ธปท.ขยายMacroPrudentialคุมสหกรณ์
ลุ้นธปท. เคาะ DSR คุมความเสี่ยงสินเชื่อ เล็งขยาย Macro Prudential ไปยังรายย่อย ธุรกิจขนาดใหญ่ สหกรณ์ออมทรัพย์และอสังหาฯ ที่ยังพบพฤติกรรม search for yield
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ใช้มาตรการดูแลระบบการเงิน(Macro prudential) โดยการคุมอัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน(LTV) ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายนนี้ และยังติดตามพฤติกรรมของสหกรณ์ออมทรัพย์หรือชุมนุมสหกรณ์ ซึ่งเป็นธนาคารเงาขนาดใหญ่ของระบบการเงินไทย มีเงินฝากรวม 0% ของระบบ และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง หรือการกู้ยืมของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่ขยายตัวมาก ทั้งการลงทุนต่างประเทศ ขยายขอบเขตธุรกิจ มีการกู้ยืมมากขึ้น สถาบันการเงินและระดมทุนตลาดตราสารหนี้ ก่อให้เกิดความเชื่อมโยงระบบการเงินสูงขึ้น และมีโครงสร้างที่ซับซ้อน จนทำให้ยากต่อการประเมินความเสี่ยง รวมทั้งจับตาการขยายตัวเพิ่มของสินเชื่อหนี้ครัวเรือนด้วย
นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยฯ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มีโอกาสที่ธปท.จะขยายขอบข่าย Macro prudential กำกับดูแลสินเชื่อประเภทอื่นอีก เช่น อยู่ระหว่างศึกษาสัดส่วนการชำระหนี้ต่อรายได้หรือ DSR แม้ว่าสถาบันการเงินผู้ปล่อยกู้จะใช้ DSR อยู่แล้ว แต่นิยามที่ใช้ไม่เหมือนกัน
[caption id="attachment_383303" align="aligncenter" width="377"]
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ ตลาดเงินและตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า แนวโน้มธปท.คงใช้ Macro prudential ดูแลการปล่อยกู้ระหว่างสหกรณ์ออมทรัพย์ แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเท่าที่ทราบสหกรณ์ออมทรัพย์มีการซ่อนตัวเลข หากเข้มงวดอาจจะเกิดการ Default หลายแห่ง เพราะมีการกู้ที่เกี่ยวโยงกัน ซึ่งตามนิยามธนาคารเงาครอบคลุมถึงพฤติกรรม search for yield ในรูปแบบต่างๆ หรือความเสี่ยงที่เกิดจากการกู้ของบริษัทขนาดใหญ่ หรือ DSR ของภาคครัวเรือน รวมถึงการเก็งกำไรในอสังหา ริมทรัพย์และกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน มองว่า ธปท.จะขยายไปในกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์ เพราะเติบโตมาก หรือสินเชื่อรายใหญ่ ซึ่งธนาคารปรับตัวด้วยการกระจายการเติบโตของสินเชื่อ เพื่อลดความเสี่ยงแม้ว่า จะระมัดระวังอยู่แล้ว
หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,441 วันที่ 3 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
