แดพเพอร์เพิ่มจุดขายสร้างยอดโต10%

27 ก.พ. 2559 | 07:00 น.
แดพเพอร์ เล็งเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าอีก 10% จากช่องทางขายที่มีกว่า 100 แห่ง พร้อมจับมือโรบินสัน ปรับพื้นที่ใหม่วางคอนเซ็ปต์ “เฮ้าส์ออฟแดพเพอร์” พบยอดพุ่งกว่า 50% ขณะที่ต่างประเทศเตรียมเพิ่มจุดขายและบุกตลาดใหม่ คาดผลประกอบการปีนี้โต 10%

นางภมรทิพย์ ศรีไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดพเพอร์ เจ็นเนอรัล อะแพเร็ล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์ แดพเพอร์ (DAPPER) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เตรียมแผนขยายจุดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 10% จากปัจจุบันมี 100 แห่งในรูปแบบต่างๆ แต่การขยายสาขาจะพิจารณาจากศักยภาพของพื้นที่ศูนย์การค้าประกอบด้วย ความแตกต่างจากในอดีต ที่จะขยายตามจำนวนสาขาของศูนย์การค้า เนื่องจากต้องการบริหารงบประมาณให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดและเกิดความคุ้มค่าต่อการลงทุน

“ส่วนที่มีความชัดเจนแล้ว คือ ขยายสาขารูปแบบร้านที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน ช่วงไตรมาสที่ 3 และยังมีศูนย์การค้าอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการพูดคุย โดยจะเลือกจากห้างใหญ่และมีทราฟฟิคเยอะ ซึ่งนอกจากขยายสาขาเพิ่มแล้ว สาขาเดิมก็มีการปรับปรุงใหม่ด้วย เนื่องจากทุกๆ 3 ปีศูนย์การค้าจะมีการรีโนเวต ทำให้ต้องปรับพื้นที่ให้สอดคล้องกับทางศูนย์การค้าด้วย และบางครั้งทางศูนย์การค้ายังเสนอให้พื้นที่ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย”

โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้ปรับพื้นที่เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ในรูปแบบเฮ้าส์ออฟแดพเพอร์ ด้วยคอนเซ็ปต์ของการนำสินค้าครบไลน์ ทั้งเสื้อผ้า เครื่องหนัง และแอคเซสซอรี่ กลุ่มผู้ชายและผู้หญิงไว้ในเคาน์เตอร์เดียวกัน ซึ่งปัจจุบันมี 7 จุดจำหน่ายในห้างโรบินสัน อาทิ สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 9 และปีนี้มีแผนปรับจุดจำหน่ายในรูปแบบเคาน์เตอร์ เป็นรูปแบบเฮ้าส์ออฟแดพเพอร์อีก 3 สาขา ในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน

“การปรับจุดขายใหม่ตามคอนเซปต์ดังกล่าว พบว่า ส่งผลให้ยอดขายเติบโตได้มากกว่า 50% บางสาขาเพิ่มยอดขายได้ 100-200% เนื่องจากทางห้างสรรพสินค้าจะให้พื้นที่เพิ่มขึ้น มีขนาดไม่ต่ำกว่า 60 ตารางเมตร”

ปัจจุบันบริษัทมีจุดจำหน่าย 6 รูปแบบ ได้แก่ 1. เอ็กซ์คลูซีฟช้อป จำหน่ายสินค้าครบไลน์ทั้งเสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิง 2. เฮ้าส์ออฟแดพเพอร์ รูปแบบที่ย่อขนาดมาจากเอ็กซ์คลูซีฟช้อปและอยู่ในห้างสรรพสินค้า 3. เมกะ คอนเนอร์ คอนเนอร์ขนาดใหญ่ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า จำหน่ายสินค้าเฉพาะกลุ่มผู้ชายครบทุกไลน์สินค้า 4. เคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า แยกระหว่างสินค้าผู้หญิงและผู้ชาย 5. ร้านแดพเพอร์ แอสเซส (asses) จำหน่ายกระเป๋า รองเท้า และแอคเซสซอรี่ต่างๆ และ 6. ร้านเอาท์เล็ท

นางภมรทิพย์ กล่าวต่อว่า สำหรับตลาดในต่างประเทศนั้นมีทั้งรูปแบบการขายแฟรนไชส์ ตัวแทนจำหน่าย และส่งสินค้าออกไปจำหน่าย ซึ่งในอาเซียนมีสินค้าขายอยู่ในประเทศเมียนมาผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมีจุดจำหน่าย 3 แห่ง ปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 1 แห่ง กัมพูชามีจุดจำหน่าย 1 แห่งจะเปิดเพิ่มอีก 2 แห่ง ส่วนประเทศอินโดนีเซีย ส่งไปขายผ่านทางกลุ่มเซ็นทรัล สิงค์โปร์ และเวียดนาม มีตัวแทนซื้อไปจำหน่าย ปัจจุบันยอดขายต่างประเทศมีสัดส่วนไม่เกิน 10% คาดว่า ในระยะ 3-5 ปี จะมีสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 20% โดยตลาดที่จะสนใจขยายต่อไปในอนาคต ได้แก่ ประเทศบรูไน และมาเลเซีย สำหรับเป้าหมายผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ 10%

photo : FBDapper

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,134 วันที่ 25 - 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559