จับตา 5 เทรนด์ใหญ่! ใช้ประโยชน์จาก AI ในปี 62

04 ม.ค. 2562 | 04:37 น.
040162-1125

AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์
 จะเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กรธุรกิจของเราอย่างไรบ้าง เป็นเรื่องที่ผู้นำองค์กรทั้งหลายต้องการรู้เพื่อนำไปหามาตรการรับมือ แต่ถ้ามองข้ามไปอีกช็อตเป็นว่า ถ้าการเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้นแล้ว องค์กรจะทำอะไรได้บ้างเพื่อสร้าง "โอกาส" หรือ "ประโยชน์" จากสิ่งที่เกิดขึ้น ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดียิ่งขึ้นไปกว่าการรู้วิธีรับมือการเปลี่ยนแปลงแต่เพียงอย่างเดียว ต่อไปนี้เป็น 5 เทรนด์ควรจับตา ที่จะมากับเทคโนโลยี AI ในปี 2562 รู้ไว้เตรียมใช้ประโยชน์ได้เลย


11-3432-040162-1123

1.การเปลี่ยนแปลงในสายงาน
 AI ช่วยให้งานหลายอย่างง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดต้นทุน ดังนั้น แน่นอนว่าจะมีบางตำแหน่งงานที่ภาระหน้าที่น้อยลง เมื่อองค์กรนำ AI มาใช้ แทนที่จะปลดคนออก หลายองค์กรถือโอกาสนี้ฝึกอบรมและเพิ่มเติมทักษะใหม่ให้กับบุคลากร ผลวิจัยของสถาบัน McKinsey Global Institute ชี้ว่า ภายในปี 2573 AI จะทำให้ 375 ล้านตำแหน่งงานทั่วโลก มีการปรับเปลี่ยนลักษณะงานที่ทำ องค์กรที่เตรียมพร้อมจึงควรฝึกอบรมยกระดับความสามารถและเพิ่มทักษะให้บุคลากรอยู่เสมอ เพื่อพวกเขาจะได้สามารถทำงานที่ต้องใช้ทักษะความรู้มากขึ้นและมีความก้าวหน้า

2.เพิ่มประสิทธิภาพงานโลจิสติกส์ หุ่นยนต์ บล็อกเชน และ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานในคลังสินค้าและลดต้นทุนในห่วงโซ่การผลิตได้ดี 'อเมซอน' ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซของสหรัฐฯ นำหุ่นยนต์มาใช้ในคลังสินค้าอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2555 จนขณะนี้มีใช้ราว 80,000 ตัว ในศูนย์กระจายสินค้า 25 แห่ง ทำให้บริษัทสามารถประหยัดต้นทุนดำเนินการได้ราวปีละ 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 20%

 

[caption id="attachment_369665" align="aligncenter" width="503"] ©www.amazonrobotics.com ©www.amazonrobotics.com[/caption]

3.AI ในงานสื่อสารองค์กรและการติดต่อลูกค้า องค์กรที่ต้องพึ่งพาการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอยู่เสมอจะได้รับประโยชน์มหาศาลจากการนำ AI มาใช้ เช่น การนำ AI มาใช้ในการบันทึกการสนทนาระหว่างตัวแทนบริษัทกับลูกค้า และสามารถย้อนทวนเพื่อการวิเคราะห์และนำมาใช้อ้างอิงเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้นในอนาคต ยกตัวอย่าง แอพ Chorus.Ai สามารถบันทึกเสียงอัตโนมัติ ถอดบันทึกเป็นอักษร และวิเคราะห์ผลการทำงานของตัวแทนขาย เพื่อให้สามารถปรับปรุงเทคนิควิธีการพูดและนำเสนอสินค้าได้ดียิ่งขึ้น

4.ตลาดต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล (Data Scientists) "ข้อมูล" คือ พลังงานเชื้อเพลิงที่จะขับเคลื่อนทุก ๆ เทคโนโลยีใหม่ในอนาคต ดังนั้น องค์กรจึงต้องการบุคลากรผู้เชี่ยวชาญการบริหารจัดการข้อมูล หรือ Data Scientists มากขึ้นด้วย เมื่อมีการนำ AI มาใช้งาน รายงานเกี่ยวกับตลาดแรงงาน ปี 2561 จัดทำโดยเว็บไซต์ LinkedIn ชี้ว่า สหรัฐอเมริกายังขาดแคลนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลถึง 151,717 ตำแหน่ง ขณะที่ บริษัท IBM คาดการณ์ว่า ในปี 2020 งานด้านบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ จะขยายตัวเป็นประมาณ 2.7 ล้านตำแหน่ง นี่คือ หนึ่งในงานที่ตลาดต้องการมากที่สุด

 

[caption id="attachment_369668" align="aligncenter" width="503"] ©geralt ©geralt[/caption]

5.พัฒนาการล้ำหน้าในงานด้านการแพทย์ AI มีสมรรถนะในการประมวลและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ล้ำหน้าศักยภาพของมนุษย์ ดังนั้น นักวิจัยด้านการแพทย์จึงนำเทคโนโลยี AI มาใช้ช่วยงานวิจัยหลายเรื่องที่มนุษย์ไม่เคยคาดคิดว่าจะทำได้ เช่น การนำ AI มาประมวลวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์ เพื่อสกัดเอาข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาใช้ในการบำบัดรักษา หรือ เสริมภูมิคุ้มกันให้ผู้ป่วยเป็นราย ๆ ไป และนักวิจัยยังสามารถนำ AI มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำความเข้าใจระบบชีวภาพทั้งหมดของมนุษย์ เป็นการเปิดประตูสู่องค์ความรู้ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

แน่นอนว่า การเรียนรู้สิ่งใหม่ต้องใช้เวลา เราทุกคนเคยผ่านการเรียนรู้เกี่ยวกับ "อินเตอร์เน็ต" กันมาแล้วในยุคที่ผ่านมา ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ เช่นกัน ถึงตอนนี้เป็นยุคแห่งการเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จาก AI ทุกองค์กรควรเปิดใจให้กว้าง แล้วรับเอาเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ประโยชน์และสร้างโอกาสแห่งการเติบโตให้ได้มากที่สุด


……………….

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,432 วันที่ 3 - 5 ม.ค. 2562 หน้า 11

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
แบงก์รอฟันกำไรหลังโหมลงทุน IT ชี้ AI-Blockchain มาแรง
เปิดแผนเจ้าพ่อโปรเจก วู้ดดี้ฯ ผุดไอเดียรับปีใหม่ ลุยธุรกิจครบวงจร ONLINE,ONAIR, ONGROUND


เพิ่มเพื่อน
บาร์ไลน์ฐาน