ธุรกิจโฆษณาแห่ใช้ AI จุดขายแม่นยำ เชื่อมโยง "วัน สต็อป เซอร์วิส"

12 พ.ย. 2561 | 10:40 น.
บิ๊กโฆษณาเดินหน้านำ "AI" เครื่องมือเสริมบริการสร้างจุดแข็ง One Stop Service ชี้! ลดขั้นตอนซับซ้อน เชื่อมโยงข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าได้ทั่วโลก วิเคราะห์ข้อมูล วางแผนได้แม่นยำ

นายโคสุเกะ โซโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท AnyMind Group ผู้ให้บริการโซลูชัน AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ในอุตสาหกรรมโฆษณา การตลาด และทรัพยากรบุคคล เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่อยู่กับโซเชียลมีเดียมากขึ้น รวมถึงการได้รับสนับสนุนจากภาครัฐในเรื่องของไทยแลนด์ 4.0 ส่งผลให้ประเทศไทยที่ผ่านมามีการกระตุ้นเรื่องของเศรษฐกิจดิจิตอลมากขึ้น รวมถึงการที่ประเทศไทยเป็น Hub City ที่มีนักลงทุนจากทั่วโลกให้ความสนใจ แต่ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังขาดเรื่องของการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในองค์กรด้านต่าง ๆ ซึ่งบริษัทมีจุดแข็งด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จึงมองว่า นี่คือ โอกาสและมีเป้าหมายบริษัทเป็นผู้ให้บริการ ONE STOP SOLUTION ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

บริษัทมองว่า การนำโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผ่านแพลตฟอร์มแบบครบวงจรจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับมืออาชีพ ธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม พร้อมทั้งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้แม่นยำ เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทมีสาขาทั้งหมดจำนวน 12 แห่ง ใน 11 ประเทศ ที่เก็บข้อมูล BIG DATA จำนวนมาก รวมถึงสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ ระหว่างประเทศด้วยกันได้อย่างละเอียด อาทิ วัฒนธรรม เศรษฐกิจ พฤติกรรมลูกค้า อื่น ๆ ดังนั้น การแสดงผลโฆษณาแต่ละครั้ง หรือ การแก้ไขปัญหาองค์กรต่าง ๆ จึงสามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ

 

[caption id="attachment_346341" align="aligncenter" width="438"] โคสุเกะ โซโก โคสุเกะ โซโก[/caption]

ขณะเดียวกัน บริษัทมุ่งแก้ไขปัญหาและดำเนินด้านการโฆษณาและการตลาดดิจิตอลที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นในเอเชีย โดยใช้ประโยชน์แพลตฟอร์ม AI เข้าไปช่วยแก้ปัญหา โดยมี AdAsia Digital Platform for Publishers ซึ่งเป็นโซลูชันที่จะเข้าช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงโฆษณากับเจ้าของสื่อออนไลน์ หรือ การกำหนดราคาขั้นตํ่าแบบไดนามิก (สามารถปรับเปลี่ยนอัตโนมัติตามความเหมาะสม) สำหรับพื้นที่โฆษณา

อีกทั้งในปัจจุบัน AdAsia Holdings ยังมีการแสดงผลโฆษณาดิจิตอลมากกว่า 12 พันล้านครั้งต่อเดือน ผ่านผู้เผยแพร่โฆษณากว่า 800 รายในเอเชีย โดยมีรูปแบบต่าง ๆ อาทิ โฆษณาแบบดิสเพลย์ แบบเนทีฟ และวิดีโอโฆษณา

"บริษัทมีประสบการณ์การเติบโตที่ดีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และกำลังมุ่งมั่นก้าวหน้าต่อไป อีกทั้งยังมีเป้าหมายขยายส่วนแบ่งการตลาดในภูมิภาคต่าง ๆ รวมถึงอุตสาหกรรมการโฆษณา การตลาด และทรัพยากรบุคคล อีกทั้งที่ผ่านมาจากการเปิด AnyMind Group บริษัทมีรายได้รวมทั้งกรุ๊ปต่อไตรมาสเติบโตกว่า 30% (ทุก 3 เดือน) และเชื่อว่ายังสามารถเติบโตได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการด้าน ONE STOP SOLUTION แก่ลูกค้าองค์กรต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ได้แก่ ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ เกมออน ไลน์ สายการบิน ท่องเที่ยว อื่น ๆ"

ปัจจุบัน บริษัท AnyMind Group เป็นบริษัทแม่ของ AdAsia Holdings, TalentMind และ CastingAsia ให้บริการนวัตกรรม AI และโซลูชัน Software as a Service (SaaS) แบบครบวงจร ขณะเดียวกัน มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ และมีสาขาทั้งหมดจำนวน 12 แห่ง ใน 11 ประเทศ พร้อมพนักงานกว่า 330 คน โดยในปี 2559 AnyMind Group มีรายได้รวมกว่า 12.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 8 เดือนแรกของการดำเนินงาน และ 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2560


MP36-3417-A

ด้าน นางวรรณี รัตนพล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทยฯ กล่าวว่า ภาพรวมบริษัทที่ผ่านมายังคงเติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก ซึ่งสาเหตุการเติบโตสำคัญมาจากการขยายธุรกิจ อาทิ บริษัท รีไพร์ส ประเทศไทยฯ เปิดตัวแผนก Data and Analytics ครีเอทีฟ หรือ โปรแกรมเมติก เป็นต้น ซึ่งจากการขยายธุรกิจในด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทได้ตรงความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายมีลักษณะนิสัยแตกต่างกัน ดังนั้น จึงต้องวางแผนชิ้นงานแต่ละรูปแบบให้แม่นยำ พร้อมต้องใช้สื่อออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กัน

"ปัจจุบันกำลังเข้าสู่ยุคของข้อมูลอย่างเต็มตัว โดยเฉพาะกับการทำ "ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง" นั้น ข้อมูลถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก จึงได้เปิดตัวแผนก Data and Analytics พร้อมกับการเกิดขึ้นของบริษัท รีไพรส์ฯ"

 

[caption id="attachment_346340" align="aligncenter" width="377"] wannee วรรณี รัตนพล[/caption]

สำหรับการทำงานของรีไพรส์ มีจุดเด่น 2 ด้าน คือ 1.เครื่องมือและการเก็บข้อมูลต่าง ๆ 2.รูปแบบการทำงานในด้านของเครื่องมือและการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ไอพีจีได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 72,000 ล้านบาท ในการควบรวมกิจการของ บริษัท Acxiom ที่เป็นผู้ให้ข้อมูลทางการตลาดอันดับต้น ๆ ของโลก รวมไปถึงเครื่องมือต่าง ๆ อีกทั้งการสร้างดิจิตอลแคมเปญขึ้นมาชิ้นหนึ่งนั้น บริษัทจะสามารถวางแผนจากข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยเลือก Social Influencer (อิทธิพลทางสังคม) ให้เหมาะกับแคมเปญนั้น ไปจนถึงการวัดผล Transaction (การติดต่อ, การซื้อขาย) เพื่อที่จะแนะนำให้กับลูกค้าว่า สิ่งไหนที่ลูกค้าทำแล้วจะเกิดผลที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นอีกด้าน คือ เรื่องของรูปแบบการทำงาน บริษัทจะเน้นการทำงานของรูปแบบการให้คำปรึกษา เนื่องจากบริษัทเชื่อว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างทุกพันธมิตรเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากไอพีจีเป็นบริษัท One Stop Service อีกทั้งการทำ Digital Production บริษัทจะเน้นไปที่ Best Online Experience ในการสร้างแคมเปญที่เข้าใจการทำงานของแต่ละรูปแบบได้เป็นอย่างดี ซึ่งรวมไปถึงการออกแบบเว็บไซต์, อี-รีเทล และ แอพพลิเคชัน

ปัจจุบัน รีไพรส์เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย จำกัด และเป็นส่วนหนึ่งในเครือของอินเตอร์พลับบลิค กรุ๊ป หนึ่งในกลุ่มบริษัทด้านการสื่อสารการตลาดชั้นนำของโลก ที่มีออฟฟิศอยู่ในทวีปเอเชีย 13 แห่ง และทั่วโลก 71 แห่ง


หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,417 ระหว่างวันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว