“อนาคตใหม่”โชว์เปิดทรัพย์สินรายไตรมาส เริ่ม Q 4 นี้
“อนาคตใหม่”โชว์ เปิดทรัพย์สินรายไตรมาส เริ่ม Q 4 นี้ ลั่น ต้องเป็น นายกฯ เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ตุลาคม) ที่สำนักงานใหญ่พรรคอนาคตใหม่ ชั้น 5 ไทยซัมมิททาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี เปิดรับสมัครสมาชิกพรรคอนาคตใหม่อย่างเป็นทางการวันแรกบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ช่วงหนึ่งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคต ได้ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกตื่นเต้นและพร้อมปฏิบัติกับสมาชิกที่เข้ามาเท่าเทียมกันทุกคน โดยวันนี้รับสมัครสมาชิกยังไม่ได้รับสมัครผู้แทนของพรรคเพื่อลงส.ส. ซึ่งการรับสมัครเพื่อลงส.ส. จะเปิดโต๊ะรับในวันที่ 18 ตุลาคม พร้อมยืนยันว่า อนาคตใหม่จะส่งให้ครบทั้ง 350 เขตเพื่อเป็นพรรคระดับชาติ เพราะถ้างานหาผู้สมัครส.ส.ไม่ครบก็คงทำงานตามความฝันไม่ได้ โดยมุ่งเน้นทั้ง 2 แบบ ไม่ใช่แค่แบบปาร์ตี้ลิสต์ ที่ภายนอกประเมินเราว่า จะได้แต่ส.ส.ปาร์ตี้ลิ้สต์ แต่การประเมินและวิเคราะห์ของพรรคเองพบกว่า มีหลายเขตมากที่มีศักยภาพจนได้ส.ส.เขตด้วย
ส่วนที่ประเมินกันว่า กรุงเทพฯซึ่งเต็มไปด้วยปัญญาชนและคนรุ่นใหม่จะเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคนั้น นายธนาธร กล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะถามว่า จะได้เท่าไร อนาคตใหม่มีเป้าหมายอยู่ ทุกวันนี้แกนนำและเครือข่ายพรรคยังทำงานอย่างหนัก แต่ก็เร็วเกินไปที่จะตอบ ยังมีเวลาเหลืออีก การลงพื้นที่ของเรานั้นเป็นเพื่อการเผยแพร่อุดมกาณ์และหาคะแนนเสียงด้วย กิจกรรมอย่างทำตามกฎกติกา ไม่กังวลเรื่องการทำผิดกฎหมาย ที่สร้างปัญหาให้แก่พรรคการเมืองทั้งหมด
“อนาคตใหม่ขอทำตามกติ เพื่อชนะในเกมของคสช.เพื่อให้ไร้ข้อโต้แย้ง ตอนนี้น่าจะยากแล้วที่จะเลื่อนการเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ที่กระแสสังคมตอบรับไปแล้ว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คงอธิบายยากหากเลื่อน”
ส่วนกิจกรรมหาสมาชิกเพิ่มเติมในต่างจังหวัดนั้น ตามกฎหมายกำหนดให้มีสาขาพรรคอย่างน้อย 4 ภาค ซึ่งอนาคตใหม่จัดตั้งสาขาไว้ 6 จังหวัด คือ จ.เชียงใหม่ สาขาภาคเหนือ จ.ขอนแก่น สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ระยอง สาขาภาคตะวันออก จ.อยุธยา สาขาภาคกลาง จ.นครศรีธรรมราช สาขาภาคใต้ และจ.นราธิวาส สาขาของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกลางเดือนตุลาคมนี้ จะเอาแกนนำพรรคลงพื้นที่ทั้ง 6 จังหวัด ทำคาราวาน เปิดรับสมัครสมาชิกพร้อมกับระดมทุนสาธารณะและขายของ ตั้งเป้าที่จะไม่ให้พรรคมีนายทุนมาครอบงำ
สำหรับวิสัยทัศน์ ไทย 2 เท่า “เท่าเทียมกันเท่าทันโลก” นั้น ถือเป็นเข็มทิศที่จะใช้เดินไปข้างหน้า คนไทยต้องเท่ากันและเท่าทันโลก นี่คือสิ่งที่อนาคตใหม่อยากเห็น นโยบายที่ออกมาทั้งหมดจะร้อยรัดกันให้เดินไปถึงความฝันนั้น สังคมไทยตอนนี้ต้องกล้าฝัน ทะเยอทะยาน เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ
“ผมไม่เคยพูดถึงการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ขอย้ำอีกครั้งว่า การประกาศปักธงการเมืองกับเรื่องคะแนนเสียงเป็นเรื่องเดียวกัน เราไม่ได้มองแค่อำนาจ แต่มีเป้าหมาย 3 ข้อ คือ 1.หยุดการสืบทอดอำนาจของคสช. 2.แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และ3.ล้มล้างมรดกคณะรัฐประหาร ผมต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้นจึงทำได้ เราไม่ได้ฝันอยากมีอำนาจเพื่อมีอำนาจ แต่อยากมีเพื่อเอาอำนาจนั้นไปเปลี่ยนแปลงสังคม นายกรัฐมนตรีไม่ใช่เป้าหมายแต่เป็นกระบวนการตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป
อนาคตใหม่จะเปิดรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่มีเงื่อนต้องใช้เสียง ส.ว.แต่งตั้ง 1 ใน 3 ในการเห็นชอบด้วย เพราะหลังการเลือกตั้งแล้ว องค์กรที่เรียกว่า คสช.จะหายไป ถ้าประชาชนลุกขึ้นมาเป็นล้านคนได้ การกดดันให้ส.ว.แต่งตั้งเห็นพ้องกับประชาชน ต้องยกมือเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับก็เป็นไปได้ คะแนนเสียงอย่างเดียวทำไม่ได้ ต้องทำให้อุดมการณ์คู่กับไปการหาคะแนนเสียง” นายธนาธร กล่าว และว่า
ตลอด 86 ปีของการสร้างประชาธิปไตย ตนตระหนักดีว่า ยังทำไม่สำเร็จในอนาคตอันไกล้ อนาคตใหม่จึงขอทำงานระยะยาว ครั้งนี้ยังไม่ได้ก็จะทำงานต่อไป ใครไม่ได้เข้าไปทำงานในสภาก็ทำงานต่อเนื่องนอกสภา ผลักดันอุดมการณ์แนวคิดไป ทำความเข้าใจประชาธิปไตยนอกสภา พูดอย่างเดียวคนไม่เชื่อ ต้องทำให้เขาเห็น อย่างการเปิดเผยบัญชีเข้าพรรคการเมืองให้สาธารณะตรวจสอบได้ เราจะทำทุกไตรมาส ครั้งแรก คือ ไตรมาส 4 ของปีนี้จะเปิดเผยได้ราวครึ่งหลังของเดือนมกราคม 2562 ให้สังคมได้รับรู้ ถ้าตนทำได้พรรคเดียว ทุกพรรคจะทำตาม ตนจะยกระดับการเมืองไทย
ส่วนกรณี 4 รัฐมนตรีสังกัดพรรคพลังประชารัฐไม่ลาออกนั้น นายธนาธร ระบุว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ข้ออ้างเรื่องธรรมาภิบาล ความวุ่นวาย ยึดอำนาจเข้ามา แต่ก็ชัดเจนว่า ไม่มีธรรมาภิบาลในรัฐบาลชุดนี้ ในเมื่อรัฐบาลที่พูดเรื่องนี้ทุกวันไม่ทำตัวให้เป็นตัวอย่าง ตนก็ขอไม่ก้าวก่ายการทำงานของพรรคการเมืองพรรคใด แต่นักการเมืองควรต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่างของสังคม ให้เห็นว่า มาตรฐานของสังคมไทยเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงหนึ่งของงานในวันนี้ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร ได้บริจาคเงิน จำนวน 1 ล้านบาทให้กับพรรคอนาคตใหม่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ตุลาคม) ที่สำนักงานใหญ่พรรคอนาคตใหม่ ชั้น 5 ไทยซัมมิททาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี เปิดรับสมัครสมาชิกพรรคอนาคตใหม่อย่างเป็นทางการวันแรกบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ช่วงหนึ่งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคต ได้ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกตื่นเต้นและพร้อมปฏิบัติกับสมาชิกที่เข้ามาเท่าเทียมกันทุกคน โดยวันนี้รับสมัครสมาชิกยังไม่ได้รับสมัครผู้แทนของพรรคเพื่อลงส.ส. ซึ่งการรับสมัครเพื่อลงส.ส. จะเปิดโต๊ะรับในวันที่ 18 ตุลาคม พร้อมยืนยันว่า อนาคตใหม่จะส่งให้ครบทั้ง 350 เขตเพื่อเป็นพรรคระดับชาติ เพราะถ้างานหาผู้สมัครส.ส.ไม่ครบก็คงทำงานตามความฝันไม่ได้ โดยมุ่งเน้นทั้ง 2 แบบ ไม่ใช่แค่แบบปาร์ตี้ลิสต์ ที่ภายนอกประเมินเราว่า จะได้แต่ส.ส.ปาร์ตี้ลิ้สต์ แต่การประเมินและวิเคราะห์ของพรรคเองพบกว่า มีหลายเขตมากที่มีศักยภาพจนได้ส.ส.เขตด้วย
ส่วนที่ประเมินกันว่า กรุงเทพฯซึ่งเต็มไปด้วยปัญญาชนและคนรุ่นใหม่จะเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคนั้น นายธนาธร กล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะถามว่า จะได้เท่าไร อนาคตใหม่มีเป้าหมายอยู่ ทุกวันนี้แกนนำและเครือข่ายพรรคยังทำงานอย่างหนัก แต่ก็เร็วเกินไปที่จะตอบ ยังมีเวลาเหลืออีก การลงพื้นที่ของเรานั้นเป็นเพื่อการเผยแพร่อุดมกาณ์และหาคะแนนเสียงด้วย กิจกรรมอย่างทำตามกฎกติกา ไม่กังวลเรื่องการทำผิดกฎหมาย ที่สร้างปัญหาให้แก่พรรคการเมืองทั้งหมด
“อนาคตใหม่ขอทำตามกติ เพื่อชนะในเกมของคสช.เพื่อให้ไร้ข้อโต้แย้ง ตอนนี้น่าจะยากแล้วที่จะเลื่อนการเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ที่กระแสสังคมตอบรับไปแล้ว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คงอธิบายยากหากเลื่อน”
ส่วนกิจกรรมหาสมาชิกเพิ่มเติมในต่างจังหวัดนั้น ตามกฎหมายกำหนดให้มีสาขาพรรคอย่างน้อย 4 ภาค ซึ่งอนาคตใหม่จัดตั้งสาขาไว้ 6 จังหวัด คือ จ.เชียงใหม่ สาขาภาคเหนือ จ.ขอนแก่น สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ระยอง สาขาภาคตะวันออก จ.อยุธยา สาขาภาคกลาง จ.นครศรีธรรมราช สาขาภาคใต้ และจ.นราธิวาส สาขาของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกลางเดือนตุลาคมนี้ จะเอาแกนนำพรรคลงพื้นที่ทั้ง 6 จังหวัด ทำคาราวาน เปิดรับสมัครสมาชิกพร้อมกับระดมทุนสาธารณะและขายของ ตั้งเป้าที่จะไม่ให้พรรคมีนายทุนมาครอบงำ
สำหรับวิสัยทัศน์ ไทย 2 เท่า “เท่าเทียมกันเท่าทันโลก” นั้น ถือเป็นเข็มทิศที่จะใช้เดินไปข้างหน้า คนไทยต้องเท่ากันและเท่าทันโลก นี่คือสิ่งที่อนาคตใหม่อยากเห็น นโยบายที่ออกมาทั้งหมดจะร้อยรัดกันให้เดินไปถึงความฝันนั้น สังคมไทยตอนนี้ต้องกล้าฝัน ทะเยอทะยาน เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ
“ผมไม่เคยพูดถึงการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ขอย้ำอีกครั้งว่า การประกาศปักธงการเมืองกับเรื่องคะแนนเสียงเป็นเรื่องเดียวกัน เราไม่ได้มองแค่อำนาจ แต่มีเป้าหมาย 3 ข้อ คือ 1.หยุดการสืบทอดอำนาจของคสช. 2.แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และ3.ล้มล้างมรดกคณะรัฐประหาร ผมต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้นจึงทำได้ เราไม่ได้ฝันอยากมีอำนาจเพื่อมีอำนาจ แต่อยากมีเพื่อเอาอำนาจนั้นไปเปลี่ยนแปลงสังคม นายกรัฐมนตรีไม่ใช่เป้าหมายแต่เป็นกระบวนการตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป
อนาคตใหม่จะเปิดรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่มีเงื่อนต้องใช้เสียง ส.ว.แต่งตั้ง 1 ใน 3 ในการเห็นชอบด้วย เพราะหลังการเลือกตั้งแล้ว องค์กรที่เรียกว่า คสช.จะหายไป ถ้าประชาชนลุกขึ้นมาเป็นล้านคนได้ การกดดันให้ส.ว.แต่งตั้งเห็นพ้องกับประชาชน ต้องยกมือเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับก็เป็นไปได้ คะแนนเสียงอย่างเดียวทำไม่ได้ ต้องทำให้อุดมการณ์คู่กับไปการหาคะแนนเสียง” นายธนาธร กล่าว และว่า
ตลอด 86 ปีของการสร้างประชาธิปไตย ตนตระหนักดีว่า ยังทำไม่สำเร็จในอนาคตอันไกล้ อนาคตใหม่จึงขอทำงานระยะยาว ครั้งนี้ยังไม่ได้ก็จะทำงานต่อไป ใครไม่ได้เข้าไปทำงานในสภาก็ทำงานต่อเนื่องนอกสภา ผลักดันอุดมการณ์แนวคิดไป ทำความเข้าใจประชาธิปไตยนอกสภา พูดอย่างเดียวคนไม่เชื่อ ต้องทำให้เขาเห็น อย่างการเปิดเผยบัญชีเข้าพรรคการเมืองให้สาธารณะตรวจสอบได้ เราจะทำทุกไตรมาส ครั้งแรก คือ ไตรมาส 4 ของปีนี้จะเปิดเผยได้ราวครึ่งหลังของเดือนมกราคม 2562 ให้สังคมได้รับรู้ ถ้าตนทำได้พรรคเดียว ทุกพรรคจะทำตาม ตนจะยกระดับการเมืองไทย
ส่วนกรณี 4 รัฐมนตรีสังกัดพรรคพลังประชารัฐไม่ลาออกนั้น นายธนาธร ระบุว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ข้ออ้างเรื่องธรรมาภิบาล ความวุ่นวาย ยึดอำนาจเข้ามา แต่ก็ชัดเจนว่า ไม่มีธรรมาภิบาลในรัฐบาลชุดนี้ ในเมื่อรัฐบาลที่พูดเรื่องนี้ทุกวันไม่ทำตัวให้เป็นตัวอย่าง ตนก็ขอไม่ก้าวก่ายการทำงานของพรรคการเมืองพรรคใด แต่นักการเมืองควรต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่างของสังคม ให้เห็นว่า มาตรฐานของสังคมไทยเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงหนึ่งของงานในวันนี้ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร ได้บริจาคเงิน จำนวน 1 ล้านบาทให้กับพรรคอนาคตใหม่ด้วย
