ตำรวจนครบาลติดปีก IoT นำร่องติด GPS มอเตอร์ไซค์ 360 คัน

25 ต.ค. 2561 | 08:10 น.
นางสาวอัศนีย์ วิภาตเวทย์ หัวหน้าส่วนงานผลิตภัณฑ์ลูกค้าองค์กรและบริการระหว่างประเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้เลือกให้เอไอเอสและ บริษัท เอช ไอ พี โกลบอล จำกัด พัฒนาโซลูชั่นส์ใหม่ "NB-IoT Motor Tracker" ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยจะเป็นการส่งข้อมูลพิกัดรถมอเตอร์ไซค์ (GPS) ของตำรวจสายตรวจ หรือ งานจราจร ผ่านเครือข่าย NB-IoT และประมวลผลบนแอพพลิเคชันที่ใช้งานอยู่บน AIS Cloud โดยจะแสดงตำแหน่งรถมอเตอร์ไซค์ที่กำลังวิ่งอยู่ไปที่จอมอนิเตอร์ ณ โรงพัก 9 แห่งทั่วกรุงเทพฯ โดยข้อดีของ NB IoT คือ สามารถส่งพิกัดรถมอเตอร์ไซค์ที่ Update แบบ Near Real time ตลอดเวลา ทำให้ศูนย์สั่งการมองเห็นตำแหน่งรถในพื้นที่ปัจจุบันอย่างแท้จริง และสามารถประสานให้ตำรวจสายตรวจ หรือ งานจราจร ที่ใกล้เคียงที่สุด เดินทางไปช่วยเหลือ ระงับเหตุให้ประชาชนได้ทันท่วงที

S__51724343

โดยจะนำร่องเริ่มใช้บริการแล้ววันนี้ ที่สถานีตำรวจในเขตนครบาล 1 จำนวน 9 สถานี ได้แก่ สถานีตำรวจชนะสงคราม, พญาไท, ดินแดง, ดุสิต, นางเลิ้ง, บางโพ, มักกะสัน, ห้วยขวาง และสามเสน ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการนำนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามาขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของภาครัฐ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนชาวไทย สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0


S__51724346

พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า นโยบายหลักของกองบัญชาการตำรวจนครบาล คือ การป้องกันความเสียหาย หรือ การสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยมีเป้าหมายการลดจำนวนเหตุและคดีอาชญากรรมลดลง โดยไม่มีกรอบกำหนดเวลา เมื่อเกิดเหตุหรือเกิดปัญหาร้องเรียน ต้องมีความฉับไวและคล่องตัวในการเข้าถึงสถานการณ์อย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบและแก้ปัญหาในทุกมิติ ในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นตัวช่วยที่สำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินงานในทุก ๆ ส่วน กองบังคับการตำรวจนครบาล เราจึงมีนโยบายมุ่งเน้นนำเทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในวาระสำคัญนี้ ทางกองบังคับการตำรวจนครบาลรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนได้เข้ามาร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหวังว่า โครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นและแบบอย่างที่ดีของการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานของตำรวจให้ดียิ่งขึ้น เพื่อความสงบสุขและเรียบร้อยของประชาชนและบ้านเมือง

ด้าน พล.ต.ต.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความตั้งใจที่จะปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอยู่เสมอ ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้ริ่เริมคิดที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความคล่องตัวและรวดเร็วในการทำงานมากขึ้น เนื่องจากเรามียานพาหนะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจ จำนวน 360 คัน ที่คอยสแตนบายวิ่งตรวจตราและเข้าถึงจุดเกิดเหตุตลอด 24 ชม. อยู่แล้ว ทำอย่างไรที่จะทำให้การทำงานในส่วนนี้มีศักยภาพและสอดคล้องกับยุคสมัยปัจจุบันที่โทรศัพท์มือถือและดิจิทัลสามารถเข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับเราได้มากขึ้น เราจึงได้ร่วมมือกับภาคเอกชน บริษัท เอไอเอส ผู้ให้บริการเครือข่ายอันดับ 1 และบริษัท เอช ไอ พี ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ความปลอดภัยในระดับสากล นำบริการ NB-IoT Vehicle Tracker มาใช้ติดตามตำแหน่งของรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจที่กระจายตัวอยู่ทั่วเขตกรุงเทพฯ เพื่อง่ายต่อการสั่งการให้รถคันที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุด สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเคย ประชาชนก็อุ่นใจได้มากยิ่งขึ้น เหล่านี้สอดคล้องนโยบายของภาครัฐ ตามแนวคิด Thailand 4.0

595959859