รัฐบาลคิกออฟ "สร้างสุขทุกช่วงวัย" "บิ๊กตู่" ยัน! "ไม่ใช่สายเปย์"

19 ธ.ค. 2561 | 11:13 น.
รัฐบาลคิกออฟ! "สร้างสุขทุกช่วงวัย" ลุยทำระบบประเมินผลบัตรสวัสดิการฯ "บิ๊กตู่" ยัน! "ไม่ใช่สายเปย์" ทำทุกอย่างหวังทุกคนมีรายได้เพิ่ม

วันที่ 19 ธ.ค. 2561 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้จัดพิธีลงนามในบันทึกความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในการสนับสนุนการจัดทำข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อใช้กำหนดและติดตามประเมินผลการจัดสวัสดิการภาครัฐ และการนำระบบบริหารจัดการข้อมูลแบบชี้เป้า (TPMAP) มาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน ในงาน "สร้างสุขทุกช่วงวัย สวัสดิการแห่งรัฐ" โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ร่วมเป็นสักขีพยานภายในงาน และมี นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ ร่วมกับรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง และผู้บริหารส่วนราชการต่าง ๆ


IMG_20181219172333000000

ภายในงานได้มีการลงนามในบันทึกความร่วมมือด้านการบูรณาการข้อมูลภาครัฐระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นับเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งของรัฐบาลในการยกระดับการให้บริการสวัสดิการให้เข้าสู่ยุค 4.0 และจะเป็นอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของการปฏิรูประบบราชการไทย โดยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้บริหารจัดการฐานข้อมูลสวัสดิการแห่งรัฐอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้กำหนดและติดตามประเมินผลการจัดสวัสดิการภาครัฐ และนำระบบบริหารการจัดการข้อมูลแบบชี้เป้า (TPMAP) มาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อพัฒนาให้ภาครัฐสามารถศึกษา วิเคราะห์ และประเมินการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิตและการจัดสรรสวัสดิการของภาครัฐให้กับพี่น้องประชาชน นำไปสู่การกำหนดนโยบายที่มีประสิทธิภาพ พัฒนาการจัดสรรสวัสดิการของภาครัฐอย่างเหมาะสม ตรงกลุ่มเป้าหมาย แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม


IMG_20181219172413000000

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลต้องการสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับทุกคน วันนี้บ้านเรามีทั้งคนที่พัฒนาได้และพัฒนาได้ช้า เราจึงจำเป็นต้องมีสวัสดิการในขณะที่เรากำลังพัฒนาไปพราง ๆ ก่อน การทำงานด้านรัฐสวัสดิการมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องมีกลไกในการขับเคลื่อน ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่า มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ตราบใดที่ยังมีผู้มีรายได้น้อย เราคงไปไม่พ้นกับดักประเทศผู้มีรายได้น้อยต่อไป


IMG_20181219172336000000

"การที่รัฐบาลมีโครงการต่าง ๆ ในเรื่องของรัฐสวัสดิการมาช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ไม่ใช่เป็นเรื่องของการสร้างบุญคุณ เป็นการให้ของขวัญ หรือ เปย์ แต่เป็นหน้าที่ของทุก ๆ รัฐบาล อะไรทำได้ก็ต้องทำ แต่รัฐบาลก็ต้องมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายงบประมาณ ขอร้องว่า อย่าให้ใครมาบิดเบือน รัฐบาลไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากการช่วยเหลือประชาชนทุกระดับ" นายกฯ กล่าว


IMG_20181219172353000000

นายกฯ กล่าวว่า การพัฒนาที่ประเทศยังมีปัญหาขณะนี้ คือ ไม่มีความต่อเนื่อง มีการกระจุกตัว และเติบโตในบางพื้นที่ อีกทั้งสถานการณ์โลกก็เปลี่ยนแปลงไปมาก ความขัดแย้ง สงครามการค้า การขึ้นดอกเบี้ย ทุกอย่างมีผลกระทบทั้งหมด สิ่งเหล่านี้แม้จะแก้กันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งหมดต้องทำต่อไปตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทที่เขียนไว้ ปัจจุบัน โครงการสวัสดิการแห่งรัฐมีมากกว่า 40 โครงการ ช่วยเหลือประชาชนอย่างครอบคลุม ซึ่งต้องดูถึงรายได้และงบประมาณ ว่า เรามีมากแค่ไหน หากใครจะทำมากกว่านี้ก็ต้องไปดูว่าจะเอารายได้มาจากไหน การที่รัฐบาลลงทุนในโครงการต่าง ๆ ก็เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และเอาเงินไปดูแลข้างล่างให้มากขึ้น เพราะถือว่าทุกคน คือ คนไทย เราจะสร้างความขัดแย้งบาดหมางกันอีกไม่ได้ เพราะเป็นห่วงโซ่ร่วมกัน เราต้องทำทุกอย่างให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ผลีผลามดี ไม่ใช่ดีแล้วซ้ายก็วูบไป งบประมาณภาครัฐเสียหาย ระบบการเงินการคลังล้มเหลว เราจะปล่อยอย่างนี้ไม่ได้ ต้องมีการถ่วงดุล ประชาชนเองก็ต้องเข้าใจนโยบายของรัฐบาล และรัฐบาลเองก็ต้องมีวิธีการอันเหมาะสมในการดูแลประชาชน เพื่อที่ทั้ง 2 ฝ่าย จะได้ไม่เกิดความขัดแย้งหรือปล่อยให้ใครเอามาใช้ประโยชน์ สวัสดิการแห่งรัฐจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อสามารถกระจายได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง


IMG_20181219172415000000

"การสร้างสุขทุกช่วงวัยต้องทำตั้งแต่วันนี้ ถือเป็นก้าวแรกของรัฐบาลที่มีการชี้เป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมา ไม่มีใครกล้าทำ แต่รัฐบาลนี้ไม่ได้มุ่งหวังให้ใครพอใจหรือไม่พอใจ ไม่ต้องการอะไรเลย แต่มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำแบบนี้ในการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งจะเห็นว่า ทุกคนเริ่มมีความสุขมากขึ้น แต่ความต้องการก็มีมากขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมดา จะไปโกรธเคืองไม่ได้ เพราะเขาขาดมานาน ซึ่งถ้าเราทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะขยายการดูแลรัฐสวัสดิการให้เพิ่มขึ้นต่อไป และอยากไปตั้งเป้าว่า เราจะแก้ไขปัญหาความยากจนได้ภายในปีนี้หรือปีหน้า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผนและขั้นตอนไม่เช่นนั้นก็คงจบ โดยคำสั่งไม่กี่คำสั่ง หลายคนบอกให้แก้ปัญหาด้วยมาตรา 44 ยืนยันว่า ทำไม่ได้ การทำโครงการบัตรสวัสดิการไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่คิดเป็นคนเก่ง คนใช้ก็ต้องคิดให้ทันว่าจะใช้อย่างไร ขอให้ใช้ให้เป็นให้เกิดประโยชน์ แต่ถ้าได้บัตรสวัสดิการไปแล้วยังใช้ไม่เป็น แล้วต้องไปจ้างคนมากด หักค่าหัวคิว 50 บาท 100 บาท บางทีก็เชิดเงินไปเลยอย่างนี้ถือว่าอันตรายที่สุด ขอร้องว่า อย่าไปสอนคนแบบนั้น และขอร้องอย่าเอาเรื่องแบบนี้มาบิดเบือน ว่า จะต้องเสียอย่างนั้นอย่างนี้ มีคนมามุงหน้าตู้เอทีเอ็ม แสดงว่า มันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันไม่ใช่ เราต้องสร้างการรับรู้ให้ทุกคน คนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ช่วยหาคนมากดเงินให้คนเหล่านี้ได้หรือไม่ เดี๋ยวก็เป็นเอง คนเราใช้เงินเป็น ใช้เก่งอยู่แล้ว การที่รัฐให้เงินไปก็เพื่อให้ไปซื้อของที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ไปซื้อถั่วแระถั่วเน่า ของแบบนั้นซื้อร้านค้าปีกก็ได้" นายกฯ กล่าว


IMG_20181219172418000000

นายกฯ กล่าวว่า ตนอยากให้ทุกคนเข้าใจ แม้บางอย่างจะไม่ได้ถูกขับเคลื่อน ซึ่งคนที่จะดำเนินการส่วนที่ดีที่สุด คือ รัฐบาลต้องขับเคลื่อนงานในทุกมติให้ได้โดยเร็ว วันนี้ปัญหาเรามีหลายอย่าง แต่อย่าให้ทุกอย่างมาเป็นปัญหาความขัดแย้งจนทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง เราจะทำอย่างไรที่จะปรับความคิดที่แตกต่างให้ตรงกับมาตรฐานได้ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสร้างความเข้าใจกับประชาชนในระดับล่าง รวมถึงการเป็นประชาธิปไตยที่มาจากรัฐธรรมนูญ กฎหมายและประชาชนมีหลักคิดที่ถูกต้อง เพื่อให้ประชาธิปไตยมีธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง ขอให้ทุกคนเดินหน้าไปด้วยกันตามยุทธศาสตร์ชาติ ตามแผนแม่บทที่เราวางไว้ อย่าให้ใครที่กล่าวอ้างว่าจะทำอย่างนี้ทำอย่างนู้น ให้เรียนตรงนี้ตรงนั้น ตนถามว่า เอาเงินมาจากไหน พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ว่าอย่างไร ทำอย่างนั้นก็ผิดหมด เพราะฉะนั้น รัฐบาลนี้มุ่งหวังไม่ให้มีความผิดเช่นนี้เกิดขึ้นมาอีก รัฐบาลนี้เองก็ต้องระวัง ซึ่งเป็นเรื่องของการตรวจสอบ รัฐบาลนี้ก็ถูกตรวจสอบมาโดยตลอด อย่าหาว่าไม่ถูกตรวจสอบ ซึ่งแล้วความรู้สึกจะคิด ตนไม่แก้ตัว ใครทำความผิดก็ต้องถูกลงโทษ ทั้งนี้ ตนขอให้ทุกคนมั่นใจในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจน


090861-1927-9-335x503-335x503-2-335x503 595959859-6-503x60