ธนาธร”ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ จี้“บิ๊กตู่”ประกาศลงเลือกตั้งหรือไม่!!

01 ต.ค. 2561 | 08:29 น.
 

พรรคอนาคตใหม่ ประกาศวิสัยทัศน์ “อนาคตใหม่ไทย 2 เท่า 6 นโยบาย” พร้อมส่งผู้สมัครลงชิงพื้นที่ครบ 350 เขต  “ธนาธร” ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ จี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ประกาศจุดยืนให้ชัดลงเลือกตั้งหรือไม่

เวลา 10.00 น. วันนี้ (1 ต.ค.61) พรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าที่เลขาธิการพรรค นางสาวพรรณิการ์ วานิช ว่าที่โฆษกพรรค นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร ว่าที่รองหัวหน้าพรรค นายไกลก้อง ไวทยการ ว่าที่นายทะเบียนพรรค นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ว่าที่ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย และนายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ทีมที่ปรึกษาด้านนโยบายพรรค เปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการ พร้อมแถลงวิสัยทัศน์ หลังกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองเป็นพรรคการเมือง

ธนาธร-2

นายธนาธร ประกาศวิสัยทัศน์ “อนาคตใหม่ไทย 2 เท่า” กล่าวย้ำจุดยืนว่า ต้องการสร้างอนาคตใหม่ที่เท่าเทียม สร้างมาตรฐานของไทยเท่าทัน ไม่น้อยหน้าใครในเวทีโลก โดยประเทศไทยจะต้องพัฒนาไปอย่างมีทิศทาง บนหลักการที่ประชาชนต่างมีสิทธิเสรีภาพ มีโอกาสในการเติบโตก้าวหน้าอย่างเสมอภาค ขณะเดียวกันต้องยืนหยัดอย่างมีศักดิ์ศรีในประชาคมโลก แข่งขันให้ได้มีประสิทธิภาพ ซึ่ง 3 เดือนหลังจากนี้ จะได้เห็นนโยบายของพรรคที่เชื่อมโยงกันทั้ง 6 ด้าน คือ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เกษตรก้าวหน้า ยกระดับการศึกษา การพัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟ การเพิ่มอำนาจท้องถิ่น การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมผ่านระบบภาษี และรัฐสวัสดิการแบบเท่าเทียมทั้งชีวิต ซึ่งจากนี้ไปพรรคอนาคตใหม่จะทำงานอย่างแข็งขัน เพื่อสร้างพรรคที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง การรับสมัครสมาชิกและระดมทุนเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมมีส่วนในการสร้างพรรคและตัดสินใจผ่านกระบวนการประชาธิปไตยทางตรงจะทำผ่านเว็บไซต์ ซึ่งเป็นช่องทางสำหรับการลงคะแนนไพรมารีโหวตเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค รวมถึงประชามติในพรรค

ธนาธร-3

ส่วนการส่งผุู้สมัคร นั้นนายปิยบุตร กล่าวว่า อนาคตใหม่จะเป็นพรรคที่ทำการเมืองระยะยาว ไม่ใช่เฉพาะกิจ ประกาศพร้อมส่งผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต

ขณะที่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า กรอบนโยบายพรรคมาจาก 3 ป คือ ปลดล็อก ปรับโครงสร้าง เปิดโอกาส โดยได้ศึกษา วิเคราะห์ เพื่อนำมากำหนดนโยบายพรรค เชื่อว่านโยบาที่ดีต้องแก้ปัญหาได้ระยะยาว บนพื้นฐานเท่าเทียม

นายธนาธร ยังตอบคำถามสื่อ ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สนใจงานการเมือง ว่า หากวันเลือกตั้งเกิดขึ้น 24 กุมภาพันธ์ 2562 จริง จะชี้ชะตาประเทศไทยว่าจะอยู่อย่างไร และหากสนใจการเมืองอย่างที่พูด ก็ควรประกาศให้ชัดว่าจะลงเลือกตั้งหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนจะได้ตัดสินใจ ทั้งนี้พร้อมร่วมเวทีดีเบตกับทุกพรรค แต่ไม่ขอคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. แต่หากในฐานะแคนดิเดตที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมจะดีเบต

“ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ชัดเจนว่าจะลงเล่นการเมือง ถือเป็นเรื่องดีที่ประชาชนจะได้ตัดสินใจว่าจะอยู่กับอำนาจเผด็จการต่อไปหรือไม่ ผมลำบากใจถ้าจะให้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะท่านมีหลายบทบาท” นายธนาธร กล่าว

ธนาธร-4

นายธนาธร ยืนยันว่า จะใช้ระบบไพรมารีโหวตเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค แต่ครั้งแรกอาจไม่สมบูรณ์แบบ และเชื่อว่าการเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นตามที่วางโรดแมปแต่อาจจะขยับเล็กน้อย ขอยืนยันว่าต้องการอำนาจเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ และพร้อมร่วมงานกับพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกัน โดยพรรคยึดหลักการ คือ ไม่เอาการสืบทอดอำนาจจาก คสช. ทุกรูปแบบ พรรคจะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และล้มล้างผลพวงรัฐประหาร หากนอกเหนือกรอบนี้ไม่ขอร่วมงาน และในอนาคตก็เป็นไปได้หมดว่าจะร่วมงานกับพรรคไหน เพราะการเมืองเป็นเรื่องของการต่อรอง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนประเมินสถานการณ์ เพราะเป็นพรรคใหม่ที่ยังไม่มีฐานเสียง จึงยังไม่ได้วางเป้าว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง แต่ส่วนตัวยืนยันว่าพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี

ด้านนายปิยบุตร กล่าวถึงการเปิดตัวของพรรคพลังประชารัฐที่มี 4 รัฐมนตรีในรัฐบาล เข้าร่วม ว่า ส่วนตัวสนับสนุนให้มีการตั้งพรรคเพื่อให้ประชาชนตัดสิน แต่จะต้องดำเนินการอย่างเท่าเทียมกันทุกพรรค และไม่ควรประกาศนโยบายที่ผูกพันไปยังรัฐบาลหน้า พร้อมแสดงความเป็นห่วงเรื่องกรอบเวลาก่อนการเลือกตั้ง ที่ กกต.ได้ประกาศรับรอง หลังยื่นขอจดจัดตั้งไป 97 วัน จึงจะรอดูว่า กกต.จะพิจารณาการยื่นขอจดจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐกี่วัน และยินดีหาก พล.อ.ประยุทธ์ จะลงเล่นการเมืองเต็มตัว ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว