'จุรินทร์' วอนเลือก ปชป. ให้มากสุด เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแก้ปัญหาปากท้อง
'จุรินทร์' ชี้! กติกาเลือกตั้งทำให้เกิดพรรคยั้วเยี้ย หวังคะแนนจับฉ่าย แค่ให้ได้ ส.ส. คนสองคน ย้ำ! ทุกคะแนนสำคัญต่อการคิดจำนวนที่นั่งในสภา วอนเลือก ปชป. ให้มากสุด เพื่อเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแก้ปัญหาปากท้องประชาชน
วันที่ 6 ก.พ. 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยกับประชาชนกว่า 2 พันคน ภายหลังร่วมเปิดศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ จ.กาญจนบุรี กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผู้สมัครกาญจนบุรี ทั้ง 5 เขต ว่า การเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ ไม่เหมือนกับการเลือกตั้งหลังสุดเมื่อปี 2554 หรือ 8 ปีที่ผ่านมา เพราะครั้งก่อนมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใช้ลงคะแนนให้กับ ส.ส.เขต 1 ใบ ลงคะแนนเลือกพรรค หรือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อีก 1 ใบ แต่ในครั้งนี้จะมีบัตรลงคะแนนเพียงใบเดียวและลงคะแนนได้คะแนนเดียว บังคับให้ต้องเลือก ส.ส.เขต และพรรครวมกัน โดยหลังจากนับคะแนนเสร็จสิ้นก็จะนำคะแนนรวมทั้งประเทศของแต่ละพรรคไปคิดคำนวณเป็นจำนวนที่นั่งรวมทั้งสภา ที่พรรคการเมืองนั้นจะได้รับ แล้วจัดสรรเป็นจำนวน ส.ส. ที่พรรคนั้นจะได้ทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ
"หากมีผู้ลงคะแนน 40 ล้านคน มีประชาชนมาลงคะแนนให้พรรคหนึ่งรวมกันทั้งประเทศ 20 ล้านเสียง พรรคนั้นก็จะได้ ส.ส. ไปครึ่งหนึ่ง คือ 250 คน โดยมีผู้ลองคำนวณดู ก็พบว่า ถ้าพรรคไหนได้ 80,000 เสียง ก็จะได้ ส.ส. 1 คน จึงเป็นที่มาที่ทำให้เกิดพรรคการเมืองยั้วเยี้ยไปหมด เพราะหวังแค่ส่งผู้สมัครไปแล้วได้คะแนนรวมกันทั้งประเทศแค่ 80,000 คะแนน ก็จะได้ ส.ส. ไปแล้ว 1 คน" นายจุรินทร์ กล่าวและว่า
เลือกตั้งเที่ยวนี้จึงได้เห็นจำนวนพรรคการเมืองส่งผู้สมัครมีมากกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมาหลายเท่าตัว เพราะทุกพรรคต่างก็หวังคะแนนสะสม ดังนั้น ทุกคะแนนจึงมีความสำคัญยิ่ง ต้องรวมกันหมดทั้งประเทศแล้วให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เพื่อนำนโยบายดี ๆ เพื่อประชาชนมาใช้ในการแก้จน สร้างคน สร้างชาติ
"ทุกคะแนนจึงมีความสำคัญ ไม่ใช่สำคัญเฉพาะกับพวกผม แต่สำคัญกับประชาชนที่ต้องการเห็นปากท้องและประเทศดีขึ้นทุกคน" นายจุรินทร์ กล่าวในที่สุด
วันที่ 6 ก.พ. 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยกับประชาชนกว่า 2 พันคน ภายหลังร่วมเปิดศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ จ.กาญจนบุรี กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผู้สมัครกาญจนบุรี ทั้ง 5 เขต ว่า การเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ ไม่เหมือนกับการเลือกตั้งหลังสุดเมื่อปี 2554 หรือ 8 ปีที่ผ่านมา เพราะครั้งก่อนมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใช้ลงคะแนนให้กับ ส.ส.เขต 1 ใบ ลงคะแนนเลือกพรรค หรือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อีก 1 ใบ แต่ในครั้งนี้จะมีบัตรลงคะแนนเพียงใบเดียวและลงคะแนนได้คะแนนเดียว บังคับให้ต้องเลือก ส.ส.เขต และพรรครวมกัน โดยหลังจากนับคะแนนเสร็จสิ้นก็จะนำคะแนนรวมทั้งประเทศของแต่ละพรรคไปคิดคำนวณเป็นจำนวนที่นั่งรวมทั้งสภา ที่พรรคการเมืองนั้นจะได้รับ แล้วจัดสรรเป็นจำนวน ส.ส. ที่พรรคนั้นจะได้ทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ
"หากมีผู้ลงคะแนน 40 ล้านคน มีประชาชนมาลงคะแนนให้พรรคหนึ่งรวมกันทั้งประเทศ 20 ล้านเสียง พรรคนั้นก็จะได้ ส.ส. ไปครึ่งหนึ่ง คือ 250 คน โดยมีผู้ลองคำนวณดู ก็พบว่า ถ้าพรรคไหนได้ 80,000 เสียง ก็จะได้ ส.ส. 1 คน จึงเป็นที่มาที่ทำให้เกิดพรรคการเมืองยั้วเยี้ยไปหมด เพราะหวังแค่ส่งผู้สมัครไปแล้วได้คะแนนรวมกันทั้งประเทศแค่ 80,000 คะแนน ก็จะได้ ส.ส. ไปแล้ว 1 คน" นายจุรินทร์ กล่าวและว่า
เลือกตั้งเที่ยวนี้จึงได้เห็นจำนวนพรรคการเมืองส่งผู้สมัครมีมากกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมาหลายเท่าตัว เพราะทุกพรรคต่างก็หวังคะแนนสะสม ดังนั้น ทุกคะแนนจึงมีความสำคัญยิ่ง ต้องรวมกันหมดทั้งประเทศแล้วให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เพื่อนำนโยบายดี ๆ เพื่อประชาชนมาใช้ในการแก้จน สร้างคน สร้างชาติ
"ทุกคะแนนจึงมีความสำคัญ ไม่ใช่สำคัญเฉพาะกับพวกผม แต่สำคัญกับประชาชนที่ต้องการเห็นปากท้องและประเทศดีขึ้นทุกคน" นายจุรินทร์ กล่าวในที่สุด
