคิดที่เป็นระบบ


➣ อายุน้อย 100 ล้านคนแรกของไทย

"ดำรงค์"
ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาระบบความคิด (NeuroGenius INSTITUTE) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในช่วงอายุ 35 ปี ตนได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับแนวคิดและกระบวนการที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ โดยในระยะเวลา 8 ปี สามารถออกหนังสือได้ทั้งหมด 60 ปก ที่เป็นภาษาไทย และแปลเป็นภาษาอังกฤษ 20 ปก เพื่อนำไปจำหน่ายยังต่างประเทศ จนปัจจุบัน ได้เป็นคนไทยคนแรกที่มีหนังสือของตนเองที่แปลเป็นภาษาต่างประเทศแล้ว 10 ภาษา เช่น จีน ไต้หวัน สเปน โปรตุเกส ฯลฯ เพื่อจำหน่ายใน 50 ประเทศทั่วโลก

"จากหนังสือที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทยและต่างประเทศจากการขายลิขสิทธิ์หนังสือ ประกอบกับการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จึงได้รับสมญานามว่า อายุน้อย 100 ล้านคนแรกของประเทศไทย"


TP8-3443-A

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีรายได้จากการจำหน่ายหนังสือที่เป็นภาษาไทยและจากการขายลิขสิทธิ์ให้กับต่างประเทศ รวมถึงการเป็นวิทยากรให้กับองค์กรขนาดใหญ่ต่าง ๆ จนเรียกว่า ไม่ต้องประกอบอาชีพเพิ่มเติมก็ยังอยู่ได้ แต่ด้วยความที่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ จึงได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกสาขาประสาทวิทยา (Neuroscience) เป็นระยะเวลา 2 ปี ทำให้รู้ว่า สมองของคนเรามีกระบวนความคิดอย่างไร และเขียนหนังสือเพิ่มอีก 1 เล่ม ภายใต้ชื่อ GeniusX


➣ ทุกคนมีความเป็นอัจฉริยะ

"ดำรงค์"
บอกต่อไปอีกว่า ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจได้ และมีความเป็นอัจฉริยะอยู่ในตัวเอง เพียงแต่ต้องรู้ว่า ตนเองเป็นคนประเภทไหน และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึงเป็นอย่างไร เพื่อกำหนดกลยุทธ์ทางการขายได้อย่างถูกวิธี และตรงจุดความสำคัญเพื่อปิดการขาย โดยการทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวตน แต่พยายามลอกเลียนผู้อื่นที่ประสบความสำเร็จ ทำให้คนส่วนใหญ่ใม่ประสบความสำเร็จ เพราะคนทุกคนไม่เหมือนกัน วิธีการประสบความสำเร็จจึงแตกต่างกัน

หากถามว่า เอสเอ็มอี (SMEs) ขาดอะไร คงต้องมองไปตั้งแต่จุดเริ่มต้น ซึ่งหลายรายยังไม่ทราบตัวตนของตนเอง หรือ ผลิตสินค้าออกมาเพื่อจำหน่ายให้กับผู้ใด เรียกว่า ยังมองหาตลาดของตนเองไม่พบ ไม่รู้จักวิธีการบริหารจัดการ ซึ่งหากเอสเอ็มอีต้องการประสบความสำเร็จ จะต้องหัดมองการณ์ไกลกว่าที่เคยรู้ โดยทำได้ง่ายจากการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้มองเห็นอนาคตและนำไปสู่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภค เรียกว่า เอสเอ็มอีจะประสบความสำเร็จได้ ต้องฉลาดกว่าที่เคยเป็นทุกอย่าง

"ลองย้อนดูว่าจาก 10 ปีที่แล้วถึงวันนี้ มีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง หากยอดขายยังเท่าเดิม ธุรกิจยังเล็กเหมือนเดิม ยังมีหนี้สินเหมือนเดิม ยังต้องหมุนเงินเหมือนเดิม แปลว่า ชีวิตไม่ดีขึ้น ดังนั้น จะต้องทำทุกอย่างที่ไม่เหมือนเดิม และหวังจะให้ผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงไป โดยจะต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ระบบความคิด เพราะคนเราคิดอย่างไรก็จะทำอย่างนั้น หรือ พูดแบบนั้น"


➣ หากลุ่มลูกค้าให้เจอ

"ดำรงค์"
บอกอีกว่า กลยุทธ์การทำตลาดให้ประสบความสำเร็จไม่มีวิธีการที่สลับซับซ้อนมาก ต้องหากลุ่มลูกค้าให้เจอเท่านั้น โดยสูตรสำเร็จ ก็คือ สินค้าคูณลูกค้าเท่ากับรายได้ หรือจะกล่าวก็คือ หากสินค้าห่วย เมื่อลูกค้ามาพบก็ไม่มีการซื้อสินค้า แต่ก็อาจทำให้เกิดการซื้อขายได้หากได้พบกับกลุ่มลูกค้า ขณะที่ สินค้าดีในระดับปานกลาง แต่หาลูกค้าไม่เจอ ก็ขายไม่ได้ เช่นเดียวกับสินค้าดีมาก แต่หาลูกค้าไม่เจอก็เป็นศูนย์ ดังนั้น สมการจะต้องสมดุลกัน


322A388F-90ED-4811-932F-E8661060D60B

"ผมมีอาชีพขายหนังสือ และรู้ว่าประเทศไทยมีจำนวนคนอ่านหนังสือน้อย จึงทำการหาข้อมูลเพิ่มเติม ว่า ที่ใดที่คนอ่านหนังสือมากที่สุด ทำให้ได้พบว่าเป็นประเทศอังกฤษ เป็นประเทศที่คนนิยมอ่านหนังสือ จึงตัดสินใจไปยังแหล่งที่จะทำให้ได้พบกับลูกค้า โดยเป็นสัปดาห์หนังสือที่ขายเฉพาะลิขสิทธิ์งานเขียน ซึ่งไปครั้งแรกเมื่อปี 2557 และสามารถขายลิขสิทธิ์เพื่อจำหน่ายได้ 24 ประเทศทั่วโลก จากหนังสือที่แปลเป็นอังกฤษไปทั้งหมด 12 ปก หลังจากนั้น ทุกเล่มที่เป็นภาษาไทยจึงแปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เพื่อนำไปจำหน่าย ทำให้มีรายได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง"

สิ่งที่ทำ ก็คือ การสร้างความแตกต่าง ไม่ทำหนังสือเหมือนทั่วไป โดยนำเสนอในรูปแบบใหม่ ด้วยการออกแบบรูปเล่มเอง ออกแบบปกเอง ใช้ภาพสื่อความหมายมากกว่าตัวหนังสือ เนื่องจากผู้อ่านส่วนมากจะเกิดอาการเบื่อ หรือ ง่วงนอน เมื่อต้องเจอกับตัวหนังสือปริมาณมาก ขณะที่ ทางด้านธุรกิจได้มีการคิดหลักสูตรเพื่อเอสเอ็มอี ที่มีชื่อว่า สมองคนรวย (Rich Brian) ซึ่งจะประกอบไปด้วย ระบบความคิด ทักษะชีวิต ทักษะการบริหาร ทักษะการทำงาน ทักษะการใช้เป้าหมายให้เป็นประโยชน์ ทักษะต่าง ๆ ที่ต้องมี เพราะเอสเอ็มอีไม่รู้ว่า ต้องมี ต้องรู้อะไร และ GeniusX ซึ่งเป็น 10 กลยุทธ์ที่จะทำให้เอสเอ็มอีประสบความสำเร็จได้ โดยจะมีทักษะทางด้านแนวคิด กลยุทธ์ การใช้ชีวิต กระบวนการคิดของคน การบริหาร คนแต่ละกลุ่มก็จะบริหารต่างกัน และการเจาะลูกค้าแต่ละกลุ่ม เป็นต้น


| เรื่องโดย : นิธิโรจน์  เกิดบุญภานุวัฒน์

| ภาพ : สุกฤษฏิ์ สืบสาย

หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3443 วันที่ 10-13 กุมภาพันธ์ 2563

595959859