สศก. ฟันธง! ปีทอง 'ทุเรียน' แห่ปลูกเพิ่มขึ้น

04 พ.ย. 2561 | 06:16 น.
สศก. จัดทำบิ๊กดาต้าพืชตะวันออก เผย "ข้าว-มันสำปะหลัง" พื้นที่ลดลง จากนโยบายรัฐ-ราคาไม่จูงใจ เกษตรกรเปลี่ยนไปปลูกอย่างอื่นแทน ส่วนผลไม้ส่อวิกฤติลดทุกตัว ทั้งปริมาณและผลผลิต ยกเว้น 'ทุเรียน' ราคาดี ชาวสวนแห่ปลูก รับดีมานด์ทะลัก



durian-fruit-2720386_1920

จากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญในการจัดทำข้อมูลการเกษตรอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายด้านการเกษตรของประเทศ โดยได้บูรณาการการทำงานร่วมกันในรูปคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตร  มีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเป็นกรรมการและเลขานุการ พร้อมทั้งได้มีคณะอนุกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตรแต่ละด้าน ทั้งพืช ปศุสัตว์ ประมง และคณะทำงานในระดับภูมิภาคเพิ่มเติม เพื่อการจัดทำข้อมูลที่เป็นเอกภาพ ถูกต้อง และแม่นยำ

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร รองเลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ผลจากการประชุมคณะทำงานพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านพืชภาคตะวันออก ครั้งที่ 2/2561  ซึ่งมีผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 เป็นประธาน และคณะทำงานจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว กรมชลประทาน กรมวิชาการเกษตร สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้รับรองข้อมูล ได้แก่ ข้าวนาปรัง มันสำปะหลังโรงงาน เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง ลำไย และลิ้นจี่ ปี 2561 ใน 9 จังหวัดภาคตะวันออก (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ) ซึ่งเพาะปลูกสินค้าแต่ละชนิด (ข้อมูล ณ 18 ต.ค. 2561) ดังนี้


countryside-2326787_1920

ข้าวนาปรัง ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่เพาะปลูก 777,735 ไร่ เนื้อที่เก็บเกี่ยว 773,926 ไร่ ผลผลิตรวม 532,177 ตัน ผลผลิตเฉลี่ยต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 688 กิโลกรัม/ไร่ (ณ ความชื้น 15%) เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่เพาะปลูกลดลงเล็กน้อย ร้อยละ 0.40 เนื้อที่เพาะปลูก เนื้อที่เก็บเกี่ยวลดลง จากสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ไม่จูงใจ และมาตรการปรับลดพื้นที่ของรัฐบาล แต่ผลผลิตรวมเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.36 จากผลผลิตต่อไร่ที่เฉลี่ยสูงขึ้นมา เนื่องจากมีน้ำเพียงพอ ไม่กระทบภัยธรรมชาติ และโรคแมลง

มันสำปะหลังโรงงาน ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่เพาะปลูก 921,057 ไร่ เนื้อที่เก็บเกี่ยว 895,191 ไร่ ผลผลิตรวม 3,214,462 ตัน ผลผลิตเฉลี่ยต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 3,591 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่เพาะปลูก เนื้อที่เก็บเกี่ยว ลดลงร้อยละ 15.75 และ 15.99 ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 0.14 ส่งผลให้ผลผลิตรวมลดลงร้อยละ 15.89 เนื่องจากราคาไม่จูงใจ จึงปรับเปลี่ยนปลูกพืชอื่นแทน เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยูคาลิปตัส กล้วยไข่ มะม่วงแก้ว ขมิ้น ลำไย รวมทั้งพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังในร่องสวนยางพาราและลำไย ซึ่งไม่สามารถปลูกมันสำปะหลังได้อีก เพราะต้นไม้โตคลุมพื้นที่ อีกทั้งมีการขยายพื้นที่โรงงานและที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออก จึงทำให้เนื้อที่ปลูกลดลง


fruit-291610_1920

เงาะ ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น 115,975 ไร่ เนื้อที่ให้ผล 112,441 ไร่ ผลผลิตรวม 173,623 ตัน ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 1,544 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่ยืนต้น เนื้อที่ให้ผลผลิตต่อไร่ และผลผลิตรวมลดลงทั้งหมด ลดลงร้อยละ 1.62, 0.90, 9.02 และ 9.81 (ตามลำดับ) สาเหตุจากราคาเงาะไม่จูงใจให้ขยายพื้นที่ เกษตรกรตัดโค่นเพื่อปลูกทุเรียนทดแทน อีกทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวน ช่วงเงาะออกดอกมีฝนตกชะดอก ทำให้ดอกเงาะร่วง

ทุเรียน ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น 323,205 ไร่ เนื้อที่ให้ผล 268,867 ไร่ ผลผลิตรวม 405,414 ตัน ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 1,508 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่ยืนต้นและเนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.69 และ 4.33 เนื่องจากราคาทุเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีติดต่อกันมานานหลายปี และทุเรียนที่ปลูกในปี 2556 เริ่มให้ผลได้เป็นปีแรกเพิ่มขึ้น ผลผลิตต่อไร่และผลผลิตรวมลดลงร้อยละ 8.38 และ 4.40 เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในปีนี้ แต่ละวันมีทั้งอากาศร้อน ฝนตก และหนาวเย็น ต้นทุเรียนปรับสภาพต้นไม่ทัน ทุเรียนออกใบอ่อนแทนการออกดอก และรุ่นที่ออกดอกได้ประสบพายุ ลมฝน ดอกร่วง และสภาพผลทุเรียนไม่สวย ได้น้ำหนักเฉลี่ยต่อลูกลดลง ทำให้ผลผลิตรวมลดลง


mangosteen-811154_1920

มังคุด ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น 202,203 ไร่ เนื้อที่ให้ผล 196,146 ไร่ ผลผลิตรวม 54,476 ตัน ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 278 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่ยืนต้นลดลงร้อยละ 0.28 เนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.49 ส่วนผลผลิตต่อไร่และผลผลิตรวมลดลงร้อยละ 65.34 และ 64.84 เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนตลอด มีฝนตกชุก มังคุดออกใบอ่อนแทนการออกดอก ส่วนที่ออกดอกออกประปรายไม่เต็มต้น ทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลงมาก ส่งผลให้ผลผลิตรวมลดลงตาม

ลองกอง ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น 44,302 ไร่ เนื้อที่ให้ผล 42,938 ไร่ ผลผลิตรวม 16,501 ตัน ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 384 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่ยืนต้น เนื้อที่ให้ผล ผลผลิตต่อไร่ และผลผลิตรวมลดลงทั้งหมด ร้อยละ 8.89, 6.80, 27.00 และ 31.94 (ตามลำดับ) เนื่องจากราคาลองกองตกต่ำมาหลายปี เกษตรกรทยอยโค่นต้นทิ้ง ปรับปลูกทุเรียนทดแทน อีกทั้งลองกองจะออกดอกได้ ต้นลองกองจะต้องขาดน้ำ ใบสลดเหลือง ซึ่งสภาพอากาศที่แปรปรวน มีฝนชุก ทำให้ลองกองไม่ขาดน้ำ จึงออกดอกได้น้อย ส่งผลให้ผลผลิตลดลง


market-1270281_1920

ลำไย ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น 274,735 ไร่ เนื้อที่ให้ผล 256,900 ไร่ ผลผลิตรวม 348,417 ตัน ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 1,356 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่ยืนต้น เนื้อที่ให้ผล เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.77 และ 16.60 (ตามลำดับ) ส่วนผลผลิตต่อไร่และผลผลิตรวมลดลงร้อยละ 22.87 และ 10.01 (ตามลำดับ) เนื่องจากราคาลำไยที่ดีต่อเนื่องมานานหลายปี เกษตรกรได้ปลูกเพิ่มและเริ่มมีปัญหาราคาในช่วงปลายปี 2560 เกษตรกรจึงปรับสลับแปลงต้นที่สมบูรณ์ บังคับออกดอก และพักแปลงลำไยต้นไม่สมบูรณ์ เพื่อพักต้นไม่ให้ผลผลิตออกกระจุกช่วงเดียวกัน อีกทั้งแปลงที่บังคับสารโพแทสเซียมคลอเรตช่วงเดือน พ.ค. - มิ.ย. 2561 (จะสามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงเดือน ต.ค. - ธ.ค. 2561) การบังคับออกดอกไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากมีฝนตกทำให้ลำไยไม่ติดดอก ในแหล่งผลิตใหญ่ของจันทบุรี  จึงทำให้ผลผลิตรวมลดลง


lychee-376900_1920

ลิ้นจี่ ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น 2,193 ไร่ เนื้อที่ให้ผล 1,943 ไร่ ผลผลิตรวม 1,989 ตัน ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 1,024 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่ยืนต้น เนื้อที่ให้ผล ลดลงร้อยละ 2.01, 2.26 (ตามลำดับ) เนื่องจากลิ้นจี่ที่เกษตรกรปลูกใน จ.จันทบุรี แหล่งเดียว ได้ผลผลิตไม่คุ้มค่า เกษตรกรโค่นต้นไปปลูกทุเรียนทดแทน ผลผลิตต่อไร่ต่อเนื้อที่ให้ผล ผลผลิตรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 88.24, 83.83 (ตามลำดับ) เนื่องจากปีที่ผ่าน ๆ มา ลิ้นจี่ออกผลน้อย ได้พักต้นปีนี้ จึงให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตรวมเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ คณะทำงานฯ จะได้นำเสนอข้อมูลต่อคณะอนุกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตร ด้านพืช เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบข้อมูล ก่อนนำเสนอคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตร เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นข้อมูลเอกภาพของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปเผยแพร่และใช้ประโยชน์ต่อไป


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว