ผู้ประกอบการรถเช่างัดกลยุทธ์สู้ศึกไตรมาส 4! 'ซิกท์' สยายปีกตลาดเพื่อนบ้าน เปิดสาขาหลวงพระบาง ด้าน 'เอแซ็ป' เดินหน้าขายแฟรนไซส์ 4 โมเดล ฟุ้ง! จุดคุ้มทุนภายใน 5 ปี ขณะที่ ไทยเร้นท์อะคาร์, บัดเจ็ท อัดโปรโมชันราคาพิเศษ กระตุ้นยอดปลายปี
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดรถเช่าในไทยมีกว่า 4.5 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทั้งกลุ่มที่เป็นระยะยาวและระยะสั้น ที่คิดเป็นสัดส่วน 50:50 โดยปัจจัยที่มีผลกับตลาดนี้ คือ ธุรกิจท่องเที่ยว การลงทุนจากภาครัฐ ภาพรวมเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนผู้ประกอบการในตลาดนี้ก็มีรายใหม่ ๆ เข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มระยะสั้น
ขณะที่ ผู้ประกอบการรายเดิม หรือ รายใหญ่ในตลาด ก็งัดแผนออกมารับกับการแข่งขัน ล่าสุด
"ค่ายซิกท์" กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด ที่มีแบรนด์รถเช่าระยะสั้น
'ซิกท์' และระยะยาวอย่าง
"มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล" ก็วางกลยุทธ์อาเซียนแพลตฟอร์ม ด้วยการใช้ไทยเป็นฐานเพื่อรุกตลาด
ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินนโยบายโมเดล
"อาเซียน แพลตฟอร์ม" เพื่อรองรับการขยายธุรกิจสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ล่าสุด ได้เปิด
'ซิกท์' สาขาที่ 2 หลวงพระบาง หลังจากก่อนหน้านั้น ในปี 2559 ได้เปิดสาขาแรกที่เวียงจันทน์
"ลาวเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของนักท่องเที่ยว รวมไปถึงนักธุรกิจที่จะเดินทางเข้าไปลงทุน โดยในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลของลาวได้กำหนดยุทธศาสตร์ในระยะ 15 ปี มีเป้าหมายให้เป็นประเทศที่พัฒนาระดับปานกลาง และในปี 2561 หลวงพระบางตั้งเป้าเศรษฐกิจโดยรวมให้ขยายตัวในระดับ 8.4% เฉลี่ยรายรับต่อคนให้ได้ 2,023 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี แบ่งเป็น การบริการ 46%, กสิกรรม-ป่าไม้ 30% และอุตสาหกรรม-หัตถกรรม 24% ของจีดีพี ด้วยเป้าหมายดังกล่าว ทำให้บริษัทเล็งเห็นโอกาสและศักยภาพการเติบโตของธุรกิจรถเช่า จึงมีการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจรถเช่าเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว"
สำหรับฟลีทรถเช่าที่จัดเตรียมสำหรับลาวในปีนี้ จะมีจำนวนทั้งสิ้น 250 คัน แบ่งออกเป็น ระยะสั้นภายใต้แบรนด์
'ซิกท์' 100 คัน รองรับลูกค้าที่หลวงพระบางและเวียงจันทน์ ส่วนที่เหลือจะเตรียมไว้รองรับบริการรถเช่าระยะยาว
ส่วนแผนงานของ
'ซิกท์' ในประเทศไทย กำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะขยายสาขาบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญ โดยปัจจุบัน ซิกท์มีจำนวนสาขาที่ให้บริการ 12 สาขา และในแต่ละปีจะมีอัตราการเติบโตของรายได้กว่า 25% ขณะที่ รถเช่าระยะยาวมีการเติบโตประมาณ 10% และทั้ง 2 แบรนด์ มีรถเช่าอยู่ในพอร์ตรวมกันกว่า 5,000 คัน
รถเช่ารายใหญ่อีกหนึ่งแบรนด์อย่าง
'เอแซ็ป' ที่มีทั้งระยะสั้นและระยะยาว มีรถในพอร์ตมากกว่า 1 หมื่นคัน ก็มีโมเดลธุรกิจใหม่ โดยนายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ เอแซ็ป เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถเช่าและรถมือ 2 ในประเทศไทย มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับการเติบโตของตลาด บริษัทจึงได้ต่อยอด
"asapAuto Park" ซึ่งเป็นจุดให้บริการรถให้เช่าระยะสั้นและเป็นจุดจำหน่ายรถยนต์ที่ครบสัญญา ผ่านรูปแบบการขายแฟรนไชส์ และจะใช้ชื่อในการทำโมเดลธุรกิจนี้ ว่า asap Select
"ความต้องการรถเช่าระยะสั้นยังมีต่อเนื่อง เพราะภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ อาทิ รถไฟความเร็วสูง ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังในประเทศมากขึ้น ทำให้เชื่อว่าจะมีการใช้รถเช่ามากขึ้น ส่วนตลาดรถมือ 2 ก็จะยังขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งเช่นกัน"
สำหรับโมเดล asap Auto Park ภายใต้แบรนด์ asap Select มี 4 รูปแบบ ตามขนาดของพื้นที่และเงินลงทุน ประกอบด้วย ไซซ์ SS พื้นที่ 20-30 ตร.ม. ลงทุนประมาณ 9.25 แสนบาท เน้นขยายตามเมืองท่องเที่ยว เพื่อบริการรถเช่าระยะสั้น ขณะที่ ไซซ์ S พื้นที่ 100-200 ตร.ม. ลงทุนประมาณ 3.85 ล้านบาท เหมาะกับย่านชุมชนเมืองที่มีพื้นที่จำกัด 1-2 คูหา โดยมีรถให้เช่าระยะสั้นและจุดจำหน่ายรถมือ 2
ส่วนไซซ์ M พื้นที่ 300-450 ตร.ม. ลงทุนประมาณ 7 ล้านบาท เหมาะกับทำเลเมืองเศรษฐกิจ เน้นทำตลาดรถให้เช่าระยะสั้น และไซซ์ L พื้นที่ 700-1,000 ตร.ม. ลงทุน 11.32 ล้านบาท เหมาะกับทำเลเมืองเศรษฐกิจ ให้บริการรถให้เช่าและจำหน่ายรถมือ 2 ซึ่งทั้ง 4 รูปแบบ จะคืนทุนเฉลี่ย 4-5 ปี
นายทรงวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใน 5 ปี จะมีแฟรนไชส์ asap Auto Park ภายใต้แบรนด์ asap Select จำนวน 30 สาขา
"ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ของ asap Auto Park ภายใต้แบรนด์ asap Select ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก เพราะเราจะสนับสนุนรถยนต์ทั้งให้เช่าและเพื่อขายเป็นมือ 2 โดยรถทั้งหมดที่เราจะป้อนให้กับผู้ซื้อแฟรนไซช์นั้น ก็ผ่านการดูแลที่ได้มาตรฐานจากศูนย์โตโยต้าและหากลูกค้าซื้อรถมือ 2 ก็จะได้รับประกัน asap Care ซึ่งถือเป็นการยกระดับรถยนต์มือ 2 ให้ดียิ่งขึ้น"
ขณะที่ ผู้เล่นรายอื่น ๆ ในตลาด ก็เน้นการออกโรดโชว์ รวมไปถึงอัดโปรโมชัน อาทิ
'ไทยเร้นท์อะคาร์' เช่ารถราคาพิเศษ 499 บาท หรือ
'ค่ายบัดเจ็ท' ก็มอบโปรโมชันพิเศษ เมื่อลูกค้านำแสตมป์เซเว่น อีเลฟเว่น 550 บาท + เงิน 1 บาท แลกซื้อสลิปรถเช่ารายวัน
หรือ
'ค่ายบัดเจ็ท' ก็มีโปรโมชันพิเศษ เมื่อลูกค้านำแสตมป์เซเว่นอีเลฟเว่น 550 บาท + เงินสด 1 บาท สามารถ แลกซื้อสลิปรถเช่ารายวันแบบขับเองได้
หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,414 วันที่ 1 - 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561