ท่าเตียน ใครจะรู้ว่าประวัติศาสตร์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร? บางตำนานเล่าขานว่าเป็นที่ที่ ยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดอรุณฯมารบกัน บางตำนานว่า เดิมชื่อ “ฮาเตียน” ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม และช่วงต้นของกรุงรัตนโกสินทร์บริเวณนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวญวน ที่อพยพหนีสงครามจากเว้ จึงเรียกชื่อถิ่นนี้ว่า ฮาเตียน และสุดท้ายเพี้ยนมาเป็นท่าเตียน หรืออีกตำนานที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องที่จริงคือเป็นวังเก่าและเกิดไฟไหม้จนราบเรียบจึงกลายเป็นท่าเตียน จึงถือว่าย่านนี้เป็นชุมชนเก่าแก่ของเกาะรัตนโกสินทร์
เกริ่นมาซะมากเพราะทุกวันนี้ เกาะรัตนโกสินทร์นี้ ทั้งคนไทย นักท่องเที่ยวนิยมมาเยือนมาไหว้พระ เมื่อเดินกันจนเหนื่อย พักหน่อยละกัน เลยอยากจะแนะนำให้ลองไปชิม ชิล แช๊ะที่ร้าน “HATIEN CAFE'” หรือ “ฮาเตียน คาเฟ่'” ร้านนี้อยู่ในซอยประตูนกยูง ที่อยู่ตรงข้ามวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ เข้ามานิดเดียวอยู่ทางขวามือ “คุณเบิร์ด-เอกภพ โกมลชาติ” เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่าตนเองเป็นคนที่ชื่นชอบและสะสมของโบราณอยู่แล้ว เมื่อมีเวลาว่างก็จะชอบเดินเล่นอยู่ย่านท่าเตียน เลยมาพบร้านนี้เข้า จึงปิ๊งไอเดียในการตกแต่งร้านให้เป็นสไตล์ชิโนโปรตุกีส โอเรียนทอลหน่อยๆ
การตกแต่งเลยออกมาตามที่ตั้งใจคือ ชั้น 1 เหมือนร้านขายยาจีนโบราณ ก็ได้ไปเจอตู้ยาจีนแบบโบราณ นำมาเป็นเคาน์เตอร์ไปในตัว ชั้น 2 อยากให้เหมือนบ้านสไตล์ฝรั่ง ไทย ผสมจีน แต่งแต้มด้วยเก้าอี้แอนทีค เก้าอี้เชคโก ยุคปี 1900 งานดีไซน์สไตล์ฝรั่งบ้างก็ใช้ แชนเดอเลียร์ฝรั่งมาแขวนเป็นโคมระย้า มีมุมให้เซลฟี่หรือถ่ายภาพได้หลายมุม คุณเบิร์ดบอกว่าเคยมีลูกค้าถามว่านำของเก่าแท้ๆ มาให้ลูกค้านั่งไม่เสียดายหรือ? ที่ผ่านมาด้วยความที่เป็นคนเล่นของเก่าเห็นอะไร ชอบก็ซื้อมาสะสม ทุกวันนี้ซื้อเก็บไว้มาก เลยนำมาให้ลูกค้าใช้ ต้องการให้ใช้ของจริง มันจะได้บรรยากาศที่แท้จริง เข้าใจว่าบางคนอาจเสียดาย แต่เราต้องการให้ใช้ เสียก็ซ่อม ที่ผ่านมาเก็บดูคนเดียวมาเป็น
10 ปี เฟอร์นิเจอร์โบราณก็หมุนเวียนเอามาใช้เหมือนกัน ยกเว้นของบางอย่างที่หายากก็เก็บกลับไปบ้าง
แต่ที่เด่นๆ ของชั้นนี้จะเต็มได้ด้วย “นก” ทั้งนกยูงขาวสะพรั่งเคียงข้างบันไดวน ตู้โบราณ หรืออีกฟากฝั่งจะเป็นนกยูงไทยหรือนกยูงสีเขียวประดับข้างหน้าต่าง ฝูงนกต่างๆ เรียงรายเกาะอยู่บนคาคบรอผู้คนมาถ่ายรูปด้วย ชั้นนี้จะมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งแล้วแต่จะเลือกว่าอยากนั่งมุมไหน ...เลือกไม่ถูกเพราะสวยทุกมุม..
คนที่ชอบอากาศโล่งๆ ไม่ชอบนั่งห้องแอร์ คุณเบิร์ดแนะนำขึ้นบันไดวนไปสู่ชั้น 3 ก็มีโต๊ะให้นั่งในห้องแอร์ หรือจะออกไปสู่โซนต้นไม้ ด้วยความที่เป็นคนชอบต้นไม้จริง จึงต้องหาไม้จริงมาตกแต่งทั้งหมด สำหรับอาหารและ
เครื่องดื่มที่ร้านนี้คัดสรรเมล็ดกาแฟมาจากประเทศลาว รสชาติจะออกแนวเปรี้ยวนิดๆ พอกลืนลงคอก็จะชุ่มคอหน่อยๆ เข้ากับธีมของร้านที่ต้องการใช้ผลไม้มาผสมผสานให้รสชาติลงตัว อย่างที่จะแนะนำ ลาเต้ร้อน กาแฟมะตูม อัญชันมะนาว ส่วนขนมเค้กฝีมือเชฟโรงแรมจะเน้นเป็นเค้กผลไม้ เช่นเค้กแมคาเดเมีย เลม่อนเค้ก บลูเบอร์รี่ชีสพาย รสชาติอร่อยเต็มคำ ด้วยความใส่ใจและมีศิลปะอยู่ในใจกาแฟ ขนม จึงเสิร์ฟมาบนจานและแก้วที่สวยงาม ไม่ทันได้ลิ้มชิมรส สายตาปะทะภาชนะก็รู้สึกอิ่มใจแล้ว
ทุกวันนี้คุณเบิร์ดบอกว่าแม้ร้านจะเปิดได้ไม่นานแต่ด้วยกระแสโซเชียล ลูกค้าก็ตามมาทดลอง ทุกวันนี้
เลยกลายเป็นลูกค้าคนไทยมากกว่า 80% ทั้งที่ยังไม่ได้ทำตลาดท่องเที่ยวกับชาวต่างชาติ แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยว
walk in เข้ามาบ้าง ทั้งเกาหลี จีน ฝรั่ง ..
ใครที่ชอบงานศิลป์ ชอบของโบราณอยากแนะนำให้ลองไปชม ชิม ชิลและไม่พลาดงานแช๊ะ
ต้องมาไปไม่ถูกโทรเลยที่ 081-302 0651 หรือhttps://www.facebook.com/hatiencafebkk/
หน้า 28 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38 | ฉบับ 3,427 ระหว่างวันที่ 16-19 ธันวาคม 2561