"โอ๊ค" โพสต์เฟซบุ๊ก "เอาคดีปักมันไว้ มันจะได้ไม่อยู่ให้รำคาญใจ ช่วงเลือกตั้ง" ก่อนอัยการฯ สั่งฟ้องคดีฟอกเงินกรุงไทย ในเวลา 10.00 น. วันนี้ (10 ต.ค. 61)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 จะได้มีคำสั่งฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน ที่มีการรับเช็คจำนวน 10 ล้านบาท คดีทุจริตอนุมัติสินเชื่อธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร ปรากฏว่า นายพานทองแท้ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ
"Oak Panthongtae Shinawatra" โดยมีคำบรรยายภาพว่า
"กำลังใจเต็มร้อย" พร้อมข้อความว่า ....
เอาคดีปักมันไว้ มันจะได้ไม่อยู่ให้รำคาญใจ ช่วงเลือกตั้ง..!!
คือ เสียงคำรามครั้งสุดท้าย ก่อนที่อัยการจะเรียกตัวผมไปฟังคำสั่งคดีฯ ครับ
555555 ฝันไปเถอะครับลุงฉุน..!!
3 วันก่อน ผมบินออกนอกประเทศ เพื่อไปเยี่ยมคุณพ่อที่ฮ่องกงจริงครับ พอบินออกไปปุ๊บก็เฮกันลั่นตึก ... บอกเลือกตั้งครั้งหน้าเบาแล้ว เดี๋ยวครอบครัวมันก็เผ่นไปกันหมดบ้าน..!!
นอกจากเราจะไม่เผ่นกันแล้ว ผมยังจะชวนทุกคนในบ้านมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคฯ กันด้วยครับ เมื่อก่อนมีพ่อเป็นคนเดียว คราวนี้ผมจะชวนมากันให้หมด จะได้ไม่ต้องเอาข้อกฎหมายมากล่าวหากัน ว่า คนนอกเข้ามาบงการ ต้องยุบพรรคฯ อย่างโน้นอย่างนี้
ผมบินไปพบพ่อเพื่อบอกกับพ่อว่า ผมกำลังใจเต็มร้อยที่จะสู้ และขอว่าพอกันทีสำหรับการอยู่อย่างหวาดกลัว เฝ้าแต่รอฟังว่าเมื่อไหร่เผด็จการฯ จะเริ่มต้นปรองดองอย่างจริงจัง รอว่าเมื่อไหร่จะเลิกหาเรื่อง เอาคดีมาปักนักการเมืองเพื่อต่อรองให้ยอมทำนู่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา หลอกลวงคนไทยว่า ขอเวลาไม่นาน หลอกให้รอมาจนจะครบ 5 ปีแล้ว ก็ยังให้รอต่อไป
ลุง...อยากให้ผมไปนัก-ผมก็จะอยู่ ไม่อยากให้ผมไปช่วยหาเสียง-ผมก็จะไปมันทุกจังหวัด ผมจะทำทุกอย่างในกรอบของกฎหมาย เพื่อสนับสนุนทุกองค์กรและทุกพรรคการเมืองที่อยู่ในฝั่งประชาธิปไตย ให้รวมพลังกันเอาชนะการสืบทอดอำนาจของฝ่ายเผด็จการฯ ให้ได้..!!
พรุ่งนี้ผมจะไปพบพนักงานอัยการฯ ด้วยตัวเองครับ ที่ผ่านมาผมรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐในการดำเนินคดีนี้เลย ทั้งจากดีเอสไอ ปปง. และสุดท้ายที่อัยการฯ ดูเหมือนทุกหน่วยงานดำเนินคดีกับผม แตกต่างจากบุคคลอื่นอีกร้อยกว่ารายที่ทำธุรกรรมการเงินในลักษณะเดียวกันและกับเงินก้อนเดียวกันนี้ โดยสิ้นเชิง
ถ้าผมไม่อยู่สู้คดีอย่างที่มนุษย์ลุงคาดหวังไว้ ผมรู้ว่าต่อไปผมคงต้องเจอคำถามยอดฮิตเหน็บแนมไล่หลังมาว่า
"ไม่ได้ทำผิดแล้วกลัวอะไร"
แต่วันนี้ผมอยู่ ผมจึงตอบแทนได้ว่า คนที่เขาอยู่ตรงข้ามเผด็จการฯ เขาไม่ได้กลัวในสิ่งที่เขากระทำ เพราะมันไม่ผิด แต่เขากลัวการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เป็นธรรมต่างหาก
แทนที่จะถามว่า
"ไม่ผิดแล้วกลัวอะไร" สังคมควรจะตั้งคำถาม และหวาดกลัวในสิ่งที่เกิดขึ้นกับบ้านเมือง ณ เวลานี้กันมากกว่า นั่นก็คือ..
"เผด็จการเบ็ดเสร็จที่ทำผิดได้ โดยที่ตัวเองไม่ต้องกลัวความผิดอะไรเลย" คือ สิ่งที่เลวร้าย และน่ากลัวที่สุดในสังคมไทยทุกวันนี้ครับ