Latex de Loeiเน้นโตตปท. ขยับเป้ารายได้เพิ่ม 30%

04 ต.ค. 2561 | 11:01 น.
บริษัทเมืองเลยหมอนยางพาราฯ ลุยขยายตลาดต่างประเทศ ชี้เพิ่มพื้นที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในประเทศจีน พร้อมรุกตลาดเพิ่มไปยังสิงคโปร์ และญี่ปุ่น ขณะที่ในประเทศเน้นออกงานแสดงสินค้า สู่ช่องทางออนไลน์ เชื่อรายได้ปีนี้โตได้ 30%

นางศรีประภา มณุโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเมืองเลยหมอนยางพารา จำกัด 110112 ผู้ผลิตและจำหน่ายหมอนยางพารา พรีเมียมแบรนด์ “ลาเท็กซ์ ดี เลย” (Latex de Loei) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทปีนี้จะมุ่งเน้นการขยายตลาดในต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะในประเทศจีนจะมีการขยายเพิ่มมากขึ้นจากที่ผ่านมา อีกทั้งยังจะขยายตลาดไปยังประเทศสิงคโปร์ และญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นการดำเนินการผ่านทางพาร์ตเนอร์ที่อยู่ในประเทศจีน โดยจะทำตลาดคู่ขนานกันไป เพื่อเป็นการขยายตลาด และฐานลูกค้าของแบรนด์ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น

ส่วนการทำตลาดในประเทศนั้น บริษัทจะดำเนินการด้วยการออกงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด และกรมการพัฒนาชุมชน โดยจะดำเนินการคู่ขนานไปกับการทำตลาดบนช่องทางออนไลน์ ซึ่งบริษัทสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ประมาณ 20-30 ใบต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจ โดยลูกค้าส่วนใหญ่มาจากการที่ลูกค้าได้ทดลองซื้อนำไปใช้ และมีการบอกต่อกันไปแบบปากต่อปากถึงประสิทธิภาพในการใช้งานที่เห็นผลได้จริง

“เดิมทีช่องทางการจำหน่ายของบริษัทจะเป็นการดำเนินการผ่านทางช่องออนไลน์ และมีการจำหน่ายผ่านตัวแทนทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ โดยที่ประเทศจีนปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายอยู่ 4 ราย ที่ช่วยทำการตลาดให้กับแบรนด์”

อย่างไรก็ดี บริษัทยังจะดำเนินการขยายธุรกิจ โดยการเพิ่มกำลังการผลิตหมอนยางพารา รวมถึงลงทุนเรื่องการสร้างอาคารเพิ่มเติมเพื่อเก็บสต๊อกสินค้า และการขยายพื้นที่ในการผลิต เพื่อรองรับการทำตลาดที่ขยายตัวมากขึ้นตามกลยุทธ์ โดยเชื่อว่าปีนี้บริษัทจะมียอดรายได้เติบโตขึ้นประมาณ 30-40% จากปีที่ผ่านมา โดยที่ยอดขายส่วนใหญ่จะมาจากตลาดต่างประเทศเป็นหลัก

S__9699339

สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Latex de Loei อยู่ที่เทคนิคในการปั่นนํ้ายางพาราตามระยะเวลา โดยเป็นสูตรลับเฉพาะของบริษัท จากความเชี่ยวชาญทางด้านเคมีของตนซึ่งจบการศึกษาทางด้านที่เกี่ยวกับยางโดยตรง และมีประสบการณ์ในการทำงานในโรงงานผลิตยางเป็นระยะเวลานาน ทำให้หมอนยางพาราของแบรนด์มีความุน่ม หนุนนอนแล้วไม่เกิดอาหารยวบ และสามารถนำมาซักทำความสะอาดได้ ซึ่งจะแตกต่างจากหมอนทั่วไปในตลาดที่ไม่สามารถซักได้ นอกจากนี้ยังเป็นงานทำมือ หรือแฮนด์เมด (Handmade) โดยมีการออกแบบให้รองรับต้นคอ และไหล่ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องอาการปวดจากการนอนหลับ

S__9699338

นางศรีประภา กล่าวต่อไปอีกว่า หลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จของตนนั้น อันดับแรกตนจะให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลักก่อน เพราะหากลูกค้าไม่พอใจก็จะไม่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ พร้อมกันนี้ยังช่วยให้คู่ค้า หรือตัวแทนจำหน่ายสามารถนำไปทำตลาดต่อได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งยังมีบริการหลังการขายโดยการรับประกันเคลมผลิตภัณฑ์ให้ 100% ในกรณีที่เกิดปัญหา เนื่องจากในเวลาที่ส่งผลิตภัณฑ์ไปต่างประเทศ ซึ่งจะต้องมีการซีนสุญญากาศ โดยหากระยะเวลาในการขนส่งเกิดการล่าช้า ก็จะมีผลต่อการขยายตัวของหมอน ดังนั้นบริษัทจึงรับประกันเรื่องการเคลมให้

“ในการที่ตนมาทำธุรกิจที่จังหวัดเลย แม้ว่าจะไม่ใช่ภูมิลำเนาที่เกิด แต่ตนก็เน้นให้ความช่วยเหลือสังคม โดยการ
กระจายงานไปให้กับกลุ่มแม่บ้านในจังหวัด และผู้ที่อาศัยอยู่แถวหมู่บ้าน หรือโรงงานได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย”

อนึ่ง ธุรกิจหมอนยางพาราแบรนด์ Latex de Loei เริ่มต้นขึ้นในปี 2559 จากนางศรีประภา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านยางพารา โดยได้มองเห็นช่องทางในการทำตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทหมอนยางพารา ซึ่งตลาดในประเทศจีนมีความต้องการเป็นอย่างมาก โดยนำประสบการณ์มาพัฒนาสูตรที่เป็นของบริษัท ทำให้เกิดเป็นหมอนยางพาราเกรดพรีเมียมที่มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายด้านเพื่อจำหน่าย

หน้า 13 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3406 วันที่ 4-6 ตุลาคม 2561

090861-1927-9-335x503