ARROW โชว์กำไรปี 58 พุ่ง65%

23 ก.พ. 2559 | 07:30 น.
บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) โชว์ผลงานปี 58 ทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 245.24 ล้านบาท    หรือเพิ่มขึ้น 65.24%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 148.41 ล้านบาท  บอร์ดเอาใจผู้ถือหุ้นลุยจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งหลังปี 58 เพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท จากครึ่งปีแรกจ่ายไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท รวมจ่ายทั้งปี 0.55 บาทต่อหุ้น มั่นใจปีนี้ทำผลงานโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท

นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (ARROW) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ของบริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 245.24 ล้านบาท  เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 148.41 ล้านบาท  คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 65.24% โดยมีสาเหตุมาจากบริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นจาก 1,004.39 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 1,209.78 ล้านบาท ในปี 2558  หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 20.45 % เนื่องจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น  ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มจาก 269.53 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น  407.66 ล้านบาท ในปี 2558  หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 51.25%

จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าว การประชุมบอร์ดครั้งที่ 1/2559 จึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดครึ่งหลังปี 2558 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด เพิ่มอีกในอัตรา หุ้นละ 0.40 บาท จำนวน 251,065,004 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นจำนวน138,085,752.20 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.15  บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2558 ในอัตรา 0.55 บาทต่อหุ้น

โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อ ปรากฎ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2559  และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551 โดยประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 2559    วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 29 เมษายน 2559 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2559

“ผลการดำเนินงานที่ออกมานั้นถือว่าเป็นไปตามคาด หลังจากที่บริษัทฯได้เดินตามแนวทาง ธุรกิจที่ได้วางไว้ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าเดิม รวมทั้งเดินหน้ารับงานใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น จากภาครัฐและเอกชน รวมถึงขยายตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ให้บริษัทมากยิ่งขึ้น และต่อจากนี้บริษัทยังคงมุ่งขยายธุรกิจในทุกภาคส่วนให้ขยายตัวโดยคาดว่าจะได้ แรงหนุนจากงานภาครัฐอย่างงานเมกะโปรเจ็กต์ที่ชัดเจนขึ้น ส่วนต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทฯยังคงเน้นขยายธุรกิจงานท่อร้อยสายไฟ ท่อกันน้ำ และท่อร้อยสายไฟใต้ดิน เนื่องจากยังมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องที่เพิ่มสูงขึ้น  โดยตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ท่อร้อยสายไฟภายในประเทศแตะที่ระดับ 65% จากปัจจุบันอยู่ที่ 55% และยังคงเน้นเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นหลัก   พร้อมตั้งเป้ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา