เดินหน้าตลาดนัดประภาคาร ภูเก็ต โบ๊ทฯเสริมทัพร้านดังเติมสีสันรับนักท่องเที่ยวไทย/เทศ

28 ก.พ. 2559 | 08:00 น.
"โบ๊ทลากูน " พลิกโฉมท่าเรือยอชต์แห่งแรกของเมืองไทยเป็นตลาดนัดประภาคารสุดฮิพบนเกาะภูเก็ตรองรับนักท่องเที่ยวไทย-เทศ ชูคอนเซ็ปต์ "แฮงค์เอ้าต์ เดสติเนชั่น พรีเมี่ยม" สร้างสีสันด้วยอีเวนต์ต่อเนื่องทั้งโชว์พลุ การแสดงดนตรีสด โรงหนังกลางแจ้ง พร้อมชมวิว 360 องศา ก่อนดึงร้านอาหารแบรนด์ดังเสริมทัพทั้งบลูอิเลฟเฟ่น, Kabuki ฯลฯ

นางสาวขนิษฐา ประสพศิริกุล ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท ภูเก็ต โบ๊ท ลากูน จำกัด ผู้บริหารตลาดนัดประภาคาร "โบ๊ท ลากูน ไลท์เฮ้าส์ วีคเอนด์ มาร์เก็ต" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า แผนการทำตลาดโบ๊ท ลากูน ไลท์เฮ้าส์ วีคเอนด์ มาร์เก็ต ในปีนี้จะเน้นสร้างให้เป็นห้องรับแขกสำหรับผู้มาเยือนภายใต้แนวคิด "Phuket Iconic Destination"

โดยเน้นหมุนเวียนร้านค้าภายในตลาดและเพิ่มแม็กเนตใหม่ๆ เข้ามาเพื่อเป็นไฮไลต์ ขณะเดียวกันยังเพิ่มอีเวนต์เข้ามาสร้างบรรยากาศและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น การแสดงพลุ , ดนตรีสด , โรงหนังกลางแจ้ง และการเปิดให้ขึ้นชมวิวบนประภาคารแบบ 360 องศา พร้อมกับตกแต่งสถานที่ให้เป็นไปตามธีมที่จัดขึ้นในแต่ละครั้ง

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนดึงร้านค้าแบรนด์ดังทั้งที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์ระดับประเทศเข้ามาเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารบลูอิเลฟเฟ่น, โรงแรมบันยันทรี, ร้าน Kabuki จากกรุงเทพฯ, ข้าวมันไก่บุญตงเกียรติ, Victoria Coffee, Dunkin Donut, Subway, Villa Market, Dr. Orawan , Mini Cooper, Volvo, BMW,Subaru, Mitsubishi ฯลฯ ส่วนร้านค้าท้องถิ่นได้แก่ Xana Beach Club, Sea Breeze, Surf & Turf, Table Spoon, ร้านกอบัว, ร้านอาหารอินเดีย Bollywood รวมไปถึง Street food ได้แก่ อาโป้งไข่ปลาหมึก , ไอศกรีมมะพร้าว , น้ำมะม่วง เป็นต้น โดยทุกร้านมีเอกลักษณ์ของตัวเองทั้งในส่วนผลิตภัณฑ์และการตกแต่งร้านที่สวยงามด้วย

สำหรับภูเก็ตโบ๊ทลากูน เปิดให้บริการท่าจอดเรือยอชต์บนพื้นที่ 300 ไร่ตั้งแต่ปี 2537 พบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมีเรือยอชต์เข้ามาจอดเทียบท่าจำนวนมาก และมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวชมจำนวนมาก ทำให้เกิดเป็นแนวคิดในการพัฒนาให้เป็นตลาดนัดประภาคาร แหล่งนัดพบปะสังสรรค์สำหรับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก 2 กลุ่มได้แก่ กลุ่มนักธุรกิจร้านค้าท้องถิ่นที่นำสินค้ามาประชาสัมพันธ์ในงานรวมถึงร้านแบรนด์ดังระดับประเทศ และอีกกลุ่มเป็น ผู้เข้าชมงาน ได้แก่ คนท้องถิ่นที่เป็นชาวไทยและชาวต่างชาติ 60 % และนักท่องเที่ยว 40%

ทั้งนี้โบ๊ท ลากูน ไลท์เฮ้าส์ วีคเอนด์ มาร์เก็ต เกิดขึ้นภายใต้สโลแกน " EAT CHILL SHOP" คือ การออกร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป ค่ายรถยนต์ และร้านค้าแบรนด์ท้องถิ่นราว 70% ส่วนอีก 30% เป็นร้านค้าแบรนด์ดัง ทั้งนี้หลังทดลองเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปี 2558 พบว่า มีลูกค้าให้ความเข้าใจและเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่รู้จักและเลือกใช้เวลาในวันหยุดที่ โบ๊ท ลากูน ไลท์เฮ้าส์ วีคเอนด์ มาร์เก็ต

" วีคเอนด์ มาร์เก็ต ถือเป็นสีสันที่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นต้องมาเยือน ซึ่งแต่ละครั้งจะมีร้านค้ากว่า 100 ร้านค้าร่วมออกร้านขายสินค้า ซึ่งความหลากหลายกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนมีมู้ดในการจับจ่าย ส่งผลให้มียอดใช้จ่ายเกิดขึ้นตั้งแต่หลักร้อยบาทจนถึงหลักล้านบาทคือ รถยนต์ก็มี โดยตลาดนัดประภาคาร "โบ๊ท ลากูน ไลท์เฮ้าส์ วีคเอนด์ มาร์เก็ต จะเปิดให้บริการระหว่างวันที่ 4-5 มีนาคม /วันที่ 1-2 เมษายน /วันที่ 6-7 พฤษภาคมนี้"

อย่างไรก็ดีในปีที่ผ่านมาพบว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังภูเก็ตสูงถึง 12.5 ล้านคน ขณะที่อัตราเข้าพักโรงแรมต่างๆ พบว่า นักท่องเที่ยวจีนครองอันดับ 1 มีสัดส่วนราว 65% รองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลีย และรัสเซีย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าภูเก็ตยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ และตลาดนัดประภาคารโบ๊ท ลากูน ไลท์เฮ้าส์ วีคเอนด์ มาร์เก็ต จะเข้ามาสร้างสีสันกับการช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,135
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม พ.ศ. 2559