บริษัทอสังหาฯหน้าใหม่คึก สบช่องดันยอดขายช่วงรายใหญ่เร่งระบายสต๊อก
ตลาดอสังหาฯขลัง ผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก หน้าใหม่/เก่าโดดลุยเพียบ อาศัยจังหวะรายใหญ่เร่งระบายสต๊อก ตัดหน้าเปิดโครงการใหม่ดูดกำลังซื้อต้นปี คอลลิเออร์ส เผยตัวเลขโครงการใหม่ 2 เดือนแรกปี’59 กว่า 10 โครงการ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 34% นายกสมาคมอาคารชุดแจ้ง 4 เดือนแรกปีนี้ภารกิจหลักรายใหญ่คือเร่งระบายสต๊อกกว่า 8 หมื่นล้าน น้องใหม่ณวรางค์เปิด ณ วรา เรสซิเดนซ์ มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ด้านบิวเดอสมาร์ทแตกไลน์ธุรกิจอสังหาฯ
[caption id="attachment_37031" align="aligncenter" width="700"]
โครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ โดยผู้ประกอบการรายกลาง รายเล็ก และใหม่ช่วงสองเดือนแรก 2559[/caption]
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ช่วง 2 เดือนแรกของปี 2559 มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลาง-เล็ก รวมทั้งหน้าใหม่เปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร จำนวน 10 โครงการ รวมแล้วประมาณ 2,248 หน่วย (ไม่รวมโครงการที่อยู่ในปริมณฑล) ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. และโครงการที่เปิดขายใหม่ของบริษัทเหล่านี้มีสัดส่วนประมาณ 34% ของจำนวนคอนโดมิเนียมที่คาดว่าจะเปิดขายในไตรมาส 1 ปี 2559 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 7 พันหน่วย
ในขณะที่ปี 2558 ตลอดทั้งปีมีโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทระดับนี้เปิดขาย 25 โครงการรวมแล้วประมาณ 7,665 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 22% ชี้ให้เห็นว่าในปี 2559 มีบริษัทระดับนี้เปิดขายโครงการมากขึ้น ในช่วงที่บริษัทใหญ่ชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ เป็นจังหวะดีที่ผู้ประกอบการรายกลางลงไปหรือว่าหน้าใหม่เข้าสู่ตลาด โดยโครงการส่วนใหญ่ของผู้ประกอบการในกลุ่มนี้เป็นโครงการขนาดเล็กเฉลี่ยต่อโครงการมีหน่วยขายประมาณ 224 หน่วยเท่านั้น และบางโครงการมีไม่ถึง 100 หน่วย
"ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ไม่ได้มีเงินทุนหรืองบประมาณในการประชาสัมพันธ์มากนัก การเลือกเปิดโครงการช่วงต้นปีที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังมีโครงการเปิดขายไม่มากนักถือว่าเป็นการเลี่ยงการแข่งขันโดยตรง และหลายรายเพิ่งเปิดขายโครงการเป็นครั้งแรก แม้ว่าจะประสบความสำเร็จจากธุรกิจอื่นมาก่อนหน้านี้ แต่เพิ่มการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการหารายได้ให้มากขึ้น"
สอดคล้องกับ นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย ที่กล่าวว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2559 จะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการรายใหญ่เร่งระบายสต๊อกที่มีอยู่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท มากกว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อให้ทันกับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐที่จะสิ้นสุดในวันที่ 28 เมษายน 2559 ดังนั้นโครงการใหม่ที่เปิดตัวในช่วงนี้จะเป็นโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก เป็นส่วนใหญ่
ด้าน นายอภิภู พรหมโยธี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด กล่าวว่า บริษัทถือเป็นบริษัทน้องใหม่ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาทที่เข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อ "ณ วรา เรสซิเดนซ์" โดยการนำที่ดินของตระกูลขนาด 1 ไร่ 7 ตารางวา บนถนนหลังสวน ใกล้สถานีชิดลมมาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมหรูโลว์ไรส์สูง 8 ชั้น พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 38 ตร.ม.ขนาด 1 ห้องนอนไปจนถึง 102 ตร.ม.ขนาดดูเพล็กซ์ 2 ห้องนอน รวมจำนวนทั้งหมด 97 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 1.2 พันล้านบาท โดยมีมูลค่าการลงทุน 800 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยที่ประมาณ 2.3 แสนบาทต่อตร.ม. พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ตอบสนองกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ จะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2559 และคาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 2/2561 พร้อมกันนี้บริษัทมองหาที่ดินบนทำเลสุขุมวิท
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ในกรุงเทพฯ ซึ่งระดับราคาขายมากกว่า 2 แสนบาทต่อ ตร.ม. ปัจจุบันบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 20% จากจำนวนหน่วยที่เปิดขาย ณ ขณะนี้ 7 พันหน่วย
ขณะที่ นายสุเรซ ซูบรามาเนียม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เปิดเผยว่า บริษัทได้บุกเบิกตลาดใหม่ที่มีการเติบโตสูง ด้วยการเปิดตัวโครงการ ‘SANSARA’ (แซน-สรา) โครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกที่พัฒนาด้วยบริษัทเอง ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท ตั้งอยู่กลางสนามกอล์ฟ Black Mountain หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เป็นโครงการสำหรับคนวัยเกษียณ ประกอบไปด้วยที่พักอาศัยแบบวิลล่า และคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ต ที่มีการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับคนวัยเกษียณโดยเฉพาะ โดยบริษัทมีพาร์ทเนอร์หลัก 3 ราย ได้แก่ แบล็คเมาเทนท์ เดอะโบว์มอนท์พาร์ทเนอร์ชิป และ IMG ซึ่งพร้อมที่เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมกันพัฒนาโครงการ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,138 วันที่ 10 - 12 มีนาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_37031" align="aligncenter" width="700"]
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ช่วง 2 เดือนแรกของปี 2559 มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลาง-เล็ก รวมทั้งหน้าใหม่เปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร จำนวน 10 โครงการ รวมแล้วประมาณ 2,248 หน่วย (ไม่รวมโครงการที่อยู่ในปริมณฑล) ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. และโครงการที่เปิดขายใหม่ของบริษัทเหล่านี้มีสัดส่วนประมาณ 34% ของจำนวนคอนโดมิเนียมที่คาดว่าจะเปิดขายในไตรมาส 1 ปี 2559 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 7 พันหน่วย
ในขณะที่ปี 2558 ตลอดทั้งปีมีโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทระดับนี้เปิดขาย 25 โครงการรวมแล้วประมาณ 7,665 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 22% ชี้ให้เห็นว่าในปี 2559 มีบริษัทระดับนี้เปิดขายโครงการมากขึ้น ในช่วงที่บริษัทใหญ่ชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ เป็นจังหวะดีที่ผู้ประกอบการรายกลางลงไปหรือว่าหน้าใหม่เข้าสู่ตลาด โดยโครงการส่วนใหญ่ของผู้ประกอบการในกลุ่มนี้เป็นโครงการขนาดเล็กเฉลี่ยต่อโครงการมีหน่วยขายประมาณ 224 หน่วยเท่านั้น และบางโครงการมีไม่ถึง 100 หน่วย
"ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ไม่ได้มีเงินทุนหรืองบประมาณในการประชาสัมพันธ์มากนัก การเลือกเปิดโครงการช่วงต้นปีที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังมีโครงการเปิดขายไม่มากนักถือว่าเป็นการเลี่ยงการแข่งขันโดยตรง และหลายรายเพิ่งเปิดขายโครงการเป็นครั้งแรก แม้ว่าจะประสบความสำเร็จจากธุรกิจอื่นมาก่อนหน้านี้ แต่เพิ่มการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการหารายได้ให้มากขึ้น"
สอดคล้องกับ นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย ที่กล่าวว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2559 จะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการรายใหญ่เร่งระบายสต๊อกที่มีอยู่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท มากกว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อให้ทันกับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐที่จะสิ้นสุดในวันที่ 28 เมษายน 2559 ดังนั้นโครงการใหม่ที่เปิดตัวในช่วงนี้จะเป็นโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก เป็นส่วนใหญ่
ด้าน นายอภิภู พรหมโยธี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด กล่าวว่า บริษัทถือเป็นบริษัทน้องใหม่ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาทที่เข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อ "ณ วรา เรสซิเดนซ์" โดยการนำที่ดินของตระกูลขนาด 1 ไร่ 7 ตารางวา บนถนนหลังสวน ใกล้สถานีชิดลมมาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมหรูโลว์ไรส์สูง 8 ชั้น พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 38 ตร.ม.ขนาด 1 ห้องนอนไปจนถึง 102 ตร.ม.ขนาดดูเพล็กซ์ 2 ห้องนอน รวมจำนวนทั้งหมด 97 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 1.2 พันล้านบาท โดยมีมูลค่าการลงทุน 800 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยที่ประมาณ 2.3 แสนบาทต่อตร.ม. พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ตอบสนองกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ จะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2559 และคาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 2/2561 พร้อมกันนี้บริษัทมองหาที่ดินบนทำเลสุขุมวิท
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ในกรุงเทพฯ ซึ่งระดับราคาขายมากกว่า 2 แสนบาทต่อ ตร.ม. ปัจจุบันบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 20% จากจำนวนหน่วยที่เปิดขาย ณ ขณะนี้ 7 พันหน่วย
ขณะที่ นายสุเรซ ซูบรามาเนียม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เปิดเผยว่า บริษัทได้บุกเบิกตลาดใหม่ที่มีการเติบโตสูง ด้วยการเปิดตัวโครงการ ‘SANSARA’ (แซน-สรา) โครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกที่พัฒนาด้วยบริษัทเอง ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท ตั้งอยู่กลางสนามกอล์ฟ Black Mountain หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เป็นโครงการสำหรับคนวัยเกษียณ ประกอบไปด้วยที่พักอาศัยแบบวิลล่า และคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ต ที่มีการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับคนวัยเกษียณโดยเฉพาะ โดยบริษัทมีพาร์ทเนอร์หลัก 3 ราย ได้แก่ แบล็คเมาเทนท์ เดอะโบว์มอนท์พาร์ทเนอร์ชิป และ IMG ซึ่งพร้อมที่เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมกันพัฒนาโครงการ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,138 วันที่ 10 - 12 มีนาคม พ.ศ. 2559