ครม. อนุมัติ 2.4 หมื่นล้าน ลุยบริหารจัดการน้ำ 3 โครงการ
ครม. อนุมัติ 2.4 หมื่นล้าน ลุยบริหารจัดการน้ำ 3 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติอนุมัติโครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ 3 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท โครงการแรกอนุมัติให้ดำเนินงานโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีกำหนดแผนงานโครงการ 5 ปี (ปีงบประมาณ 2562–2566) กรอบวงเงินงบประมาณโครงการทั้งสิ้น 21,000 ล้านบาท เป็นหนึ่งในแผนการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยา 9 แผนงาน โดยเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยาถึงปากแม่น้ำ โดยการขุดคลองระบายน้ำหลากสายใหม่ เพื่อผันน้ำเลี่ยงเมืองพระนครศรีอยุธยา จากแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.บางบาล ถึง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา รวมความยาวประมาณ 22.50 กิโลเมตร ซึ่งจะสามารถระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ในการนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการสำรวจออกแบบคลองระบายน้ำหลากและอาคารประกอบ พร้อมส่วนประกอบอื่นเสร็จแล้ว เมื่อเดือน ก.ย. 2561 และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติในคราวประชุมครั้งที่ 3/2561 เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2561 ได้มีมติให้ความเห็นชอบในหลักการให้ดำเนินโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล–บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติเปิดโครงการและงบประมาณต่อไป
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ครม. ดำเนินโครงการประตูระบายน้ำบ้านก่อ พร้อมระบบส่งน้ำ จ.สกลนคร มีกำหนดแผนงานโครงการ 5 ปี (งบประมาณ 2562–2566) กรอบวงเงินงบประมาณโครงการทั้งสิ้น 1,249 ล้านบาท ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำในลำน้ำยาม บริเวณบ้านก่อ ไว้ช่วยเหลือการเพาะปลูก โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง ให้แก่พื้นที่บางส่วนของ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เนื่องจากในฤดูแล้งราษฎรในพื้นที่โครงการไม่มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภค–บริโภค และการเกษตรกรรม เป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์ปลาและทำการประมง รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยโครงการฯ ไม่จัดอยู่ในประเภทหรือกิจการที่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และโครงการได้ดำเนินการสำรวจ–ออกแบบงานประตูระบายน้ำหัวงาน อาคารประกอบแล้วเสร็จในปี 2560 และระบบส่งน้ำฝั่งขวาและระบบส่งน้ำฝั่งซ้ายอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2562
และโครงการสุดท้าย ครม. อนุมัติให้ดำเนินโครงการประตูระบายน้ำลำน้ำพุง–น้ำก่ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร มีกำหนดแผนงานโครงการ 5 ปี (ปีงบประมาณ 2562–2566) กรอบวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 2,100 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขต อ.เมืองสกลนคร และ อ.โคกศรีสุพรรณ โดยการก่อสร้างคลองผันน้ำเพื่อตัดยอดน้ำจากลำน้ำพุงก่อนไหลลงสู่หนองหาร โดยผันน้ำลงสู่ลำน้ำก่ำ สามารถลดปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่หนองหารได้ประมาณ 55 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และช่วยเหลือประชาชนเพื่อการอุปโภคบริโภคการเกษตร
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติอนุมัติโครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ 3 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท โครงการแรกอนุมัติให้ดำเนินงานโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีกำหนดแผนงานโครงการ 5 ปี (ปีงบประมาณ 2562–2566) กรอบวงเงินงบประมาณโครงการทั้งสิ้น 21,000 ล้านบาท เป็นหนึ่งในแผนการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยา 9 แผนงาน โดยเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยาถึงปากแม่น้ำ โดยการขุดคลองระบายน้ำหลากสายใหม่ เพื่อผันน้ำเลี่ยงเมืองพระนครศรีอยุธยา จากแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.บางบาล ถึง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา รวมความยาวประมาณ 22.50 กิโลเมตร ซึ่งจะสามารถระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ในการนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการสำรวจออกแบบคลองระบายน้ำหลากและอาคารประกอบ พร้อมส่วนประกอบอื่นเสร็จแล้ว เมื่อเดือน ก.ย. 2561 และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติในคราวประชุมครั้งที่ 3/2561 เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2561 ได้มีมติให้ความเห็นชอบในหลักการให้ดำเนินโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล–บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติเปิดโครงการและงบประมาณต่อไป
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ครม. ดำเนินโครงการประตูระบายน้ำบ้านก่อ พร้อมระบบส่งน้ำ จ.สกลนคร มีกำหนดแผนงานโครงการ 5 ปี (งบประมาณ 2562–2566) กรอบวงเงินงบประมาณโครงการทั้งสิ้น 1,249 ล้านบาท ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำในลำน้ำยาม บริเวณบ้านก่อ ไว้ช่วยเหลือการเพาะปลูก โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง ให้แก่พื้นที่บางส่วนของ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เนื่องจากในฤดูแล้งราษฎรในพื้นที่โครงการไม่มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภค–บริโภค และการเกษตรกรรม เป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์ปลาและทำการประมง รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยโครงการฯ ไม่จัดอยู่ในประเภทหรือกิจการที่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และโครงการได้ดำเนินการสำรวจ–ออกแบบงานประตูระบายน้ำหัวงาน อาคารประกอบแล้วเสร็จในปี 2560 และระบบส่งน้ำฝั่งขวาและระบบส่งน้ำฝั่งซ้ายอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2562
และโครงการสุดท้าย ครม. อนุมัติให้ดำเนินโครงการประตูระบายน้ำลำน้ำพุง–น้ำก่ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร มีกำหนดแผนงานโครงการ 5 ปี (ปีงบประมาณ 2562–2566) กรอบวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 2,100 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขต อ.เมืองสกลนคร และ อ.โคกศรีสุพรรณ โดยการก่อสร้างคลองผันน้ำเพื่อตัดยอดน้ำจากลำน้ำพุงก่อนไหลลงสู่หนองหาร โดยผันน้ำลงสู่ลำน้ำก่ำ สามารถลดปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่หนองหารได้ประมาณ 55 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และช่วยเหลือประชาชนเพื่อการอุปโภคบริโภคการเกษตร
