21 ม.ค. ม็อบบุกกรุง! เบรก "กฤษฎา-สนธิรัตน์" นำเข้ามะพร้าว
สุดทน! โวย 2 รัฐมนตรีเกียร์ว่าง "เกษตร-พาณิชย์" เพิกเฉยชาวสวนมะพร้าว ปล่อยติดดินเหลือลูกละ 5 บาท ผวาลักไก่นำเข้า 1.5 แสนตัน ชิงตัดหน้าบุกกรุง ยื่นหนังสือ 21 ม.ค. จ่อปักหลักยืดเยื้อ!!
นายพงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์ ประธานเครือข่ายผู้ปลูกมะพร้าวอินทรีย์และแกนนำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในวันที่ 21 ม.ค. นี้ ในช่วงเช้าจะเดินทางไปยื่นหนังสือทวงถาม นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และช่วงบ่ายจะไปยื่นหนังสือ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หลายครั้ง แต่ไม่ตอบกลับเลย ในขณะเดียวกัน ได้ข่าวว่าจะมีการนำเข้ามะพร้าวอีก 1.5 แสนตัน จากราคาปัจจุบันเหลือผลละ 5 บาท ชาวสวนอยู่กันไม่ได้แล้ว ดังนั้น จึงตัดสินใจที่จะไปทวงถามความชอบธรรมในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวสวนต่าง ๆ หากไม่ได้รับคำตอบที่พอใจ จะอยู่ปักหลัก!
"ไม่ว่าจะแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้ามะพร้าวมีผลงานชัดเจนหรือไม่ มีการควบคุมการขนย้ายมะพร้าวหรือไม่ ในทางวิชาการจะพิสูจน์ได้อย่างไร ว่า ผลิตที่ใช้ในระบบอุตสาหกรรมเป็นมะพร้าวไทย หรือ มะพร้าวนอก การกำหนดระเบียบการนำเข้ามีการแก้ไขหรือไม่ ที่สำคัญข้อมูลปริมาณผลผลิตภายในประเทศได้จัดทำถูกต้องตามข้อเท็จจริงหรือไม่ ถ้ายังไม่มีความชัดเจน รัฐบาลไม่ควรนำมะพร้าวนอกเข้ามาทำลายวงจรของมะพร้าวไทย ทำลายเกษตรกรไทย"
ด้าน นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า จากผลการประชุมที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช(วันที่ 24 ธ.ค.) ที่ประชุมให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการครบวงจรไปทบทวนใหม่ 2 เรื่องด้วยกัน ประกอบด้วย 1.การกำหนดสัดส่วนการซื้อมะพร้าว อัตราส่วน 1.5 และให้นำเข้ามา 1 ลูก ทางที่ประชุมขอให้คณะอนุกรรมการไปทบทวนใหม่ รอคณะกรรมการระดับจังหวัดส่งข้อมูลเข้ามาก่อน ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี จากนั้นให้นำข้อมูลกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งหนึ่งให้ละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งการกำหนดสัดส่วนนี้อาจจะน้อยเกินไป เนื่องจากไทยมีปริมาณมะพร้าว
2.เรื่องการเปลี่ยนช่วงเวลานำเข้าใหม่ โดยปกติไทยนำเข้า 2 ช่วง ตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึงเดือน พ.ค. และเดือน พ.ย. ถึงเดือน ธ.ค. จะเปลี่ยน ก็คือ เดือน ม.ค. ถึงเดือน มี.ค. และเดือน ต.ค. ถึงเดือน ธ.ค. ก็คือ นำเข้าไตรมาส 1 และนำเข้าไตรมาส 4 เพราะว่า ช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 เป็นช่วงที่มีปริมาณมะพร้าวในประเทศค่อนข้างมาก จึงไม่ให้นำเข้ามาในช่วงนั้น แต่ว่ายังไม่สรุป จะต้องรอในวันที่ 10 ม.ค. นี้ ที่จะได้รับข้อมูลจากระดับจังหวัดส่งมาให้ และเมื่อได้ข้อมูลเสร็จ คาดว่าจะประชุมคณะกรรมการพืชน้ำมันฯ ภายในเดือน ม.ค. นี้
ขณะที่ นายอำนาจ มณีแดง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช กล่าวว่า การกำหนดนำเข้ามะพร้าวนอกจากจะสำรวจมะพร้าวในประเทศแล้วควรควบคู่กับการพิจารณาราคามะพร้าวในประเทศด้วย ยกตัวอย่าง ราคามะพร้าวในประเทศเหลือลูกละ 5 บาท ราคา ณ วันที่ 8 ม.ค. 2562 ขาดแคลนหรือไม่ ควรจะนำเข้าหรือไม่ แต่ถ้าในประเทศลูกละ 18 บาท ยอมรับว่า ขาดแคลนจริง! ดังนั้น จึงอยากฝากการบ้านให้ข้าราชการได้ช่วยพิจารณาด้วย
นายพงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์ ประธานเครือข่ายผู้ปลูกมะพร้าวอินทรีย์และแกนนำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในวันที่ 21 ม.ค. นี้ ในช่วงเช้าจะเดินทางไปยื่นหนังสือทวงถาม นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และช่วงบ่ายจะไปยื่นหนังสือ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หลายครั้ง แต่ไม่ตอบกลับเลย ในขณะเดียวกัน ได้ข่าวว่าจะมีการนำเข้ามะพร้าวอีก 1.5 แสนตัน จากราคาปัจจุบันเหลือผลละ 5 บาท ชาวสวนอยู่กันไม่ได้แล้ว ดังนั้น จึงตัดสินใจที่จะไปทวงถามความชอบธรรมในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวสวนต่าง ๆ หากไม่ได้รับคำตอบที่พอใจ จะอยู่ปักหลัก!
"ไม่ว่าจะแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้ามะพร้าวมีผลงานชัดเจนหรือไม่ มีการควบคุมการขนย้ายมะพร้าวหรือไม่ ในทางวิชาการจะพิสูจน์ได้อย่างไร ว่า ผลิตที่ใช้ในระบบอุตสาหกรรมเป็นมะพร้าวไทย หรือ มะพร้าวนอก การกำหนดระเบียบการนำเข้ามีการแก้ไขหรือไม่ ที่สำคัญข้อมูลปริมาณผลผลิตภายในประเทศได้จัดทำถูกต้องตามข้อเท็จจริงหรือไม่ ถ้ายังไม่มีความชัดเจน รัฐบาลไม่ควรนำมะพร้าวนอกเข้ามาทำลายวงจรของมะพร้าวไทย ทำลายเกษตรกรไทย"
ด้าน นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า จากผลการประชุมที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช(วันที่ 24 ธ.ค.) ที่ประชุมให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการครบวงจรไปทบทวนใหม่ 2 เรื่องด้วยกัน ประกอบด้วย 1.การกำหนดสัดส่วนการซื้อมะพร้าว อัตราส่วน 1.5 และให้นำเข้ามา 1 ลูก ทางที่ประชุมขอให้คณะอนุกรรมการไปทบทวนใหม่ รอคณะกรรมการระดับจังหวัดส่งข้อมูลเข้ามาก่อน ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี จากนั้นให้นำข้อมูลกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งหนึ่งให้ละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งการกำหนดสัดส่วนนี้อาจจะน้อยเกินไป เนื่องจากไทยมีปริมาณมะพร้าว
2.เรื่องการเปลี่ยนช่วงเวลานำเข้าใหม่ โดยปกติไทยนำเข้า 2 ช่วง ตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึงเดือน พ.ค. และเดือน พ.ย. ถึงเดือน ธ.ค. จะเปลี่ยน ก็คือ เดือน ม.ค. ถึงเดือน มี.ค. และเดือน ต.ค. ถึงเดือน ธ.ค. ก็คือ นำเข้าไตรมาส 1 และนำเข้าไตรมาส 4 เพราะว่า ช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 เป็นช่วงที่มีปริมาณมะพร้าวในประเทศค่อนข้างมาก จึงไม่ให้นำเข้ามาในช่วงนั้น แต่ว่ายังไม่สรุป จะต้องรอในวันที่ 10 ม.ค. นี้ ที่จะได้รับข้อมูลจากระดับจังหวัดส่งมาให้ และเมื่อได้ข้อมูลเสร็จ คาดว่าจะประชุมคณะกรรมการพืชน้ำมันฯ ภายในเดือน ม.ค. นี้
ขณะที่ นายอำนาจ มณีแดง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช กล่าวว่า การกำหนดนำเข้ามะพร้าวนอกจากจะสำรวจมะพร้าวในประเทศแล้วควรควบคู่กับการพิจารณาราคามะพร้าวในประเทศด้วย ยกตัวอย่าง ราคามะพร้าวในประเทศเหลือลูกละ 5 บาท ราคา ณ วันที่ 8 ม.ค. 2562 ขาดแคลนหรือไม่ ควรจะนำเข้าหรือไม่ แต่ถ้าในประเทศลูกละ 18 บาท ยอมรับว่า ขาดแคลนจริง! ดังนั้น จึงอยากฝากการบ้านให้ข้าราชการได้ช่วยพิจารณาด้วย
