“อภิสิทธิ์”ปฎิเสธข่าวจับมือ “พปชร.”แลกกระทรวงเกรดเอ

04 ธ.ค. 2561 | 08:03 น.
 

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฎิเสธข่าวจับมือ “พปชร.”เพื่อแลกกระทรวงเกรดเอ  ย้ำการเมืองมี 3 ขั้วคือพลังประชารัฐ- ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย  คาดได้ผู้สมัคร ส.ส.ครบทุกเขตภายในเดือนนี้

อภิสิทธิื 4-12-61 B

4 ธ.ค. 61  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ประกาศว่า พรรคพลังประชารัฐจะสามารถได้เก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.ทั้ง 350 เขต ว่า ตนเห็นว่าหากพรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส. 350 เขต ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องพูดคุยกัน ซึ่งก็เห็นว่าได้กระทำการในทุกอย่าง แต่ข่าวที่ออกมาก็ไม่สามารถตอบได้ว่า มีอะไรแอบแฝงหรือไม่ ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะถือว่า เป็นรายงานข่าว ทั้งนี้ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ และไม่เคยมีการส่งสัญญาณใดๆ ตามที่มีการระบุว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พูดคุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ขอให้นายเฉลิมชัย พูดคุยกับตน เพื่อขอให้พรรคหันมาสนับสนุน คสช. เพื่อแลกกับตำแหน่งในกระทรวงเกรดเอ

“การที่ผมได้มาเป็นหัวหน้าพรรคครั้งนี้ ก็ต้องไปพบกับสมาชิกพรรค โดยในช่วงการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งตนเองก็พูดชัดเจนว่าอย่ามาพูดกันเรื่องตำแหน่ง นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่จุดประสงค์ของพรรคประชาธิปัตย์คือ การนำพาประเทศไปในทิศทางที่ถูกต้องหากเป็นไปตามรายงานข่าวว่า จะมีการนำเสนอกระทรวงใดก็ไม่ใช่ประเด็นและไม่ใช่เวลา เพราะต้องผ่านกระบวนการการเลือกตั้งประชาชนต้องให้คำตอบว่า สนับสนุนแนวทางของพรรคใด และต้องดูว่า พรรคพลังประชารัฐยังยืนยันแนวทางการทำงานที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ แต่มองว่า หากยังบริหารเศรษฐกิจอย่างที่เป็นอยู่ก็คงยากที่จะทำงานร่วมกัน เพราะประชาชนเดือดร้อน ผมยังคงยืนยันแนวทาง 3 ขั้วทางการเมือง  คือพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย เพราะแนวทางการทำงานของทั้ง 3 พรรคนี้แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งต้องให้ประชาชนพิจารณา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับยุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้บริบทการเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปนั้น มองว่าทุกพรรคต้องมีการปรับเปลี่ยน แนวทางการรณรงค์และการสื่อสาร  เพราะปัจจุบันการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชนเปลี่ยนไป แต่ยังมีปัจจัยที่สำคัญคือ ระเบียบที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. จะกำหนดมาใช้กับการเลือกตั้งครั้งนี้เพราะหลายเรื่องยังไม่ได้ข้อยุติและยังไม่มีความชัดเจนเช่น ค่าใช้จ่าย ป้ายหาเสียง และการใช้สื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ที่มีการใช้บัตรใบเดียวเลือกทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.เขตและเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ตนมองว่าผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งต้องชั่งใจ  ทั้งเรื่องทิศทางของประเทศ นโยบายของพรรค และความชอบในตัวบุคคล

“ประชาชนจะมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะได้ประโยชน์จากวิธีการคิดแบบใดมากกว่ากัน  แต่สิ่งที่พรรคต้องดำเนินการคือ สรรหาบุคคลที่มีคุณภาพลงสมัครรับเลือกตั้ง และเป็นผู้ที่สามารถเป็นตัวแทนของประชาชนในสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งต้องไม่ขัดแย้งกับทิศทางและนโยบายของพรรคเพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยคาดว่า กระบวนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคจะแล้วเสร็จในกลางเดือนธันวาคมนี้” หัวหน้าพรรคปชป. กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ในการเลือกตัวแทนจังหวัด จะให้แล้วเสร็จภายใน 3-4 วันที่จะถึงนี้ เพื่อมาทำหน้าที่รับฟังความคิดเห็นในการสรรหาผู้สมัคร โดยขณะนี้ได้ทำการเลือกตัวแทนจังหวัดไปได้แล้วเกินกึ่งหนึ่ง เมื่อได้ตัวแทนจังหวัดแล้ว คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครก็จะให้มีการยื่นใบสมัครลงรับเลือกตั้ง จากนั้นจะให้ตัวแทนจังหวัดนำรายชื่อผู้สมัครไปรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนโดยกำหนดกรอบเวลาชัดเจน ซึ่งคาดว่า จะได้ผู้สมัครครบทุกเขตภายในปลายเดือนธันวาคม นี้

[caption id="attachment_356550" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]