ถอดรหัสห้องเรียนที่ดี ในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก
ความท้าทายของการศึกษาในยุคที่โลกต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเติบโตแบบก้าวกระโดดของเครื่องจักรอัตโนมัติ หรือเทคโนโลยีที่ต่อยอดมาจาก AI (Artificial Intelligence) ทำให้เกิดบรรยากาศของการคาดการณ์ในมุมมองต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะความกังวลในเรื่องของการแทนที่แรงงานคนด้วยหุ่นยนต์
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ถูกท้าทายไปในทุกแวดวงธุรกิจไม่พ้นแม้แต่แวดวงการศึกษา รูปแบบการศึกษาทั่วโลกในยุคดิจิตอลนี้ต่างก้าวพ้นรูปแบบการเรียนการสอนที่ยึดเอาครูเป็นจุดศูนย์กลางมาเป็นรูปแบบของการเรียนการสอนแบบใหม่ โดยการให้ครูทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันระหว่างนักเรียน ประกอบกับพลังของเนื้อหาและสื่อการเรียนการสอนที่ดี เสริมให้ผู้เรียนมีความพร้อมสำหรับโลกในยุคใหม่และรักที่จะใฝ่หาความรู้ตลอดชีวิต
แน่นอนว่าการศึกษาคือรากฐานทางความคิดที่เราต้องเตรียมไว้ให้กับเด็กๆ โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกแบบนี้เด็กๆ ของเราจำเป็นที่จะต้องมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และใช้วิจารณญาณได้เมื่อเกิดปัญหา มีทักษะในเรื่องของการสื่อสารให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น มีความคิดสร้างสรรค์ที่จะนำไปสู่การเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ
อีกทั้งจะต้องมีทักษะทางด้านไอที ซึ่งไอทีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการใช้คอมพิวเตอร์เป็น แต่หมายถึงการรู้แหล่งและวิธีในการค้นคว้าหาข้อมูล แล้วเมื่อได้ข้อมูลมาก็ต้องสามารถวิเคราะห์ได้ว่าข้อมูลเหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือเพียงใด และสามารถแปลงข้อมูลเป็นความรู้ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากการฝึกฝน โดยครูจะต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองเรียนรู้ด้วยตนเอง
หลายคนอาจนึกภาพไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกปัจจุบันว่า ห้องเรียนที่ดีที่จะสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ดีกับผู้เรียนได้น่าจะต้องเสริมด้วยปัจจัยด้านเทคโนโลยี เช่น การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต หรือ ICT การมีสื่อการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วย แต่ในความเป็นจริงแล้วปัจจัยเหล่านี้อาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมด
หากดูจากกราฟของประเทศที่ติดอันดับคุณภาพการศึกษาในระดับโลกนั้น ตัวเลขการเข้าถึงเทคโนโลยีไม่ได้ถือเป็นปัจจัยสำคัญเลย แท้จริงแล้วส่วนสำคัญคือเรื่องของการออกแบบกระบวนการเรียนการสอนในห้องเรียนมากกว่า
ห้องเรียนแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริงทั่วประเทศแม้ในโรงเรียนที่ขาดแคลนเรื่องของทรัพยากร โดยเชื่อว่าคุณภาพของผู้เรียนเกิดขึ้นจากกระบวนการเรียนการสอนที่ดี ที่มุ่งสร้างปฏิสัมพันธ์กันในห้องเรียนระหว่างครูผู้สอนและนักเรียน มีครูเป็นผู้กระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียนด้วยคำถามที่จุดประกายให้เด็กค้นคว้าหาคำตอบ ให้ นักเรียนได้ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์และสามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้
อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ การลงทุนในเรื่องการศึกษาอย่างเพียงพอ ประเทศที่มีการลงทุนในเรื่องการศึกษาอย่างเพียงพอส่งผลลัพธ์ในเชิงบวกกับคุณภาพของผู้เรียนโดยตรง นอกจากนั้น ยังต้องกระจายเม็ดเงินลงไปสู่ห้องเรียนทุกห้องอย่างทั่วถึงอีกด้วย
ทั้งนี้เพื่อให้ “ครู” ผู้มีบทบาทสำคัญในการออกแบบกระบวนการเรียนการสอน สามารถทำให้ห้องเรียนที่ดีเกิดขึ้นได้จริงในโรงเรียนของตน บริษัทอักษรฯ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐจึงได้จัดโครง การสัมมนาวิชาการเชิงปฏิบัติการใน ชื่อ “Aksorn Teaching Forum 2018” ซึ่งปีนี้มาภายใต้แนวคิดอนาคตเด็กไทยสร้างได้ ด้วยผู้บริหารและครูมืออาชีพ อันประกอบไปด้วย 6 โครงการสัมมนาวิชาการ ได้แก่
•โครงการสัมมนาผู้นำทางการศึกษาแห่งประเทศไทย 2561 (Thailand’s Education Leader Symposium หรือ TELS 2018) ครั้งสำคัญที่ผู้บริหารสถานศึกษาจะได้พบกับนักคิดทางการศึกษาระดับโลก ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ณ อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี
•งานภาษาไทย ภาษาชาติ เทคโนโลยีกับครูภาษาไทย การปรับตัวให้ทันยุคการศึกษาประเทศไทย 4.0
•งานวิทยาศาสตร์ เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์แห่งโลกอนาคตสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ
•งานสังคมศึกษา สร้างเสริมการเรียนรู้สังคมเชิงรุกแห่งศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นพลเมืองดีของสังคมโลก
•งานปฐมวัย แนวทางการบูรณาการองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาเด็กอย่างเต็มศักยภาพ และ
• งาน Mathematics ทักษะสร้างอัจฉริยะโลกกับแนวทางการสอนคณิตศาสตร์สิงคโปร์ (Singapore Maths) งานจะจัดขึ้นในวันที่ 14-16 พฤศจิกายน และ 19-20 ธันวาคม 2561 ตามลำดับ ณ โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น
สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาและคุณครูที่สนใจ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโอกาสครั้งสำคัญนี้ สามารถลงทะเบียนฟรีได้แล้ว ผ่านทางเว็บไซต์ของ บริษัท อักษรฯ ที่ www.aksorn.com/teachingforum2018 และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2622-2999 ติดต่อแผนกอบรมสัมมนา
บทความ โดย ตะวัน เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (มหาชน)
หน้า 7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3417 ระหว่างวันที่ 11 - 14 พฤศจิกายน 2561
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ถูกท้าทายไปในทุกแวดวงธุรกิจไม่พ้นแม้แต่แวดวงการศึกษา รูปแบบการศึกษาทั่วโลกในยุคดิจิตอลนี้ต่างก้าวพ้นรูปแบบการเรียนการสอนที่ยึดเอาครูเป็นจุดศูนย์กลางมาเป็นรูปแบบของการเรียนการสอนแบบใหม่ โดยการให้ครูทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันระหว่างนักเรียน ประกอบกับพลังของเนื้อหาและสื่อการเรียนการสอนที่ดี เสริมให้ผู้เรียนมีความพร้อมสำหรับโลกในยุคใหม่และรักที่จะใฝ่หาความรู้ตลอดชีวิต
แน่นอนว่าการศึกษาคือรากฐานทางความคิดที่เราต้องเตรียมไว้ให้กับเด็กๆ โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกแบบนี้เด็กๆ ของเราจำเป็นที่จะต้องมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และใช้วิจารณญาณได้เมื่อเกิดปัญหา มีทักษะในเรื่องของการสื่อสารให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น มีความคิดสร้างสรรค์ที่จะนำไปสู่การเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ
อีกทั้งจะต้องมีทักษะทางด้านไอที ซึ่งไอทีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการใช้คอมพิวเตอร์เป็น แต่หมายถึงการรู้แหล่งและวิธีในการค้นคว้าหาข้อมูล แล้วเมื่อได้ข้อมูลมาก็ต้องสามารถวิเคราะห์ได้ว่าข้อมูลเหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือเพียงใด และสามารถแปลงข้อมูลเป็นความรู้ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากการฝึกฝน โดยครูจะต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองเรียนรู้ด้วยตนเอง
หลายคนอาจนึกภาพไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกปัจจุบันว่า ห้องเรียนที่ดีที่จะสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ดีกับผู้เรียนได้น่าจะต้องเสริมด้วยปัจจัยด้านเทคโนโลยี เช่น การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต หรือ ICT การมีสื่อการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วย แต่ในความเป็นจริงแล้วปัจจัยเหล่านี้อาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมด
หากดูจากกราฟของประเทศที่ติดอันดับคุณภาพการศึกษาในระดับโลกนั้น ตัวเลขการเข้าถึงเทคโนโลยีไม่ได้ถือเป็นปัจจัยสำคัญเลย แท้จริงแล้วส่วนสำคัญคือเรื่องของการออกแบบกระบวนการเรียนการสอนในห้องเรียนมากกว่า
ห้องเรียนแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริงทั่วประเทศแม้ในโรงเรียนที่ขาดแคลนเรื่องของทรัพยากร โดยเชื่อว่าคุณภาพของผู้เรียนเกิดขึ้นจากกระบวนการเรียนการสอนที่ดี ที่มุ่งสร้างปฏิสัมพันธ์กันในห้องเรียนระหว่างครูผู้สอนและนักเรียน มีครูเป็นผู้กระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียนด้วยคำถามที่จุดประกายให้เด็กค้นคว้าหาคำตอบ ให้ นักเรียนได้ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์และสามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้
อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ การลงทุนในเรื่องการศึกษาอย่างเพียงพอ ประเทศที่มีการลงทุนในเรื่องการศึกษาอย่างเพียงพอส่งผลลัพธ์ในเชิงบวกกับคุณภาพของผู้เรียนโดยตรง นอกจากนั้น ยังต้องกระจายเม็ดเงินลงไปสู่ห้องเรียนทุกห้องอย่างทั่วถึงอีกด้วย
ทั้งนี้เพื่อให้ “ครู” ผู้มีบทบาทสำคัญในการออกแบบกระบวนการเรียนการสอน สามารถทำให้ห้องเรียนที่ดีเกิดขึ้นได้จริงในโรงเรียนของตน บริษัทอักษรฯ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐจึงได้จัดโครง การสัมมนาวิชาการเชิงปฏิบัติการใน ชื่อ “Aksorn Teaching Forum 2018” ซึ่งปีนี้มาภายใต้แนวคิดอนาคตเด็กไทยสร้างได้ ด้วยผู้บริหารและครูมืออาชีพ อันประกอบไปด้วย 6 โครงการสัมมนาวิชาการ ได้แก่
•โครงการสัมมนาผู้นำทางการศึกษาแห่งประเทศไทย 2561 (Thailand’s Education Leader Symposium หรือ TELS 2018) ครั้งสำคัญที่ผู้บริหารสถานศึกษาจะได้พบกับนักคิดทางการศึกษาระดับโลก ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ณ อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี
•งานภาษาไทย ภาษาชาติ เทคโนโลยีกับครูภาษาไทย การปรับตัวให้ทันยุคการศึกษาประเทศไทย 4.0
•งานวิทยาศาสตร์ เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์แห่งโลกอนาคตสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ
•งานสังคมศึกษา สร้างเสริมการเรียนรู้สังคมเชิงรุกแห่งศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นพลเมืองดีของสังคมโลก
•งานปฐมวัย แนวทางการบูรณาการองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาเด็กอย่างเต็มศักยภาพ และ
• งาน Mathematics ทักษะสร้างอัจฉริยะโลกกับแนวทางการสอนคณิตศาสตร์สิงคโปร์ (Singapore Maths) งานจะจัดขึ้นในวันที่ 14-16 พฤศจิกายน และ 19-20 ธันวาคม 2561 ตามลำดับ ณ โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น
สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาและคุณครูที่สนใจ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโอกาสครั้งสำคัญนี้ สามารถลงทะเบียนฟรีได้แล้ว ผ่านทางเว็บไซต์ของ บริษัท อักษรฯ ที่ www.aksorn.com/teachingforum2018 และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2622-2999 ติดต่อแผนกอบรมสัมมนา
บทความ โดย ตะวัน เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (มหาชน)
หน้า 7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3417 ระหว่างวันที่ 11 - 14 พฤศจิกายน 2561
