'เศรษฐพงค์' เปิดใจทิ้ง กสทช. ลงการเมือง หวังต่อยอดดิจิตอล
"พ.อ.เศรษฐพงค์" อดีตรองประธานบอร์ด กสทช. เปิดใจเข้าร่วมพรรคภูมิใจไทย นั่งตำแหน่งโฆษกพรรคและดูแลงานดิจิตอล ชี้อีก 2 ปี "เอไอ-บล็อกเชน" เข้ามามีบทบาท
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยถึงการตัดสินใจลาออกจาก กสทช. เพื่อเข้ามาเป็นโฆษกพรรคภูมิใจไทยและดูแลนโยบายด้านดิจิตอล
โดย พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวถึงการตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ว่า ได้รู้จักกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค มาหลายปี และได้คุยเรื่องการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองมาโดยตลอด โดยในช่วงเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาส คุ้นเคยใกล้ชิดกันพอสมควร จนเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอนุทินได้มาคุยเรื่องของการแก้ปัญหาบ้านเมือง ว่า ที่เคยคุยกันอยากให้ประเทศไทยมีความก้าวหน้า ได้ต่อจิ๊กซอว์หมดแล้ว แต่ยังขาดไปตัวเดียว คือ ตัวที่เกี่ยวกับดิจิตอลที่จะเชื่อมโยงจิ๊กซอว์ (ในนโยบายของพรรค) ทั้งหมด หากขาดตัวนี้ไปก็จะไม่สำเร็จ จะเชื่อมโยงในประเทศไทย เชื่อมโยงโลกไม่ได้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมีนโยบายการแก้ปัญหาปากท้อง การปลดล็อกให้ประชาชนมีอำนาจมากขึ้น ลดอำนาจรัฐ ซึ่งในส่วนของบล็อกเชน (Blockchain), บรอดแบนด์ (Broadband) และอินเตอร์เน็ต (Internet) ที่เข้าสู่ 4.5 จีแล้ว และคนไทยใช้ดิจิตอลบนมือถือ คนไทย 70 ล้านคน มีหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 130 ล้านเลขหมาย มีข้อมูลเชื่อมโยงตลอดเวลา ถึงเวลาที่จะให้ตนไปเชื่อมต่อ
มัวแต่ไปทำ 3 จี 4 จี ทำไม คนไทยไม่รวยขึ้น ไม่มีโอกาสเหมือนสังคมโลก ทำไมเรายังตกในภวังค์อาชีพดั้งเดิม ไม่สามารถใช้ทรัพย์สิน รถยนต์ ห้องพัก ใช้ประโยชน์ได้ ติดแค่กฎหมายไม่กี่บรรทัด ปัจจุบัน เทคโนโลยีได้ทำให้อาชีพเปลี่ยนไปอย่างมาก ทุกคนเข้าถึงข้อมูลรวดเร็ว มันคือ "โอกาส" ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ถ้าผู้บริหารทำได้จริง ภาพทั้งหมดบนแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต้องเชื่อมโยงระหว่างรัฐกับประชาชนได้ แต่คนยังเข้าไม่ถึงขีดความสามารถในอนาคตได้ ทำไมลูกหลานไม่กลับไปอยู่ชุมชน มีอาชีพที่บ้าน มีผู้สูงอายุไม่สามารถดูแลได้ ทำไมหมอไม่มีตรงนั้น เชื่อมโยงเทคโนโลยีที่ไปสู่หมอที่เชี่ยวชาญ เราทำได้แล้ว แต่จะทำอย่างไร
"ถ้าประเทศไทยไม่ดีในอนาคต ไม่ดี อย่ามาว่าผม เพราะมาทำให้ครบ คุณอนุทินบอกกับผม ส่วนตัวจึงคิดว่าไม่ควรอยู่ที่เดิม ต้องมาช่วยให้ฝันเป็นจริง เพราะเราอยู่ในวงการเทคโนโลยีมานาน และอีก 2-3 ปี โลกจะเปลี่ยนไปมาก เทคโนโลยี AI และบล็อกเชน (Blockchain) อยู่ในมือถือ คือ โอกาสใหม่ทั้งหมด ทั้งเรื่องการศึกษา เรื่องอาชีพดั้งเดิมที่เปลี่ยนไป ต้องพัฒนาขีดความสามารถใหม่ ไม่ทำลายการเรียนดั้งเดิม แต่ต้องปรับตัว พัฒนาขึ้น เด็ก ผู้สูงอายุ เข้ามาเรียนหนังสือได้ฟรี ซึ่งกระตุ้นต่อมผมมาก เพราะเราสามารถทำได้ แต่ต้องปลดล็อกให้อำนาจประชาชนดูแลตัวเอง มีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยขับเคลื่อนแก้ปัญหาประชาชน ผมอยากเห็น จึงคิดว่าถ้าพวกเรามาช่วยกัน เรามีโอกาสรออยู่ข้างหน้า ถ้าไม่ทำเราเสียโอกาส อย่าง "บล็อกเชน" (Blockchain) จะทำให้ซัพพลายภาคการเกษตรมีความสมดุลอย่างไม่น่าเชื่อ เกษตรกรมีพลังมากขึ้น"
"เป็นการจุดประกายความหวังที่ได้เกิดขึ้น จึงยินดีที่จะมาร่วมงานกับคุณอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และมีทีมที่เข้ามาเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มาร่วมกันสร้างประเทศของเรา แนวคิดคุณอนุทินจะปรากฏเป็นความจริง หากมีโอกาสพัฒนาประเทศ เราจะได้อำนาจเพื่อคืนอำนาจสู่ประชาชน" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,411 ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2561
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยถึงการตัดสินใจลาออกจาก กสทช. เพื่อเข้ามาเป็นโฆษกพรรคภูมิใจไทยและดูแลนโยบายด้านดิจิตอล
โดย พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวถึงการตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ว่า ได้รู้จักกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค มาหลายปี และได้คุยเรื่องการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองมาโดยตลอด โดยในช่วงเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาส คุ้นเคยใกล้ชิดกันพอสมควร จนเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอนุทินได้มาคุยเรื่องของการแก้ปัญหาบ้านเมือง ว่า ที่เคยคุยกันอยากให้ประเทศไทยมีความก้าวหน้า ได้ต่อจิ๊กซอว์หมดแล้ว แต่ยังขาดไปตัวเดียว คือ ตัวที่เกี่ยวกับดิจิตอลที่จะเชื่อมโยงจิ๊กซอว์ (ในนโยบายของพรรค) ทั้งหมด หากขาดตัวนี้ไปก็จะไม่สำเร็จ จะเชื่อมโยงในประเทศไทย เชื่อมโยงโลกไม่ได้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมีนโยบายการแก้ปัญหาปากท้อง การปลดล็อกให้ประชาชนมีอำนาจมากขึ้น ลดอำนาจรัฐ ซึ่งในส่วนของบล็อกเชน (Blockchain), บรอดแบนด์ (Broadband) และอินเตอร์เน็ต (Internet) ที่เข้าสู่ 4.5 จีแล้ว และคนไทยใช้ดิจิตอลบนมือถือ คนไทย 70 ล้านคน มีหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 130 ล้านเลขหมาย มีข้อมูลเชื่อมโยงตลอดเวลา ถึงเวลาที่จะให้ตนไปเชื่อมต่อ
มัวแต่ไปทำ 3 จี 4 จี ทำไม คนไทยไม่รวยขึ้น ไม่มีโอกาสเหมือนสังคมโลก ทำไมเรายังตกในภวังค์อาชีพดั้งเดิม ไม่สามารถใช้ทรัพย์สิน รถยนต์ ห้องพัก ใช้ประโยชน์ได้ ติดแค่กฎหมายไม่กี่บรรทัด ปัจจุบัน เทคโนโลยีได้ทำให้อาชีพเปลี่ยนไปอย่างมาก ทุกคนเข้าถึงข้อมูลรวดเร็ว มันคือ "โอกาส" ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ถ้าผู้บริหารทำได้จริง ภาพทั้งหมดบนแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต้องเชื่อมโยงระหว่างรัฐกับประชาชนได้ แต่คนยังเข้าไม่ถึงขีดความสามารถในอนาคตได้ ทำไมลูกหลานไม่กลับไปอยู่ชุมชน มีอาชีพที่บ้าน มีผู้สูงอายุไม่สามารถดูแลได้ ทำไมหมอไม่มีตรงนั้น เชื่อมโยงเทคโนโลยีที่ไปสู่หมอที่เชี่ยวชาญ เราทำได้แล้ว แต่จะทำอย่างไร
"ถ้าประเทศไทยไม่ดีในอนาคต ไม่ดี อย่ามาว่าผม เพราะมาทำให้ครบ คุณอนุทินบอกกับผม ส่วนตัวจึงคิดว่าไม่ควรอยู่ที่เดิม ต้องมาช่วยให้ฝันเป็นจริง เพราะเราอยู่ในวงการเทคโนโลยีมานาน และอีก 2-3 ปี โลกจะเปลี่ยนไปมาก เทคโนโลยี AI และบล็อกเชน (Blockchain) อยู่ในมือถือ คือ โอกาสใหม่ทั้งหมด ทั้งเรื่องการศึกษา เรื่องอาชีพดั้งเดิมที่เปลี่ยนไป ต้องพัฒนาขีดความสามารถใหม่ ไม่ทำลายการเรียนดั้งเดิม แต่ต้องปรับตัว พัฒนาขึ้น เด็ก ผู้สูงอายุ เข้ามาเรียนหนังสือได้ฟรี ซึ่งกระตุ้นต่อมผมมาก เพราะเราสามารถทำได้ แต่ต้องปลดล็อกให้อำนาจประชาชนดูแลตัวเอง มีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยขับเคลื่อนแก้ปัญหาประชาชน ผมอยากเห็น จึงคิดว่าถ้าพวกเรามาช่วยกัน เรามีโอกาสรออยู่ข้างหน้า ถ้าไม่ทำเราเสียโอกาส อย่าง "บล็อกเชน" (Blockchain) จะทำให้ซัพพลายภาคการเกษตรมีความสมดุลอย่างไม่น่าเชื่อ เกษตรกรมีพลังมากขึ้น"
"เป็นการจุดประกายความหวังที่ได้เกิดขึ้น จึงยินดีที่จะมาร่วมงานกับคุณอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และมีทีมที่เข้ามาเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มาร่วมกันสร้างประเทศของเรา แนวคิดคุณอนุทินจะปรากฏเป็นความจริง หากมีโอกาสพัฒนาประเทศ เราจะได้อำนาจเพื่อคืนอำนาจสู่ประชาชน" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,411 ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2561
