Gen X ยอมรับศักยภาพผู้สูงวัย แนะสื่อนำเสนอภาพลักษณ์เชิงบวก

23 พ.ย. 2561 | 07:08 น.
TDRI กระตุกต่อมคิดคน GEN X เปิดเวที Redesigning Thailand #5 ตั้งโจทย์ท้าทาย "จับความกระปรี้กระเปร่า มาเขย่าสังคมสูงวัย" ชวนคนรุ่นใหม่งัดไอเดีย สร้างพลังสดใหม่รับสังคมสูงวัย เผยไอเดีย Gen X : AGING WITH VITALITY ของนิสิตจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ คว้ารางวัลชนะเลิศ ด้วยมุมคิดที่แตกต่าง เสนอวิธีต้องสร้างทัศนคติคน Gen X ในวันนี้ที่จะกลายเป็นผู้สูงอายุในวันหน้า ให้เป็นผู้สูงอายุที่มีพลังในตนเอง พร้อมมีความสามารถ มีความกระตือรือร้นที่จะทำสิ่งต่าง ๆ กระตุ้นสื่อและรัฐต้องสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของผู้สูงอายุในรูปแบบที่ชาว Gen X สนใจให้มากขึ้น

DSC00406

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI จัดกิจกรรม Redesigning Thailand เวทีเปิดกว้างประลองความคิดด้านนโยบายสาธารณะสำหรับนักศึกษาทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อจุดประกายไอเดียให้กับนักศึกษาที่ต้องการออกแบบนโยบายเพื่อการพัฒนาประเทศ โดยกิจกรรมมุ่งสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักศึกษากับนักวิจัย TDRI เพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ก้าวสู่เส้นทางนักวิจัยเชิงนโยบายต่อไปในอนาคต


DSC00585

ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานชิย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า กิจกรรม Redesigning Thailand เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการส่งเสริมให้นักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบาย ... เพื่อพัฒนาประเทศให้เดินต่อไปข้างหน้าได้ด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ การกำหนดหัวข้อ "จับความกระปรี้กระเปร่ามาเขย่าสังคมสูงวัย" เพราะเรื่องสังคมสูงวัยไม่ใช่เรื่องของผู้สูงอายุอย่างเดียว นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มีความแนวคิดก้าวไกลมากกับการรับมือสังคมสูงอายุ มีการนำเสนอวิธีการรับมือด้วยการปรับทัศนคติคนไทยผ่านสื่อ ว่า ผู้สูงอายุยังมีพลังยังทำงานได้

บางทีมเสนอรับมือด้วยมาตรการการออมในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการตั้งกองทุนให้สมทบเข้ามา เพื่อสุดท้ายผู้สูงอายุจะได้มีเงินใช้กันในวัยเกษียณ บางกลุ่มเสนอเรื่องการฝึกทักษะให้ผู้สูงอายุยังทำงานต่อไปได้ ถ้ายังอยากทำงานอยู่ ทำให้ผู้สูงอายุมีความหมายในสังคม และที่สำคัญ หลายทีมเสนอใช้กลยุทธ์โดยเอาชุมชนมาช่วยกันทำให้ผู้สูงอายุมีชีวิตชีวากระปรี้กระเปร่าขึ้น เพราะปัญหาใด ๆ ที่ยังมากและซับซ้อน ไม่สามารถแก้ได้จากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ต้องอาศัยหลายฝ่ายช่วยกัน ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า น้อง ๆ ตีโจทย์ได้ถูกต้อง

ทุกทีมได้เรียนรู้ว่า การทำวิจัยเชิงนโยบายไม่เหมือนวิจัยทางวิชาการที่เรียนในมหาวิทยาลัย ที่เรียนวิชาการ แต่ไม่ได้เอาวิชาการไปแก้โจทย์จริงในโลกจริง แต่วิจัยเชิงนโยบายจะต้องใช้โจทย์จริงในโลกจริง ใช้ข้อมูลจริงมาแก้ปัญหาจริง เพื่อให้เกิดการปฎิบัติจริงได้ จึงต้องมีวิธีคิดตั้งต้นที่ถูกก่อน จากนั้นจึงต้องมีการเก็บข้อมูล นำข้อมูลมาวิเคราะห์ จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายที่ทำได้จริง และสุดท้ายต้องสื่อสารกับสังคมและผู้กำหนดนโยบายได้ดีด้วย


DSC00579

สำหรับผลการตัดสิน ทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศ "จับความกระปรี้กระเปร่ามาเขย่าสังคมไทย" มาจากแนวคิด Gen X : AGING WITH VITALITY ของทีมนิสิตจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือ นางสาวธมกร จันทร์สว่าง, นางสาวนิธินันท์ แจงวาณิชย์ และนางสาวสริตา พิทักษ์ธีระธรรม โดยตีความคำว่า "พลังสดใหม่" ต้องเป็นพลังที่ต้องมาจากภายในตัวผู้สูงอายุที่รู้สึกกระปรี้กระเปร่า อยากออกไปทำกิจกรรม หรือ เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จึงออกแบบนโยบายโดยมุ่งเป้าหมายไปที่คนการเตรียมความพร้อมคน Gen X ซึ่งจะกลายเป็นผู้สูงวัยในอีก 15 ปีข้างหน้า ให้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยมีพลังจากภายในตนเอง จึงต้องปรับทัศนคติสำคัญ 3 อย่าง คือ ความหมายของคำว่า "ชราภาพ" ว่า เป็นไม้ใกล้ฝั่งนั้นไม่เสมอไป มุมมองต่อโลกปัจจุบันคนสูงวัย ก็สามารถเรียนรู้โลกปัจจุบันได้ไม่ต่างจากคนวัยอื่น และมุมมองต่อค่านิยมที่คาดหวังให้ลูกหลานมาดูแลเมื่อมีอายุมากขึ้น อยากให้ผู้สูงวัยมองว่า แม้จะอายุมากขึ้น แต่ก็ยังสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้


DSC00595

สื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับเปลี่ยนทัศนคติ จึงทำสำรวจความคิดเห็นของคน Gen X เกี่ยวกับภาพลักษณ์ของผู้สูงอายุในสื่อ พบว่า ชาว Gen X จำนวนหนึ่งมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อกลุ่มผู้สูงอายุที่ปรากฎในสื่อ ว่า มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัย ออกไปเที่ยว ไปพบปะสังคม เป็นคนร่าเริง อัธยาศัยดี แต่ยังมีชาว Gen X จำนวนไม่น้อย ที่มีภาพลักษณ์ที่ลบต่อกลุ่มผู้สูงอายุที่ปรากฎในสื่อ เช่น ไม่ทันสังคม เป็นผู้ป่วยติดเตียง ฯลฯ จึงอยากสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่เป็นบวกและแตกต่างจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยสร้างเนื้อหาและนำเสนอผ่านรูปแบบรายการที่ชาว Gen X สนใจ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ได้แก่ รายการเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ รายการท่องเที่ยว รายการข่าวสาร และรายการบันเทิง อาทิ การให้ผู้สูงอายุ หรือ ผู้มีอิทธิพลต่อชาว Gen X เป็นผู้ดำเนินรายการในรายการไลฟ์สไตล์ หรือ การท่องเที่ยว เพิ่มทัศนคติว่า ความชราไม่จำเป็นต้องอยู่ที่บ้าน

ส่วนสื่อบันเทิงและสื่อโฆษณา อยากเห็นการถ่ายทอดภาพลักษณ์ในเชิงบวกมากขึ้น เช่นเดียวกับในด้านข่าวสาร อยากเห็นการนำเสนอข่าวสารที่ผู้สูงอายุมีการเตรียมพร้อมเข้าสู่วัยชรามากขึ้น ส่วนสำคัญที่จะทำให้แนวคิดนี้เกิดขึ้นได้ ต้องผนวกทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน โดยประชาชน คือ เป้าหมายที่เราจะต้องไปเปลี่ยนทัศนคติ ส่วนภาคเอกชน คือ ผู้ผลิตสื่อ ต้องจะทำเนื้อหาที่สามารถปรับทัศนคติได้ โดยภาครัฐควรมีนโยบายที่จะช่วยสนับสนุนให้ภาคเอกชนผู้ผลิตสื่อในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อจูงใจ ถ้านโยบายนี้ถูกปรับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ น่าจะได้ผลตอบรับที่ดีเพราะได้เข้าไปปรับถึงฐานความคิดทัศนคติของคน


DSC00592

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากแนวคิด กองทุนพัฒนาวัฏจักรชีวิตผู้สูงอายุใหม่ เพื่อประเทศไทยยั่งยืน ของกลุ่มเพื่อนต่างคณะจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือ นายทัชภูมิ ทุมสวัสดิ์ จากคณะศิลปศาสตร์, นายรัฐพงศ์ หมะอุ จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายกรวิชญ์ อินทวงษ์ จากคณะเศรษฐศาสตร์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 แนวคิด Elderly Community Policy ของทีมนักศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือ นางสาวจุฬาภัค คำบุศย์, นายเจตวัฒน์ ภัทรรังรอง และนางสาวณัฐมล อินทะเขื่อน นอกจากนี้ ยังมีรางวัลชมเชยอีก 3 ทีม ได้แก่ ทีมนักศึกษาคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากแนวคิด "Smart Age Model" นโยบายสูงวัยไปด้วยกัน และอีก 2 ทีม จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากแนวคิด "เกษียณอย่างมั่นใจขับเคลื่อนแรงงานสูงวัยอย่างยั่งยืน" และ "เศรษฐกิจดี ต้องมีแรงงาน"

ทีมชนะเลิศ รับเงินรางวัล 30,000 บาท รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง 20,000 บาท รองชนะเลิศอันดับสอง 12,000 บาท ประกาศนียบัตร TDRI Junior Policy Researcher สิทธิฝึกงานกับทีดีอาร์ไอ และได้รับพิจารณาเข้าทำงานระบบ Fast Track ที่ทีดีอาร์ไอหลังสำเร็จการศึกษา

595959859