'แกร็บ' เปิดตัว "Safer Everyday" ยกระดับความปลอดภัยการเดินทาง

16 ต.ค. 2561 | 08:15 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

'แกร็บ' เดินหน้าผลักดันวิสัยทัศน์ระดับภูมิภาค เปิดตัวเทคโนโลยี "Safer Everyday" แนะนำฟีเจอร์และบริการความปลอดภัยใหม่ล่าสุด หลากหลายรายการ เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางขนส่งของผู้ใช้ โดยฟีเจอร์และบริการความปลอดภัยใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวนั้น รวมถึงระบบสอดส่องเพื่อป้องกันความเหนื่อยล้า และการรายงานพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ทราบและตระหนักถึงการขับขี่อย่างปลอดภัย ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมเสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืน โดย 'แกร็บ' ยังวางแผนเพิ่มการลงทุนในระบบความปลอดภัยเพิ่มเป็น 2 เท่า จวบจนปลายปี 2562 ที่กำลังมาถึง

Tarin Thaniyavarn, Country Head of Grab Thailand (1)[22055]

นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บตระหนักดีว่าผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของเราทุกคนมีคนที่รักและห่วงใย ซึ่งเฝ้ารอให้พวกเขาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย นี่คือ เหตุผลที่ในวันนี้ ที่ถึงแม้บริษัทฯ จะมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม และธุรกิจของเราจะเติบโตขึ้นหลายเท่า ความปลอดภัยก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เรายึดถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมขยายเพิ่มการลงทุนด้านความปลอดภัยเป็น 2 เท่าในปีหน้า การเปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของแกร็บในระดับภูมิภาค โดยแกร็บถือเป็นผู้ให้บริการเรียกรถผ่านแอพลิเคชันเพียงรายเดียวที่ลงทุนในความปลอดภัยที่สำคัญ อาทิ การจัดให้มีศูนย์ให้บริการคอลล์เซ็นเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง ฟีเจอร์การปกปิดเบอร์มือถือผู้ใช้ และการตรวจสอบประวัติผู้ที่มาสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ ตลอดจนการยืนยันแอคเคาท์ผู้ใช้อย่างเข้มงวด ด้วยเหตุนี้แกร็บจึงสามารถลดจำนวนเหตุไม่พึงประสงค์ที่เกิดบนแพลตฟอร์มได้มากถึง 40% นับจากไตรมาสสามในปี 2560

"ธุรกิจของเราเริ่มต้นจากความพยายามที่จะมอบการเดินทางที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน" กล่าว "เราเชื่อว่าความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญ เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตมากถึง 24,000 คนในแต่ละปี ปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนนจึงเป็นสิ่งที่แกร็บให้ความใส่ใจและต้องการเข้ามาช่วยเหลือในการแก้ไข"

ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ แกร็บได้มีการปรับโฉมแอพพลิเคชันเพื่อมุ่งสู่การเป็นซูเปอร์แอพที่ตอบรับความต้องการในทุกวันของภูมิภาค โดยปรับดีไซน์ใหม่ให้มีความสวยงาม ใช้งานง่าย และตอบรับความต้องการหลากหลายด้วยฟีเจอร์ใหม่ อาทิ หน้าเมนูที่แบ่งแยกประเภทของบริการ หน้าข่าวสารที่ได้รับการคัดสรรให้เหมาะสำหรับแต่ละพื้นที่ แคตตาล็อกของสมนาคุณแกร็บรีวอดส์ และเกมส์ต่าง ๆ

เทคโนโลยี Grab’s Safer Everyday ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโฉมและเปิดตัวเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ ต่าง ๆ ที่มุ่งยกระดับความปลอดภัยให้กับลูกค้า พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พาร์ทเนอร์คู่ค้า พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการขนส่ง รวมไปถึงการทำธุรกรรมจับจ่ายบนแอพพลิเคชันแกร็บ

ตัน ฮุ่ย หลิง ผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ กล่าวว่า "ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่แกร็บได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับทั้งอุตสาหกรรมเดินทางขนส่งของภูมิภาค เทคโนโลยี Safer Everyday จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยของแกร็บ โดยเรามีเป้าหมายที่จะผลักดันให้อัตราการเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ที่เราสามารถป้องกันได้ให้เหลือศูนย์ พร้อมทั้งช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุหากเป็นไปได้ ปัจจัยหลักที่จะทำให้เป้าหมายของเราสำเร็จนั้น คือ การทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยบนท้องถนน"

ทั้งนี้ ฟีเจอร์ต่าง ๆ ในมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ของแกร็บ ได้แก่ 1.การยืนยันตัวตนผู้ร่วมทาง ทั้งพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร–ขั้นตอนการยืนยันตัวตนที่เพิ่มความโปร่งใสและไว้วางใจ ด้วยระบบยืนยันตัวตนผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พร้อมการตรวจสอบประวัติพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่ละเอียดเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และบัญชีพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน

2.ขอความช่วยเหลือทันท่วงที–การเพิ่มฟีเจอร์แชร์มายไรด์ (Share My Ride) และปุ่มแจ้งเตือนฉุกเฉิน (Emergency SOS) ซึ่งปัจจุบัน มีเฉพาะในแอพสำหรับผู้โดยสาร ให้มีในแอพของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ด้วย เพื่อให้สามารถแชร์ตำแหน่งที่ขับขี่อยู่ ณ ปัจจุบันให้แก่คนที่รักและห่วงใย

3.เสริมสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย–เทคโนโลยีการวิเคราะห์ของแกร็บ สามารถช่วยให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่เข้าใจถึงพฤติกรรมการขับขี่ของตนเองและสิ่งที่สามารถปรับปรุง ระบบตรวจสอบความเหนื่อยล้าในการขับขี่ของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ (Driver Fatigue Monitoring System) จะส่งข้อความเตือนและแนะนำให้พัก หากพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่มีการรับงานติดต่อกันนานเกินระยะเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ยังจะได้รับรายงานพฤติกรรมการขับขี่จากระบบเทเลมาติกส์ (Telematics) ซึ่งบอกถึงพฤติกรรมการเร่งความเร็ว การเบรก และการวิเคราะห์อื่น ๆ ที่จะมีมาเพิ่มเติมในอนาคต ทั้งนี้ ภายหลังการเปิดตัวระบบเทเลมาติกส์ มีเหตุที่เกิดจากการขับรถเร็วลดลง 50% นอกจากนี้ พฤติกรรมการเบรกและเร่งความเร็วแบบกะทันหัน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุก็ลดลงถึง 20% และ 4.ปลอดภัยในทุกขั้นตอน–มาตรฐานความปลอดภัยของแกร็บ ยังครอบคลุมการตรวจตราพฤติกรรมที่น่าสงสัย พร้อมมอบการทำธุรกรรมจับจ่ายที่ปลอดภัยและระบบปกป้องข้อมูลที่รัดกุม

แกร็บร่วมมือกับองค์กรเอกชนและองค์กรสาธารณทั่วภูมิภาค เพื่อพัฒนาและร่วมมือในโครงการรณรงค์ความปลอดภัยในท้องถิ่นของแต่ละประเทศในภูมิภาค โดยอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีส่วนแบ่ง 25% จากอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนทั่วโลก การร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐจะสามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาจากการเชิญชวนผู้คนจำนวนมากขึ้นให้ทำงานร่วมกัน

โดยในประเทศไทย แกร็บได้สนับสนุนโครงการ UNiTE โดยเลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งมีการดำเนินงานมายาวนานและมีเป้าหมายเรียกร้องให้รัฐบาล ประชาสังคม องค์กรเพื่อสตรี เยาวชน เอกชน สื่อมวลชน และเครือข่ายสหประชาชาติ ร่วมมือกันป้องกันและต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลก โดยภายใต้การสนับสนุนโครงการนี้ แกร็บจะดำเนินการรณรงค์ความปลอดภัยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้เกี่ยวกับความปลอดภัย การจัดทำป้ายข้อมูลรณรงค์ความปลอดภัยภายในรถที่ให้บริการ บทความทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความสำคัญของความปลอดภัยของผู้หญิงและผู้เดินทางทั่วไป


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว