'อลงกรณ์' แนะ "บิ๊กตู่" 2 ทางเลือก ลงเลือกตั้งแข่งนายกฯ-เป็น ส.ว. คุมปฏิรูปประเทศ
'อลงกรณ์' แนะ "บิ๊กตู่" 2 ทางเลือก ลงสนามเลือกตั้งแข่งนายกฯ หรือเป็นวุฒิสมาชิกกำกับการปฏิรูปประเทศ
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ว่า เหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของตัวเอง ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับอนาคตของประเทศชาติ
ดังนั้น ในฐานะอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศที่เคยร่วมงานปฏิรูปประเทศกันมา คิดว่า ท่านนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีเพียงทางเลือกเดียว คือ การตัดสินใจจะตอบรับการเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีตามคำเชิญของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่เท่านั้น แต่ยังมีอีกทางเลือกหนึ่ง คือ การเป็นวุฒิสมาชิก หรือ ประธานวุฒิสภา สำหรับทางเลือกอื่น เช่น นายกรัฐมนตรีคนนอกนั้น ตนไม่แนะนำ แม้รัฐธรรมนูญจะเปิดช่อง เพราะจะนำมาซึ่งความขัดแย้งอย่างรุนแรงทางการเมือง จนอาจกลายเป็นชนวนของวิกฤติการณ์ครั้งใหม่ของประเทศ
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ทางเลือกแรกการลงแข่งขันเป็นนายกรัฐมนตรีจะสร้างความชอบธรรม เพราะเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยที่สากลยอมรับ ทั้งนี้ จะต้องแข่งขันตามกติกาแบบสุภาพบุรุษ ส่วนผลแพ้ชนะขึ้นกับการตัดสินของประชาชน ซึ่งเป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยง ตรงข้ามกับทางเลือกที่ 2 ไม่มีความเสี่ยง เพราะเป็นการแต่งตั้ง และถ้าต้องการเป็นประธานวุฒิสภาก็ไม่ยาก โดยมีความรับผิดชอบสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเป็นนายกรัฐมนตรี คือ การกำกับดูแลการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลจะต้องรายงานความคืบหน้าของการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติต่อรัฐสภาทุก 3 เดือน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ว่า เหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของตัวเอง ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับอนาคตของประเทศชาติ
ดังนั้น ในฐานะอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศที่เคยร่วมงานปฏิรูปประเทศกันมา คิดว่า ท่านนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีเพียงทางเลือกเดียว คือ การตัดสินใจจะตอบรับการเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีตามคำเชิญของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่เท่านั้น แต่ยังมีอีกทางเลือกหนึ่ง คือ การเป็นวุฒิสมาชิก หรือ ประธานวุฒิสภา สำหรับทางเลือกอื่น เช่น นายกรัฐมนตรีคนนอกนั้น ตนไม่แนะนำ แม้รัฐธรรมนูญจะเปิดช่อง เพราะจะนำมาซึ่งความขัดแย้งอย่างรุนแรงทางการเมือง จนอาจกลายเป็นชนวนของวิกฤติการณ์ครั้งใหม่ของประเทศ
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ทางเลือกแรกการลงแข่งขันเป็นนายกรัฐมนตรีจะสร้างความชอบธรรม เพราะเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยที่สากลยอมรับ ทั้งนี้ จะต้องแข่งขันตามกติกาแบบสุภาพบุรุษ ส่วนผลแพ้ชนะขึ้นกับการตัดสินของประชาชน ซึ่งเป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยง ตรงข้ามกับทางเลือกที่ 2 ไม่มีความเสี่ยง เพราะเป็นการแต่งตั้ง และถ้าต้องการเป็นประธานวุฒิสภาก็ไม่ยาก โดยมีความรับผิดชอบสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเป็นนายกรัฐมนตรี คือ การกำกับดูแลการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลจะต้องรายงานความคืบหน้าของการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติต่อรัฐสภาทุก 3 เดือน
