สะพัด! รัฐบาลฝรั่งเศสยอมถอยแผนขึ้นภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ในที่สุดรัฐบาลฝรั่งเศสก็พร้อมที่จะระงับแผนขึ้นภาษีเชื้อเพลิงเป็นการชั่วคราวหลังเกิดการชุมนุมหลายระลอกในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาและขยายวงกลายเป็นความรุนแรงที่มีทั้งคนเจ็บ ผู้เสียชีวิต และความเสียหายทางทรัพย์สินทั้งในกรุงปารีส เมืองหลวง และเมืองอื่นๆทั่วประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลต้องนัดหารือกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแกนนำกลุ่ม “คนเสื้อกั๊กเหลือง” ซึ่งเป็นชื่อเรียกขานผู้ชุมนุมการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงในครั้งนี้

ข่าวระบุว่าเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.นายเอดัวร์ ฟีลิป นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส พร้อมจะประกาศระงับการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงเอาไว้ก่อนแต่ไม่ได้ระบุว่าจะประกาศเมื่อไหร่ ทั้งนี้สื่อท้องถิ่นของฝรั่งเศส รวมถึงสำนักข่าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้รายงานข่าวดังกล่าว แต่ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรีและทำเนียบประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ไม่มีผู้ออกมายืนยัน และปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่านี้

รายงานข่าวยังระบุว่า ผู้นำกลุ่มแนวร่วมเสื้อกั๊กเหลือง หรือ Yellow Vest Movement ซึ่งเรียกตามสีเสื้อที่ผู้ชุมนุมสวมใส่ ปฏิเสธที่จะเข้าพบนายฟีลิปในวันอังคารเพื่อร่วมหารือว่าทำอย่างไรจึงจะสลายกระแสการคัดค้านแผนการขึ้นภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงของรัฐบาล ทั้งนี้ การชุมนุมประท้วงคัดค้านการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงได้ลุกลามและขยายขอบเขตกลายเป็นการประท้วงแสดงความไม่พอใจต่อนโยบายของรัฐบาลที่ทำให้มาตรฐานการครองชีพต่ำลง ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น สินค้าราคาแพงขึ้น และทำให้ความคับข้องใจของประชาชนปะทุกลายเป็นความโกรธแค้นขุ่นเคือง และยังลามกลายเป็นความไม่พอใจในตัวผู้นำคือนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มชนชั้นสูงและคนร่ำรวย การชุมนุมประท้วงในกรุงปารีสเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นการจลาจลที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในรอบทศวรรษ โดยร้านค้าหลายแห่งถูกทุบทำลายและปล้นสะดม รถยนต์หลายคนถูกเผาและสถานที่สำคัญหลายแห่งถูกทุบ ขีดเขียนหรือทำลาย มีรายงานผู้เสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บหลายร้อยคน

[caption id="attachment_357071" align="aligncenter" width="503"]

เอ็มมานูเอล มาครง[/caption]

นักวิเคราะห์กล่าวว่าประธานาธิบดีมาครงกำลังอยู่ในจุดที่ยากต่อการตัดสินใจ ว่าจะยอมถอยในเรื่องการขึ้นภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง หรือจะยืนกรานแต่ถูกคัดค้านมากขึ้น รัฐบาลเองก็ไร้ความสามารถในการที่จะปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองรวมตัวกันด้วยการนัดหมายชุมนุมผ่านทางอินเทอร์เน็ตและไม่มีผู้นำการชุมนุมอย่างเป็นทางการ ทำให้เป็นเรื่องยากที่รัฐบาลจะนัดหารือหรือทำความตกลงใดๆกับกลุ่มผู้ชุมนุม

ในขณะเดียวกัน การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพบว่า คะแนนความนิยมในตัวประธานาธิบดีมาครงกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีฟีลิปที่มาจากคนละพรรค ซึ่งก็ดิ่งลงเช่นกัน โดยคะแนนความนิยมในตัวนายมาครงลดลงมาอยู่ที่ระดับ 23% ซึ่งเป็นการลดลงถึง 6% จากระดับของเดือนพ.ย. ทั้งนี้ ประชาชนส่วนหนึ่งมองว่านโยบายของเขาเอื้อประโยชน์ให้กับคนร่ำรวย ขณะที่ประชาชนทั่วไปมีกำลังซื้อลดลง