"นิสสัน เทอร์ร่า"สมรรถนะลงตัว แต่ลุคยังไม่โดน

07 ต.ค. 2561 | 02:30 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

นิสสัน เทอร์ร่า เป็นพีพีวีที่เข้ามาทำตลาดหลังสุดในบรรดาค่ายรถยนต์เมเจอร์แบรนด์ ที่มีฐานการผลิตปิกอัพในเมืองไทย ไล่ตั้งแต่ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์, มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต,อีซูซุ มิว-เอ็กซ์,ฟอร์ด เอเวอเรสต์  และเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ (เรียงตามยอดขาย)

NISSAN TERRA_002

 

NISSAN TERRA_010

โมเดลนี้กว่าจะคลอดออกมา มีการปรับแก้กันหลายครั้งครับ โดยเฉพาะรูปลักษณ์ที่มีโจทย์ใหญ่คือทำอย่างไรให้ถูกใจคนเอเชีย รวมถึงสมรรถนะและออพชันต่างๆ ต้องสู้กับคู่แข่งที่ขายอยู่เดิมได้ ซึ่งบรรดาคู่แข่งที่ว่ายังได้เปรียบจากการเรียนรู้ปัญหาต่างๆหรือเข้าใจตลาดมาก่อนแล้ว

ดังนั้นถ้าวัดยอดขายในปีหน้า 12 เดือนเต็มๆ ผมว่า นิสสัน เทอร์ร่าจะเหนือกว่า เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ แบบสบายๆ แต่ตัวเลขจะสู้กับอันดับ 1-4 ได้ขนาดไหนยังเป็นคำถาม

แต่เอาละครับ ในช่วงเปิดตัวนิสสันยังอัดแคมเปญส่งเสริมการขายทันที ทั้งทำราคาพิเศษ รุ่น 2.3 V 2WD 1.316 ล้านบาท รุ่น 2.3 VL 2WD 1.349 ล้านบาท และตัวท็อป VL ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1.427 ล้านบาท ซึ่งใครตัดสินใจช้า ล่วงเลยไปถึงปีหน้า 2562 นิสสันจะขยับราคาขึ้น 5 หมื่นบาททุกรุ่นย่อย

เอสยูวีที่พัฒนาบนพื้นฐานปิกอัพที่บ้านเราเรียกว่า “พีพีวี” (ตามคำจำกัดความของรัฐบาลในการจำแนกรถเพื่อเสียภาษี) พร้อมเปลี่ยนช่วงล่างหลังจากแหนบเป็นคอยล์สปริง จะเสียภาษีสรรพสามิตในอัตรา 20% หรือ 25% ตามการปล่อยไอเสีย ซึ่งนิสสันก็ระมัดระวังในเรื่องนี้ จึงเลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซล YS23DDT คนละบล็อกกับ “นาวารา” (รหัส YD25DDT) ที่ให้ประสิทธิผลเท่าเดิม แต่อัตราการปล่อยไอเสียตํ่ากว่า

โดยเทอร์ร่า ที่ใช้เครื่องยนต์รุ่นนี้จะปล่อยไอเสียระดับ 200 กรัม/กม.(รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ) จึงเสียภาษีสรรพสามิตในอัตรา 20% ในระดับเดียวกับคู่แข่ง (แต่ถ้าใช้บล็อกเดียวกับนาวารา อัตราการปล่อยไอเสียจะเกิน 200 กรัม/กม. และโดนภาษีสรรพสามิต 25%) และแน่นอนว่าการใช้เครื่องยนต์บล็อกที่ทันสมัยกว่า ย่อมส่งผลโดยตรงกับการสื่อสารการขายให้คนรู้สึกถึงมูลค่าที่สูงกว่าปิกอัพนาวาราในอีกมุมหนึ่ง

NISSAN TERRA_065 NISSAN TERRA_071

วิศวกรนิสสันยืนยันว่า การพัฒนารถแบบบอดี้ออนเฟรมรุ่นนี้ แม้จะใช้แชสซีส์เดียวกับปิกอัพนาวารา แต่ได้ปรับปรุงเพิ่มเติมในหลายๆ จุด เช่น การเพิ่มยางรองตัวถังแบบซับแรง 10 จุด (ซ้าย-ขวาฝั่งละ 5 จุด) หวังให้ช่วยซับแรงสะเทือนจากพื้นถนน นอกเหนือไปจากออกแบบช่วงล่างหลังแบบ 5 จุดยึด (5 Link)  พร้อมติดตั้งฉนวนกันเสียงรอบคันทั้ง พื้นตัวถัง คอนโซลหน้า(กั้นเสียงจากห้องเครื่องยนต์) พร้อมใช้กระจกแบบอะคูสติก  หรือกระจกลามิเนต 2 ชั้น ที่มีชั้นฟิล์มพิเศษแทรกอยู่ตรงกลาง

ในขณะที่ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง หลังแบบ 5 จุดยึดคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลงโดยทุกรุ่นย่อยมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ประกบยาง 255/60R18 (แต่บางรุ่นใช้ยางไฮเวย์เทอร์เรนของโตโยไทร์ บางรุ่นใช้บริดจสโตน)

ทั้งนี้ ความมุ่งหวังที่จะทำพีพีวีให้อารมณ์ต่างจากปิกอัพ ผมถือว่านิสสันประสบความสำเร็จพอสมควร อย่างการรองรับแรงสะท้านจากพื้นถนน เทอร์ร่าสามารถจัดการได้ดี หรือลดความกระด้างจากพื้นฐานของปิกอัพไปได้เพียบ ส่วนพวงมาลัยยังควบคุมได้เชื่องมือ ตอบสนองได้เป็นธรรมชาติและเนียนกว่านาวารา

NISSAN TERRA_096 NISSAN TERRA_095

อย่างไรก็ตาม ถ้าจะบอกว่าช่วงล่างของเทอร์ร่า นุ่มนวลเหมือนเอสยูวีที่พัฒนาบนพื้นฐานรถยนต์นั่ง (ยกตัวอย่างเช่น นิสสัน เอ็กซ์เทรล) ก็คงไม่ถึงขนาดนั้นครับ แต่ในภาพรวมของเสถียรภาพการทรงตัว ถือว่า  เทอร์ร่าสอบผ่าน

ส่วนระบบเบรกที่ด้านหน้าเป็นดิสก์ หลังเป็นดรัม ต่างจากคู่แข่งที่เปลี่ยนเป็นดิสก์เบรก 4 ล้อกันหมดแล้ว ซึ่งนิสสันเขายอมรับตรงๆ ว่าการใช้บางพาร์ต แบบเดียวกับปิกอัพสามารถบริการจัดการต้นทุนได้ดีกว่า และไม่เพิ่มต้นทุนให้ผู้บริโภค

จริงๆ แล้วประสิทธิภาพการเบรกของพีพีวีรุ่นนี้ไม่ได้แย่อะไรครับ ปรับอารมณ์ความรู้สึก ใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับรถสักเล็กน้อยก็ไม่เป็นปัญหา ระยะเบรกยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยอมรับได้ เหนืออื่นใดนิสสันยังมุ่งไปที่การใส่ระบบไฟฟ้าที่ควบคุมและตัดสินใจแทนคน หรือเทคโนโลยีนิสสันอินเทลลิเจนท์โมบิลิตี้

เทอร์ร่า จะใส่ระบบเตือนรถในจุดอับสายตา ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางอัจฉริยะ  ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential

ส่วนฟีเจอร์เด็ดที่จัดเป็นมาตรฐานเหมือนกันทุกรุ่นคือ กระจกมองหลังที่สะท้อนภาพจริงมาจากกล้องหลัง ซึ่งแบ่งการ ทำงานได้เป็น 2 โหมดคือ เป็นกระจกมองหลังธรรมดา (วิสัยทัศน์บีบแคบ) หรือเป็นเหมือนจอภาพสะท้อนมุมมองที่มากขึ้นรอบคัน

NISSAN TERRA_074

เทอร์ร่า เป็นรถอเนก ประสงค์วางเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยตำแหน่งนั่งของคนขับค่อนข้างสูง และสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ในตำแหน่งผู้โดยสารด้านหลัง ส่วนเบาะนั่งแถวสองสามารถเลื่อนหน้า-ถอยหลังได้เล็กน้อย และมีปุ่มสั่งงานตรงคอนโซลกลางให้พับเบาะตรงนี้ขึ้นมาได้ทันที เพื่อให้ผู้โดยสารแถว 3 ขึ้นรถได้สะดวก

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด โดยอัตราทดเกียร์ อัตราทดเฟืองท้ายเท่ากับนาวารา ถือเป็นการจับคู่กันได้ลงตัว อัตราเร่งในช่วงออกตัวไม่มีปัญหากับรถขนาดน้องยักษ์ เกียร์ 7 สปีด ช่วยถ่ายทอดกำลังได้รวดเร็วต่อเนื่อง ตอบสนองแรงกดของเท้าขวาได้ทันใจตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

ด้านอัตราบริโภคนํ้ามันในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ แจ้งตัวเลขไว้ 13.15 กม./ลิตร ส่วนการขับในทริปนี้ในช่วงถนนราบและขึ้นเขาไปยังดอยตุง ยังได้ตัวเลขประมาณ 9-10 กม./ลิตร

NISSAN TERRA_313

รวบรัดตัดความ... สมรรถนะการขับขี่โดดเด่นในสไตล์พีพีวี ปรับเปลี่ยนอารมณ์จากปิกอัพนาวาราไปได้พอสมควร เครื่องยนต์ดีเซลบล็อกใหม่ 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ตอบสนองเนียนตามเท้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร มีให้ใช้เหลือเฟือ  และถือเป็นพีพีวีที่คุ้มค่าต่อราคาสูง ด้วยฟีเจอร์เด็ดๆ จัดมาเต็มตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัย เพียงแต่ผมว่าการออกแบบรูปลักษณ์ของนิสสัน ยังไม่ฉีกแปลกแตกต่าง จนผู้คนเห็นแล้วสะดุดตา หรือทำให้สนิทใจว่านี่เป็นรถคันใหม่ที่ไม่ใช่ปิกอัพ

โดต : กรกิต กสิคุณ

หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,407 วันที่ 7 - 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว