"แอปเปิ้ล-ซัมซุง" ดิ้นปั๊มยอดขาย! หันใช้กลยุทธ์ราคาช่วงชิงลูกค้าจีน-อินเดีย

การเติบโตของยอดขายที่แผ่วลงมากในตลาดจีนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผลประกอบการของ "แอปเปิ้ล อิงค์" ต่ำหลุดเป้าหมายในปีการเงินที่ผ่านมา และราคาที่สูงกว่าคู่แข่งก็เป็นปัจจัยที่ซ้ำเติม ทำให้ยักษ์ใหญ่รายนี้พยายามแก้ไขสถานการณ์ในทุกวิถีทาง รวมถึงการที่บริษัทลดราคาโทรศัพท์ไอโฟนให้กับตัวแทนขายในจีน เพื่อที่ผู้ขายจะสามารถนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในราคาที่ถูกลงมา

โดยผู้ค้าบางราย เช่น เจดีดอตคอม และ ซูหนิง ผู้ค้าผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ล 2 รายใหญ่ที่สุดในจีน ได้ลดราคาไอโฟน 8, ไอโฟน 8 Plus, ไอโฟน XR, XS และ XS Max ลงมาได้มากถึง 20% ยกตัวอย่าง ราคาไอโฟน XR บนเว็บไซต์ของ JD.com ได้รับส่วนลดถึง 450 หยวน (ประมาณ 66 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ทำให้ซื้อหาได้ในราคาเพียงเครื่องละ 5,250 หยวน หรือประมาณ 25,000 กว่าบาทเท่านั้น รุ่นอื่น ๆ ส่วนใหญ่ได้รับส่วนลดราวเครื่องละ 400 หยวน อย่างไรก็ตาม แอปเปิ้ลยังคงตรึงราคาสินค้าที่จำหน่ายในร้านแอปเปิ้ลสโตร์ ซึ่งเป็นของบริษัทเองเอาไว้ ไม่ได้ลดลงมา ปรากฏการณ์ดังกล่าวถือว่าไม่ได้เห็นกันได้บ่อยนัก เพราะแอปเปิ้ลไม่ค่อยใช้กลยุทธ์ลดราคาสินค้า ไม่ว่าจะในประเทศใดก็ตาม แต่ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า บริษัทได้รับแรงกดดันด้านผลประกอบการมากเพียงใด และยังเป็นที่น่าสนใจด้วยว่า นอกจากจีนแล้ว แอปเปิ้ลจะใช้กลยุทธ์เดียวกันนี้ในประเทศอื่น ๆ ด้วยหรือไม่

การลดราคาดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานข่าวเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตไอโฟนบางรุ่นลง 10% ในระยะ 3 เดือนข้างหน้า ส่วนการลดราคาครั้งใหญ่สุดก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปได้ถึงปี 2007 (พ.ศ. 2550) ซึ่งครั้งนั้นมีการปรับลดราคาไอโฟนที่เพิ่งออกใหม่ไม่กี่เดือนลงถึงเครื่องละ 200 ดอลลาร์

➣ ซัมซุงขนสมาร์ทโฟนราคาถูกบุกอินเดีย

ด้าน ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ คู่แข่งสำคัญจากเกาหลีใต้ หันใช้กลยุทธ์ราคากับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายในตลาดอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่โตเร็วที่สุดในโลก และเป็นตลาดที่ซัมซุงเพลี่ยงพล้ำเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ (Xiaomi) และคู่แข่งรายอื่น ๆ จากจีน

โดยในวันที่ 5 ก.พ. ที่จะถึงนี้ ซัมซุงมีแผนวางจำหน่ายสมาร์ทโฟน M ซีรีส์ 3 รุ่น ในราคาต่ำกว่า 20,000 รูปี (ประมาณเครื่องละ 283 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 9,340 บาท) สามารถซื้อได้บนร้านค้าออนไลน์ของซัมซุงในอินเดีย และเว็บไซต์อเมซอนอินเดีย รุ่นราคาประหยัดสุดจะวางจำหน่ายในราคาไม่ถึง 10,000 รูปี หลังจากนั้นบริษัทมีแผนนำสมาร์ทโฟนรุ่นราคาประหยัดเหล่านี้บุกตลาดในประเทศอื่น ๆ ด้วย

ผู้บริหารของซัมซุงอินเดียให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสำหรับสมาร์ทโฟนข้างต้น คือ เหล่าหนุ่มสาวที่เรียกว่า กลุ่มเจเนอเรชั่น "มิลเล็นเนียล" (หรือผู้ที่เกิดระหว่างปี 1984-1996 หรือ พ.ศ. 2527-2539) ที่มีสัดส่วนคิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรอินเดีย ที่มีอยู่ 1,300 ล้านคนทั่วประเทศนั่นเอง ผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังเป็นครึ่งหนึ่งของนักช็อปออนไลน์ของประเทศอินเดีย ดังนั้น จึงเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายไหน ๆ ก็ไม่อาจมองข้าม ยิ่งมองในแง่ที่ว่า อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน แต่เป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ยอดขายพุ่งแรงมากที่สุดในโลก และประชากรทั่วประเทศก็มีผู้ที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนเพียง 24% ยิ่งทำให้ตลาดอินเดียเป็นเป้าหมายที่น่าเย้ายวนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่สังเวียนที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ตลาดสมาร์ทโฟนราคาระดับกลางถึงระดับล่าง

รายงานของบริษัทวิจัยการ์เนอร์ชี้ว่า บริษัทผู้ผลิตที่มุ่งสร้างรายได้จากยอดขายปริมาณมาก และหวังส่วนแบ่งตลาดใน 5 อันดับแรก ควรจะต้องเข้ามาปักหมุดในตลาดสมาร์โฟนราคาระดับกลางและล่างให้ได้ อินเดียเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง "ราคา" เป็นปัจจัยสำคัญ แต่ผู้ซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องแรกยังมองปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น ดีไซน์และความยาวนานของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ คนอินเดียยังนิยมถ่ายภาพเซลฟี่ สมรรถนะของกล้องและฟังก์ชันการถ่ายภาพ จึงเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจซื้อ